|
|
[[ ความรัก -- สมอง -- และหัวใจ ]]
ความรักของเรา เริ่มต้นที่ตรงไหนกันนะ |
สวัสดีค่ะน้องๆ หลายวันที่ผ่านมานี้ พี่จูนสังเกตเห็นในบอร์ดต่างๆ พบว่า น้องๆ มีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟัง โดยเฉพาะเรื่องของ "ความรัก" และส่วนมากก็เป็นความรักที่ยังไม่สุขสมหวังเท่าที่ควรซะด้วย (-,,-) ดังนั้น เพื่อหนทางไปสู่ความรักที่อยู่ยั้งยืนยงแล้ว พี่จูนขอแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักกับความรักในมุมมองของวิทยาศาสตร์ ให้สมกับเป็น Dek-D กันหน่อยค่ะ แล้วจะรู้ว่า...เรื่องความรักนั้นเข้าใจได้ไม่ยาก หากใช้สมองและหัวใจในการเรียนรู้ พร้อมแล้ว GO!
หลายคนเคยพยายามค้นหาคำตอบของการ "รักด้วยสมอง" หรือ "รักด้วยหัวใจ" ว่าแบบไหนดีกว่ากัน? เรื่องนี้ไม่มีผิดถูกค่ะ เรารู้อยู่แล้วว่า ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และความพึงพอใจ ซึ่งก็คือการรักด้วยหัวใจนั่นเอง เอ...แล้วถ้ารักด้วยสมองล่ะ "ความรัก" อยู่ในส่วนใดของสมองกันนะ?
สมองเป็นศูนย์รวมของความคิด และความรักก็อยู่ในส่วนกลางของสมองหรือไฮโพทาลามัส เพราะส่วนนี้จะได้รับการกระทบทางอารมณ์อย่างมาก และยังเป็นส่วนที่ควบคุมการผลิตฮอร์โมนต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ความรักก็ยังอยู่ในส่วนของอมิกดาราด้วย เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวกับจินตนาการล้วนๆ
น้องๆ คงจินตนาการถึงภาพการทำงานอันซับซ้อนของสมองออกนะคะว่าไม่ต่างอะไรกับวงมโหรีซึ่งต้องทำงานประสานสอดคล้องกันตลอดเวลา ดังนั้นจึงยากนักที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของสมองจะแสดงความรักออกมาให้เห็นชัดเจน และกลไกของความรักก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงที่สมองเท่านั้น แต่การที่เราจะรักใครสักคน ตาเราต้องรับรู้ หูเราต้องได้ยิน จมูกเราต้องได้กลิ่น และบางครั้งปากเราก็ต้องรับรสความรักด้วย (อย่าคิดลึกนะ หมายถึงการใช้ภาษาใจและภาษากายนั่นเองค่ะ)
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความสุขและทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือโดปามีน (Dopamine) ซึ่งมีโครงสร้างเหมือนกับเอนโดรฟิน (Endorphin) ออกมา และความสุขนี้จะทำให้เกิดสมดุลในร่างกาย ทำให้ทุกๆ ส่วนในร่างกายดีตามไปด้วย
ทีนี้มาถึงคำถามว่า "รักด้วยสมอง" กับ "รักด้วยหัวใจ"ต่างกันอย่างไร? คำตอบแบบมีหลักการและเหตุผลก็คือ...การรักแบบ Logic กับการรักแบบ Emotion ค่ะ อธิบายง่ายๆ ว่า "ความรักเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์"
ศาสตร์ คือ ตรรกวิทยา (Logic) หรือวิทยาศาสตร์ซึ่งพิสูจน์ได้ ศิลป์/ศิลปะ คือ ความเชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์กับศิลปะ ผลคืออารมณ์ และจินตนาการ (Emotion) สรุปก็คือ "Logic คือ รักด้วยแนวคิดหลักการเหตุผล ส่วน Emotion คือ รักด้วยอารมณ์" นั่นเอง
และในความเป็นจริงแล้ว คนเรามักจะรักกันด้วยเหตุผล แต่สุดท้ายก็จะตัดสินด้วยอารมณ์ เช่นเดียวกับที่คนทั่วไปมักจะเข้าใจผิดคิดว่า ความหลง เป็น ความรัก ซึ่งที่จริงแล้ว ความรัก ตรงกับภาษาอังกฤษว่า love ส่วน ความหลง ตรงกับภาษาอังกฤษว่า affection คือ ความรู้สึกพึงพอใจ ความเสน่หา และทั้งสองคำนี้ ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
น้องๆ วัยรุ่น อยู่ในวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและความคิด เป็นวัยที่มีความรู้สึกละเอียดอ่อน หวั่นไหวไปกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้น หลายๆ คนกำลังเริ่มมีความรักและพบว่าความรักนั้นมีปัญหา พี่จูนขอบอกเลยนะคะว่า "ความรักไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่ไม่เข้าใจความรักต่างหากที่น่าจะมีปัญหา"
เพราะว่าในความรักจะไม่มีความระแวง มีแต่ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความรักเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่มีการจางหาย มีแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต่างจากความหลง ที่มักจะขึ้นๆ ลงๆ บางช่วงก็หวือหวา บางเวลาก็โกรธ เกลียด เป็นต้น และความรักก็ไม่เคยเปลี่ยนไปแต่ความคิดคนเราต่างหากที่เปลี่ยนแปลง
ความรักแท้ที่จริงแล้วก็คือ การผูกพัน แต่ปัจจุบันความรักคือ การพึ่งพา น้องๆ คงสังเกตว่า ความรักของคนยุคนี้...ถ้าเธอดีกับฉัน ถ้าเธอช่วยเหลือฉัน ถ้าฉันพึ่งพาเธอได้ แปลว่า "เธอรักฉัน" เมื่อนานวันขึ้น...การแสดงออกต่อกันก็เปลี่ยนไป ทำให้เรามองว่าความรักกำลังมีปัญหา ทั้งที่จริงแล้ว เราต่างหากที่มีปัญหา เพราะเราเข้าใจความรักผิดมาตั้งแต่ต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงยากที่จะแยกแยะว่า "รักด้วยสมอง" กับ "รักด้วยหัวใจ" อย่างไหนสำคัญกว่ากัน เพราะต้องใช้ทั้งสองอย่างประกอบกันเสมอ ดังนั้น แม้จะผ่านความรักมากี่ครั้ง หรือต้องผ่านอีกสักกี่หน ก็ขอให้ทุกคนศรัทธาในความรัก ซึ่งไม่เพียงเกิดกับใครบางคน แต่มีโอกาสเกิดกับทุกคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ วัยเรียน ต้องคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมให้มาก อย่านอกลู่นอกทาง และระมัดระวังเรื่องการวางตัวด้วยนะคะ แล้วความรักจะเป็นสิ่งดีงามตลอดไปค่ะ
|
Ref. บทสัมภาษณ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนต่อมไร้ท่อและการเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ |
Quote of Love (ส่วนหนึ่งที่พี่จูนสะสมไว้ค่ะ)
แค่อยากจะขอเธอได้ไหม ไม่ว่าตัวฉันเป็นอย่างไร ขอเพียงใจเธอคงเดิม ไม่ว่าตรงนี้เป็นเช่นไร อย่าหันเดินจากไป ขอเธอจงเชื่อใจฉันว่า...รักเธอ (มีคนเขียนมาให้ พร้อมดอกไม้ 1 ช่อ ตอนวาเลนไทน์ ปี 45 ; มีคนบอกรักกับเค้าเหมือนกันนะเออ 55+)
อย่าสมมติให้ รัก เป็นเรื่องยากเหมือนงมเข็มในทะเล แต่ให้ รัก คือการให้เวลา เพื่อเรียนรู้กันและกันว่า ยิ่งนานยิ่งรัก (จากคนรักโดม ปกรณ์ ลัม เขียนมาในที่คั่นหนังสือ)
คุณอาจเป็นแค่คนๆ หนึ่งในโลกใบนี้ แต่คุณอาจเป็นโลกทั้งใบของใครบางคน (เก็บมาจาก fw.mail ฉบับหนึ่ง)
ความรัก ไม่ใช่เรื่องที่ลืมกันง่ายๆ ไม่ใช่ก่อนนอนที่ลืมแปรงฟัน (น่าจะจากหนังสือของต้นกล้า นัยนา ถ้าผิดพลาดขออภัยด้วยค่ะ)
ความรักในระยะแรก ร่างกายจะหลั่งสารอย่างหนึ่งออกมา เป็นสารที่สร้างความกระตือรือร้น ให้มนุษย์ทำทุกๆ อย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก (อยากเห็นเธอสบายดี : ต้นกล้า นัยนา)
ถ้าเราไม่ลองผิดลองถูก เราจะไม่รู้หรอกว่า...ความรักที่แท้จริง มันอยู่ที่คนไหนกันแน่ เราอาจคิดว่าคนนี้ใช่ แต่เมื่อไรที่ไม่ใช่ เราจะรู้ว่าที่ใช่มันเป็นยังไง (อยากเห็นเธอสบายดี : ต้นกล้า นัยนา)
มีเรื่องยากอยู่สองอย่าง คือ บอกรัก กับ หยุดรัก หยุดรักเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีคนทำให้เป็นไปได้ออกบ่อย มันขึ้นอยู่กับว่า เริ่มรักกันอย่างไร และเลิกรักกันอย่างไร (อยากเห็นเธอสบายดี : ต้นกล้า นัยนา)
ถ้าหากใครทรยศคุณเป็นครั้งแรก นั่นเป็นความผิดของเขา ...แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง นั่นแหละ...ที่เป็นความผิดของคุณ (เพื่อนสนิทส่งมาให้)
ความรัก ไม่ต้องใช้ความพยายาม การตัดใจต่างหากที่ต้องใช้ (เพื่อนสนิทส่งมาให้)
หากผมสามารถนิยามความรักออกมาเป็นคำพูดได้ ผมคงไม่ต้องแยกทางกับเธอหรอก (หนังสือ รักอุ่นๆ จากมูนส์แฟมิลี่ เล่ม 1)
เรามักคิดผิดไปว่า ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งรักเราแล้ว พวกเขาจะแสดงออกและประพฤติในแบบเดียวกันกับเรา (หนังสือ Manre from Mars, Womanre from Venus)
อย่ารักใครเพราะสงสาร เพราะนั่นคือความสงสาร ไม่ใช่ความรัก (หนังสือในเครือดอกหญ้า จำชื่อเรื่องไม่ได้)
แล้วความรักของน้องๆ เป็นแบบไหน มาคุยกันนะคะ...
|
19 ความคิดเห็น
แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง.. นั้นแหละที่เป็นความผิดของคุณ"
ถูกใจจัง เหอๆ
ที่แน่ๆ คือ อย่าใช้อารมณ์
คนเราต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย
ขอให้ใช้หัวใจชื่นชมในข้อดี และใช้สมองยอมรับในข้อเสีย
รับรองว่า คบกันได้นานแสนนานแน่นอนค่ะ
นิยามความรักของมอ คือ
รัก"ตัวเอง" ให้เหมือนกับ รัก"คนอื่น"
สำหรับเราแล้ว
ไม่ว่าจะรักเขาด้วย
"สมอง"
หรือ
"หัวใจ"
ก็ไม่ต่างกันซักนิด
ก็เขาอยู่ในลมหายใจของฉันเลยด้วยซ้ำนี่นา...
'ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา'
ถ้าหากเราคิดว่าเราต้องการสิ่งใดๆได้ แล้วทำไมเขาจะต้องการสิ่งใดๆนั้นไม่ได้ล่ะ....จริงมั้ย??
ถ้าหากจะรักใครสักคนหนึ่งในนานที่สุด...เราต้องเดินทางสายกลาง (ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป)
แล้วจะรู้ว่าความรักจะอยู่กับคุณไปอีกนานเท่าที่คุณอยากให้เป็น
ไม่เชื่อก็ต้องลองดูนะ >///<
เอาใจใส่สิ่งเล็กน้อย
หากเราจำด้วยสมอง เราอาจลืมมันได้ แต่ถ้าเราจำด้วยหัวใจ ชั่วชีวิตนี้จะไม่มีวันลืม
อะไรประมาณนี้แหละนะ
ตอนนี้รักคนคนนึงมากๆเลยแหละ
ปากของเค้าก็บอกว่ารักแต่ดูเหมือนเค้าจะดูเย็นชายังไงไม่รุ้
Sad เพราะเหลืออีกปีเดียวที่เราจะได้อยู่กับเค้า ปีหน้าเรากับเค้าคงต้องจากกัน
ต่างคนก็ต่างมีชีวิตไปคนละทาง
ถึงวันนั้นก็ยังไม่รุ้เลยว่าเราจะทำยังไง คงจะเสียใจน่าดู
ร๊ากมาก เจ็บมาก (รุ้ๆอยู่)
จะพยายามแล้วกัน