สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า~ สำหรับ #ทีมต่อนอก ที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือกำลังแพลนๆ ไว้ในอนาคต พี่ลูกหมูอยากบอกว่า พอเราผ่านขั้นตอนการสมัครเรียนที่ต้องเตรียมเรื่องเกรด ภาษา การเขียน SOP หรือการเตรียมโพรไฟล์ หลังจากนั้นเราจะเข้าสู่หนังชีวิตจริงที่บอกเลยว่าสนุก เข้มข้น และมีเรื่องให้ลุ้นทุกสถานการณ์ไม่แพ้เขมจิราต้องรอดเลยค่ะ
ยิ่งบางคนบินไปเรียนคนเดียว บางคนอาจจะเพิ่งเคยใช้ชีวิตคนเดียวครั้งแรก และอยู่ในต่างแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวใหม่ๆ ทั้งผู้คน ภาษา วัฒนธรรม ไหนจะเรื่องระบบการเรียนที่ไม่คุ้นเคย นี่ยังไม่นับถึงเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้คาดคิด และอาจชวนให้ปวดหัวจนเกิดความเครียดได้ ซึ่งพี่บอกเลยค่ะว่าถ้าเราไม่เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมทักษะเอาตัวรอดไว้ให้พร้อม ต่อให้เรียนเก่งแค่ไหน ก็อาจทำให้บั่นทอนจิตใจจนอยากยอมแพ้เลยก็เป็นได้ค่ะ TT
แต่น้องๆ อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ จริงๆ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น 5555 วันนี้พี่ลูกหมูมาขอมาแชร์เคล็ดลับ Survival Skills รวม 8 ทักษะที่จะช่วยให้ #ทีมเด็กนอกต้องรอด ตั้งแต่เรื่องกินอยู่ ไปจนถึงการฮีลใจตัวเอง (บางอันมาจากประสบการณ์ของพี่เองตอนไปเรียนโปแลนด์ด้วยค่ะ) // ใครอยากเช็กตัวเองว่าเราพร้อมแค่ไหนแล้ว ตามพี่มาเลยค่า~
______________
1. Cooking
ปลุกสกิลมาสเตอร์เชฟในตัวคุณ!
เวลาที่เราไปเที่ยวต่างประเทศ น้องๆ จะรู้กันใช่ไหมคะว่า ราคาอาหารจานนึงคือแทบจะล้มทั้งยืน 5555 แล้วยิ่งถ้าเราไปเรียนต่อซึ่งก็มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 - 4 ปี ซึ่งถ้าจะให้เข้าร้านอาหารทุกวัน น่าจะต้องมีล้มละลายก่อนเรียนจบเป็นแน่แท้ค่ะ เพราะฉะนั้น ‘Cooking Skill’ หรือการทำอาหารถือเป็นทักษะเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานของ #ทีมเด็กนอก ที่ควรมีติดตัวไว้เลย
ซึ่งเราอาจจะไม่ต้องเก่งระดับเชฟ แค่รู้จักการทำเมนูเบสิก เช่น ไข่เจียว, ข้าวผัด, พาสต้า, ผัดผัก, ซุปง่ายๆ ฯลฯ ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ (หรือถ้าใครเป็นสายโปรตีน ก็หาสูตรทำสเต๊กไว้ด่วนๆ เลย) นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว เรายังได้กินอิ่มกว่าเดิม (เพราะจะทำปริมาณเท่าไหร่ก็ได้) และยิ่งใครเบื่อ Fast Food ที่ส่วนใหญ่มีแต่แป้ง การทำเองก็จะช่วยคุมโภชนาการให้ดีต่อสุขภาพตัวเองอีกด้วยค่ะ
................
2. Budgeting
วางแผนการเงินให้รอดเป็นยอดดี
อย่างที่รู้กันว่าค่าครองชีพที่ต่างประเทศไม่ใช่เล่นๆ เลย ไหนจะค่าเรียน ค่าเช่าที่พัก ค่าน้ำไฟ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เงินเที่ยว ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ซึ่งการทำ Budgeting หรือ การวางแผนรายรับ–รายจ่าย คือสกิลที่จะช่วยให้เราสามารถควบคุมความมั่นคงทางการเงินได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
โดยข้อดีของการควบคุมงบจะทำให้เราเห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า รวมถึงตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกได้ง่ายขึ้นด้วย โดยอาจจะเริ่มจากจดรายจ่ายทุกวัน แยกเงินเป็นก้อนสำหรับกิน-อยู่-เที่ยว ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอปที่ช่วยบริหารการเงินให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งน้องๆ สามารถเริ่มได้ง่ายๆ ตั้งแต่ตอนนี้เลย จะได้เป็นนิสัยติดตัวไว้ก่อนไปเรียนจริงค่ะ
................
3. Presentation Skills
ฝึกพรีเซนต์ ลดความตื่นเต้น (+ตื่นไมค์)
การไปเรียนต่อต่างประเทศนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่หนีไม่พ้นคือ ‘Presentation’ ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยวหรืองานกลุ่ม ทั้งในคลาสจริงและออนไลน์ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงของพี่ลูกหมูเอง บางวิชาคือแทบจะพรีเซนต์ทุกอาทิตย์ ถี่ไม่ไหว!
ซึ่งหลายคนอาจกังวลว่าถ้าสกิลภาษาเราไม่เป๊ะ หรือสำเนียงไม่ Native อะไรงี้ จะรอดมั้ยนะ? แต่ความจริงคืออาจารย์และเพื่อนในคลาสอาจไม่ได้โฟกัสที่ความเป๊ะของภาษาอย่างเดียว แต่เค้าแค่อยากเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ ใจความสำคัญคืออะไร สื่อสารความคิดได้ไหม เรามีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองแค่ไหน
ซึ่งทั้งหมดนี้พี่บอกเลยว่าถ้าเราจับจุดได้ เตรียมพร้อมทักษะและฝึกพร้อมนำเสนอบ่อยๆ เอาไว้ ยังไงก็ได้เปรียบกว่าแน่นอนค่ะ ยิ่งบางคลาสที่เน้น Discussion อาจารย์เค้าก็จะให้คะแนนจากการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะ คนไหนพูดเป็น นำเสนอเป็น และตรงประเด็น ก็เตรียมโกยคะแนนรัวๆ เลยค่ะ
Tips ง่ายๆ สำหรับ #ทีมเด็กนอก
- ใช้สไลด์ช่วยเล่า แต่ต้องไม่อัดตัวหนังสือเยอะเกินไป
- ซ้อมประโยคเปิด–ปิดให้คล่อง
- พูดช้า ชัด มีจังหวะ
- มี Eye Contact ไม่ก้มอ่านสคริปต์ตลอด
................
4. Report Writing
ฝึกเขียนให้โปร จะกี่เปเปอร์ก็ไม่หวั่น
อีกหนึ่งสกิลที่ตีมาคู่กันเลยก็คือ ‘Report Writing’ นั่นเองค่ะ เพราะชีวิตมหา’ลัยต่างประเทศ น้องๆ ต้องเขียนงานเยอะมากกกก ทั้ง Essay, Case Study, Research Report, Reflection Paper บอกเลยว่ามาหมด!
ซึ่งปัญหาที่หลายคนเป็นกัน จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่รู้เนื้อหา แต่คืออาจจะไม่รู้โครงสร้างรายงาน (Intro, Body, Conclusion) ก็เลยทำให้เขียนวกไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง (บางครั้งอาจโดนคอมเมนต์ว่า unclear หรือ lack of structure ได้ค่ะ) รวมถึงไม่มีคลังคำศัพท์เชิงวิชาการ ‘Academic Vocabulary List' เลือกใช้คำไม่ถูกบริบท ระดับภาษาไม่เท่ากัน ซึ่งอาจทำให้งานเขียนออกไม่ดีและพลาดคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้น แนะนำให้เตรียมพร้อมทักษะการเขียนรายงานเอาไว้เลยค่ะ เพราะจะช่วยทำให้เราเขียนงานได้ง่ายและไวขึ้น แถมช่วยเพิ่มคะแนน Assignment นอกจากนี้อีกเรื่องที่สำคัญเลยก็คือการเขียนการอ้างอิงแหล่งที่มา (APA / Harvard ฯลฯ) แบบให้ถูกวิธี ถ้าฝึกไว้ก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ
สรุปคำศัพท์ภาษาอังกฤษวิชาการ เตรียมพร้อมทุกสนามสอบ
................
5. Navigating Skills
ยิ่งหลงทาง ยิ่งมากประสบการณ์
การไปเรียนต่อต่างประเทศ ช่วงแรกชีวิตจะเต็มไปด้วยคำว่าหลงเลยค่ะ ไม่ว่าจะลงผิดป้าย ซื้อตั๋วผิด ต้องซื้อตั๋วใหม่ หรือเดินอ้อมจนเหนื่อยกว่าเดิม จนบางทีก็ทำให้ไปเรียนสาย ซึ่งถ้าใครเจอประสบการณ์แบบนี้ในช่วงแรก แสดงว่าน้องๆ เป็นทีมเด็กนอกเต็มตัวแล้วค่ะ 5555
ซึ่งสิ่งที่น้องๆ สามารถเริ่มอัปสกิลได้ตั้งแต่วันนี้เลยก็คือ ‘ทักษะการดูแผนที่’ เพราะจะช่วยให้เราคุ้นชินกับกับทิศทาง ช่วยให้วางแผนเวลาล่วงหน้าได้ รู้ว่าจุดไหนที่เราสามารถเดินได้ หรือจุดไหนต้องขึ้นรถ (ใครเป็นสายเดินก็ช่วยประหยัดเงินได้เยอะ) นอกจากนี้ยังทำให้เรามีความมั่นใจ กล้าไปสถานที่ใหม่ๆ และใช้ชีวิตในต่างแดนได้ Smooth ขึ้นเยอะเลยค่ะ
ซึ่งพี่ลูกหมูก็ขอโน้ตไว้ตรงนี้เลยว่า การที่เราใช้ Google Maps ให้เป็น ไม่ได้แปลว่าแค่ปักหมุดแล้วเดินตามนะคะ แต่ต้องรู้วิธีการดูเส้นทางรถไฟ/รถบัสยังไง ต้องเช็กเวลาเดินทางจริง (Real-time) และควรอ่านป้ายเสมอด้วยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงิน และไม่ต้องอารมณ์เสียแบบพี่ฮาย อาภาพรด้วยค่ะ 555555
แชร์ทริคเล็กๆ (จากคนเคยหลงมาก่อน)
- เซฟสถานที่สำคัญไว้ล่วงหน้า (บ้าน, มหา’ลัย, Supermarket ฯลฯ)
- เช็กเส้นทางก่อนออกจากบ้าน & คาดคะเนเวลา
- ดูป้ายจริงประกอบ อย่าเชื่อแผนที่ 100%
- เผื่อเวลาเสมอ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ
................
6. Time Management
ทุกนาทีมีค่า! เรียน-งาน-เที่ยว ต้องบาลานซ์
ชีวิตเด็กนอกใช่ว่าจะมีแค่ไปเรียนแล้วกลับหอซะเมื่อไหร่ บางคนอาจทำงาน Part-Time (ขึ้นอยู่กับกฎวีซ่าแต่ละประเทศ) ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ทำอาหาร ทำงานบ้าน และที่สำคัญคือการเที่ยวนั่นเองค่ะ ซึ่งถ้าเราไม่จัดการเวลาให้ดี ทุกอย่างอิรุงตุงนังไปหมด ทั้งงานเก่า งานใหม่ ไหนจะสอบ พอรู้ตัวอีกทีก็เหยียบ Deadline มาเร่งนาทีสุดท้ายก็หักโหมร่างกายจนแทบทรุด ซึ่งบอกเลยว่าอย่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ค่ะ!
ยิ่งใครที่เป็นขี้หลงขี้ลืม พี่แนะนำให้จดทุกเดดไลน์ลงปฏิทิน แปะ post-it ติดไว้กันลืม จัด Priority ทำงานล่วงหน้า ไม่รอให้ถึงโค้งสุดท้าย และควรเผื่อเวลาสำหรับพักด้วยนะ จะได้ไม่ฝืนจน Burnout
ซึ่งถ้าน้องๆ จัดการชีวิตเป็นระบบ ปรับพฤติกรรมจนกลายเป็นวินัย ก็จะทำให้เกิด work-life balance ดีขึ้น เครียดน้อยลง และมีเวลาเอนจอยทุกโมเมนต์ช่วงเรียนต่อ เพราะบางทีนี่อาจจะเป็นแค่ Once in a lifetime ก็ได้นะคะ
................
7. Stress Management
จัดการความเครียด & ฮีลใจเมื่อไกลบ้าน
การไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ได้สวยงามเหมือนในรูปที่โพสต์ลงโซเชียลเสมอไป เพราะเบื้องหลังคือทั้งความเหงา ความกดดันเรื่องเรียน ไหนจะความคิดถึงบ้าน และความรู้สึกว่าเราต้องเก่ง ต้องไหว ต้องไม่พลาด (พี่ลูกหมูผ่านความรู้สึกเหล่านี้มาหมดแล้วค่ะ T^T) บางคนถึงขั้นคิดมากจนยอมแพ้กลับไทยเลย
ซึ่งก่อนจะบินไปเรียนก็อยากให้น้องๆ ทุกคนเตรียมพลังใจไว้ให้พร้อมเลยค่ะ ซึ่งทักษะ ‘การจัดการความเครียด’ ไม่ได้แปลว่าต้องเข้มแข็งตลอดเวลานะคะ แต่คือ ต้องรู้จักพักเมื่อใจเริ่มล้า ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น โอบรับกับความเหงา ไม่ปล่อยใจให้ดิ่งดาวน์ไปกับเรื่องแย่ๆ และอย่าลืมหา Safe Zone ของตัวเอง อาจจะเป็นกิจกรรมเล็กๆ เพื่อเบนความสนใจออกจากเรื่องเครียดๆ เช่น ทำอาหาร ฟังเพลง ออกกำลังกาย เขียนไดอารีระบายความรู้สึก เป็นต้น
รวมถึงกล้าขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่ไหว โดยอาจจะคุยกับครอบครัว คนรู้ใจ เพื่อนๆ หรืออาจใช้บริการ Student Support ของมหา’ลัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ // การดูแลหัวใจตัวเองสำคัญไม่แพ้การสอบผ่านทุกวิชาเลย และอย่าลืมจำไว้เสมอว่า It’s okay to not be okay nakaaa~
................
8. Problem-Solving
แก้ปัญหาให้ไว มีสติทุกสถานการณ์
ข้อสุดท้ายนี้ขอบอกเลยยังไงก็ได้ใช้แน่ค่ะ เพราะสถานการณ์ Birth but with me ยังไงก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะว่าชีวิตในต่างแดนล้วนคาดเดาไม่ได้ อะไรๆ ก็อาจไม่ได้ง่าย และก็ไม่ได้มีใครมาคอยช่วยเหลือตลอด ซึ่งเราก็ต้องแก้ปัญหาเอาตัวรอดให้ได้
ตัวอย่างปัญหาเบสิคที่อยากให้เตรียมใจและพร้อมหาวิธีรับมือไว้ ยกตัวอย่างเช่น วันหนึ่งน้ำไม่ไหล อีกวันอินเทอร์เน็ตล่ม วันต่อมารถบัสขาดช่วง หอมีปัญหา เอกสารหาย ฯลฯ พี่เลยอยากแนะนำให้น้องๆ ลองลิสต์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและลองซ้อมๆ หา solution รับมือไว้ก่อน พอเกิดขึ้นจริงจะได้ไม่ panic ค่ะ ที่สำคัญคือ ต้องแยกให้ออกว่าอะไรที่เป็นปัญหาจริงๆ และหาเหตุ, ผล รวมถึงทางเลือก จากนั้นก็ตัดสินใจและลงมือทำทันทีเลยค่ะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือ ‘สติ’ นั่นเองค่ะ อันนี้ต้องพกไปเยอะๆ เลยยย 5555
Note: แนะนำให้น้องๆ เซฟเบอร์โทรศัพท์คนที่สามารถติดต่อได้ในยามฉุกเฉิน รวมถึงเบอร์ของหน่วยงานสำคัญๆ เวลาเกิดเรื่องไม่คาดคิดจะได้ขอความช่วยเหลือได้ทันอย่างท่วงทีค่ะ
และทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Survival Skills ที่หยิบมาฝากกันค่ะ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ชีวิตในต่างแดนยังมีอีกหลายสกิลย่อยที่ต้องค่อยๆ เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ทั้งเรื่องการปรับตัว วัฒนธรรม การสื่อสาร ฯลฯ และทุกเรื่องราวที่เราประสบพบเจอนี่แหละค่ะ จะช่วยให้น้องๆ พัฒนาตัวเองเป็นเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมลุยกับกับโลกแห่งความจริง พร้อมทำงานกับผู้คนหลากหลายได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ซึ่งสำหรับใครที่อยู่ในช่วงวางแผน พี่อยากแนะนำให้ลองเช็กตัวเองว่าทักษะไหนเรามีแล้ว หรือทักษะไหนยังต้องฝึกเพิ่ม แล้วค่อยๆ อัปสกิลเหล่านี้ไปพร้อมกับการเตรียมภาษาและเอกสารสมัครเรียน เพื่อที่เรียนจบแล้วไม่ได้มาแค่ใบปริญญา แต่ยังได้อัปเกรดตัวเองสู่เวอร์ชั่นที่เป๊ะปังกว่าเดิมด้วยค่ะ~
................
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น