Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จ่ายค่าเทอมแพงๆเพื่อ..เจอสังคมแย่ๆ! [ประสบการณ์ ห้องพิเศษสายศิลป์ภาษา ม.ต้น]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จ่ายค่าเทอมแพงๆเพื่อ..เจอสังคมแย่ๆ! [ประสบการณ์ ห้องพิเศษสายศิลป์ภาษา ม.ต้น]
______________________________________________________________________________________



มั น ก็ แ ค่ ค ว า ม น้ อ ย เ นื้ อ ต่ ำ ใ จ อ ย่ า ง ห นึ่ ง . . . . แ ล ะ เ ป็ น ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ส มั ย ม . ต้ น


รร. มัธยมของเรา เด่น วิทย์-คณิต (แต่กิจกรรมนี่ยังเยอะ) แต่ตอนเราสอบเข้า โดยพื้นฐานรักทางด้านภาษามากกว่า เราเลยเลือกห้องสายศิลป์ภาษา พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมจ่ายค่าเทอมกี่บาทก็ได้ขอให้ลูกได้เรียน แล้วเราก็สอบได้ที่ท้ายๆนี่แหละ (ไม่ได้เรียนเก่งและไม่ได้มีพื้นฐานอะไรเสียเท่าไหร่)

เข้ามาช่วงแรกๆรู้สึกดีใจมากที่ได้เรียนสิ่งที่ตัวเองรัก และอยากเรียนมาตลอด เพื่อนๆก็น่ารักดี เป็นกันเอง ดีบ้างไม่ดีบ้างแต่โอเค อาจารย์ก็สอนดี ส่วนพี่ๆที่จบไปก็มีแต่คนเก่งๆสร้างชื่อเสียงให้โครงการมาแล้วมากมาย นี่สิชีวิตม.ต้นที่แสนวิเศษที่เรารอคอยมานาน...

แต่มันจะมีระบบหนึ่ง..ที่เราไม่ค่อยจะชอบเลย คือ มันจะมีการ ' ประเมินอาจารย์ผู้สอน ' ก่อนภาคเรียนจะมีกระดาษแผ่นหนึ่งแจกให้นักเรียนทุกคน เพื่อประเมินการสอนของอาจารย์ (ตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งเคยเจอนี่แหละ..) และแน่นอนอาจารย์ท่านไหนถูกประเมินไว้ต่ำมากๆก็จะถูก ' ไล่ออก '

ฟังดูเป็นอย่างไรบ้างคะ ? บางคนอาจจะบอกว่าก็ดีเพราะเรามีสิทธิเลือก บางคนก็อาจจะบอกว่าไม่ดี ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ไม่ชอบอยู่ดีค่ะ ! เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วัน...



ก็มีข่าวออกมาว่า อาจารย์ทุกท่านที่สอนห้องเรา ' ถูกไล่ออกหมดเลย... '

บางคนก็พากันร้องห่มร้องไห้ บางคนก็เฉยๆ และทำท่าทีดีใจ(รู้เลยใครใครเขียน) ถามหัวหน้าโครงปรากฏว่าเป็นเรื่องจริงตอนนั้นแหละที่พวกเราเริ่มจะเห็นท่าแท้ซึ่งกันและกัน เริ่มไม่ไว้ใจกัน จนแยกตัวออกเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนทีละนิดๆ.. ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. เหมือนอยู่คนละห้องเลยค่ะ

และมันมีสิ่งแย่ๆอีกอย่างหนึ่ง..มันจะเป็นแบบนี้ คือ
อ. ที่ถูกไล่ออก = อาจารย์ที่สอนดี เอาใจใส่นักเรียน จะโหดๆหน่อย ตรงไปตรงมา (เราชอบมาก)
อ. ที่ยังอยู่ = อาจารย์สอนชิลๆ ให้เกรดง่ายๆสบายๆ ชื่อไม่เช็ค แต่นักเรียน เรียนไม่เข้าใจ
ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือ...
อาจารย์ดีๆที่ไหน เขาเอาข้อสอบ pre-test มาให้นักเรียนทำแล้วบอกให้ทำเสร็จเร็วๆ พอส่งครบก็เฉลย จากนั้นก็แจกข้อสอบจริงซึ่งหน้าตาเหมือนเด๊ะ !! ทุกคนได้เต็ม ทั้งๆที่ไม่ได้เข้าใจอะไรในเนื้อหาเล้ย จำ a b c d ไปก็ได้ เท่านั้นยังไม่พอค่ะบางวันก็เอาข้อสอบมา แล้วให้ทำไปพร้อมกันใครไม่ได้เต็มก็บ้า ==
บอกตรงๆ ทุกชั่วโมง แทบไม่ได้เปิดหนังสือเลย ทำแต่ข้อสอบ ==; pre-test post-test pre-test post-testpre-test post-testpre-test post-testpre-test post-testpre-test post-testpre-test post-testpre-test post-test
จนจะบ้า


หลังจากนั้นมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะทะเลาะวิวาท ยาเสพติด สุรา นินทา ต่อว่า และมีการประชุมผู้ปกครองถึง 2 ครั้ง โดยเชิญท่านผู้อำนวยการมาด้วย และได้ไล่นักเรียนคนนึงออก จากนั้นขาดความนับถือซึ่งกันและกันไปโดยปริยาย อาจารย์และนักเรียนห้องอื่นๆ ก็เริ่มมองห้องเราไม่ดี โดนดูถูก บลาๆ หลายอย่างค่ะ ชั่งมันเถอะ TT

เพื่อนๆจาก รร.ประถมเก่า ที่เรียนเก่งกว่าเราก็เสียคน ไม่ค่อยเข้าเรียน ก้าวร้าวกับครูผู้สอน เพราะคบเพื่อน บางคนเพราะติดเพื่อน บางคนติดแฟน บางคนแย่อยู่แล้วแย่กว่าเดิมอีกอ่ะ แต่กลับกันที่ผลการเรียนเราเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับเรา เพราะเริ่มปรับตัวได้

โดยพื้นฐานจริงๆแล้วสายศิลป์ภาษา รร.เรานั้น คนที่สอบเข้าได้มีเปอร์เซ็นต์ดังนี้
- เด็กเก่ง 0.5% (คะแนนสอบจะท๊อบๆเสมอ)
- เรียนดีพอใช้ 1%
- ไม่ค่อยมีคนเลยสอบเลยได้ 2% (เราน่าจะอยู่ในนี้แหละ)
(#ที่เปอร์เซ็นต์น้อยๆเพราะในห้องมีคนอยู่นิดเดียว)

นอกนั้นคือยัด และ สอบ วิทย์-คณิต ไม่ติด โครงการคนไม่พอเลย ดึงมา
(แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ดีไปหมดนะ ดีก็มีบางคน...)




เนื่องจากเปลี่ยนอาจารย์ต่างชาติทุกเทอม พวกเราจึงต้องเริ่มเรียนบทเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเรียนเลยห้องเราเลยค่อนร่อยหรอ กว่าห้องธรรมดา ไม่ต้องถามถึงห้อง วิทย์-คณิต ตกไกลกว่าเขาสุดๆ..(หมายถึงส่วนมาก)


ในห้องเราถึงจะเรียกห้อง 'ภาษา' แต่มีคนพูดกับชาวต่างชาติรู้เรื่องแค่ 0.05 % ถูกดึงตัวไปแข่งวิชาทางด้านภาษา แค่ 0.005 %(กลับกัน เด็กวิทย์-คณิต รร.เรา ถูกดึงตัวไปแข่งทุกด้าน และยังภาษาเก่งกว่าห้องเราอีก ) ห้องเราสอบขึ้น ม.4 ได้ รร.ดัง 1% (มีแต่กลุ่มเด็กเรียน กับกลุ่มเรา) ==;; ใครก็ได้ร้องไห้แทนเราที

#ประกาศ ไม่ได้มีปัญหากับเด็กวิทย์-คณิตตามข่าวลือค่ะ เป็นเพื่อนกันซะด้วยซ้ำ จริงๆนะ มีอะไรก็พูดกันได้ เราก็มีเพื่อนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน (แต่จะส่วนน้อยแบบแย่งผช. ผญ. ไรงี้ ==;;;;;;;; พึ่ง ม.ต้นเอง )


สรุปคือ ถือเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีมากค่ะ(แต่ไม่เจออีกจะดีกว่า) ถ้าเราสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ขอให้อย่ายอมแพ้ มองโลกในแง่บวก เลือกคบเพื่อนที่ดี ไม่ไขว้เขวกับสิ่งแวดล้อมที่เป็น และเราเชือว่าต้องมีคนอื่นๆที่หนักกว่าเรา และเขาก็พยายามสู้เหมือนกับเราอยู่ เราอายุแค่นี้เองต้องเจอเรื่องที่แย่กว่านี้อีกมาก เราเชื่อว่าคนที่อดทนไม่ย่อท้อจะต้องมีซักวันที่จะไปถึงฝั่งฝันอย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณค่ะ


-เด็กศิลป์จอมแก่น-

แสดงความคิดเห็น

>