ขอคำปรึกษา!เรียนญี่ปุ่นมา3ปี ไม่รุ้เรื่อง กลับดีไหม?

เจ้าจองกระทู้นะคะ

เข้าใจนะคะทุกคนจะต้องบอกว่าอยู่ญี่ปุ่นดีๆๆ สนุกๆ มีแต่คนอยากไป ได้เปรียนไรเงี้ย555 เข้าใจนะคะว่ามาที่นี่มันดีมาก แต่อยากขอคิดจริงๆในเรื่องอนาคตว่า ถ้าแค่ได้ภาษามันก็ได้หรอคะ หรือเราต้องได้พวกวิทย์คณิตไรงี้ด้วย คือม.ปลายมันต้องยากกว่าเดิม บะกลัวไม่รุ่เรื่องอ่ะค่ะ เรียนที่ไทยน่าจะเข้าใจง่ายกว่า เพราะภาษามันเอาตอนไหนก็ได้ไรเงีเย แต่ขอคำแนะนำจากสังคน รร.เอกชนด้วยนะพ กลัวเข้าละทุกคนจะแบ่งแยก หรือ กลัวไม่เข้ากับเพื่อนอ่ะค่ะ คุณครูสอนเข้าใจมัเยไรเงี้ย จอในแง่ที่ดีต่ออนาคตนะคะ มาญี่ปุ่นไม่ได้สนุกอย่างที่คิดเลย555555

ผมก็อยู่ญี่ปุ่นเหมือนกันครับ

เรียน รร ภาษาอยู่ จาก ปสก ม ปลายที่ไทยเรียนภาษาไทยยากครับ ฟิสิก เคมี ไบโอ ยากหมดแต่ถ้าไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นด้วยแล้ว ไบโอจะยากที่สุดครับ

1.ต้องถามตัวเองว่าอยากใช้ชีวิต ในไทยหรือญี่ปุ่น

2.มี

3.อันหลังสิครับ n2ก็พอแล้ว จริงๆไม่ไหวก็n3เข้าเซนมงก็ได้

4.เน้นอิง

5.ไม่รู้ครับ เรียนมาใน รร รัฐ ฟรีทุกอย่างแต่ถ้าเกรดตกก็โดนไล่ออก

6.แล้วแต่ รร

ขอถามกลับบ้าง....อยู่จังหวัดไหนหรอครับ แล้วรู้ไหมว่าถ้าจบ ม.ปลายญี่ปุ่น มีสิทธิ์เข้า มหาลัยได้ง่ายกว่า แต่สุดท้า่ยก็ดูคะแนน (บอกทำไมเนี่ยｗｗｗ)

ขอตอบในฐานะเด็กไทย ที่สอบติดทุนญี่ปุ่น แต่เลือกเรียนที่ไทย (จุฬา) นะจ้ะ ขอตอบเรียงตามข้อเลย

1. ก่อนจะคิดว่าจะอยู่หรือกลับดีไหมนั้น น้องต้องคิดก่อนว่าเมื่อน้องเรียนจบแล้วอยากทำงานที่ไหนดี หรือทำงานด้านอะไร ซึ่งจากที่พี่อ่าน สรุปได้ว่าน้องอยากเป็นแอร์ ซึ่งการเป็นแอร์ถ้าเราได้ภาษาอื่นนอกจากอังกฤษมันจะเป็นใบเบิกทางที่ดีมากๆจ้า และถึงแม้ว่าภาษาญี่ปุ่นจะยากแต่ถ้าน้องพยายาม น้องก็จะทำได้แน่นอนค่ะ แต่ทั้งนี้ น้องต้องหาเป้าหมายให้เจอเพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิต เช่น น้องอยากเป็นแอร์สายการบินญี่ปุ่น น้องก็บอกกับตัวเองเลยว่า "ฉันมาที่นี่ ฉันมีเป้าหมาย ฉันจะไม่ยอมถอยกลับจนกว่าจะเก่งภาษา" เป็นต้น ดังนั้นอยู่ไทยหรือญี่ปุ่นไม่สำคัญ ขอเพียงน้องรู้เป้าหมายตัวเอง น้องจะพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่นอน

2. เรียนภาษาสำคัญมากๆเลยนะ ไม่ว่าจะเรียนสายวิทย์หรือศิลป์ อย่างพี่เองเรียนสายวิทย์มา ยังต้องไปเรียนภาษาเพิ่มเลยนอกจากอังกฤษ เพราะมันเพิ่มโอกาสในการทำงาน อย่างน้อยถ้าน้องรู้ภาษา น้องก็ทำอาชีพเกี่ยวกับภาษาได้อีกเยอะ เช่น ล่าม นักแปลนิยาย หรือเป็นนักเขียนก็ได้ เป็นต้น

3. ข้อนี้ตอบยากแฮะ ว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน แต่สิ่งที่พี่อยากแนะนำที่สุดก่อนที่เราจะชั่งนำ้หนักว่าเลือกรู้ภาษาหรือเนื้อหาที่เรียนนั้น คือการรู้ "เป้าหมายอาชีพ/ชีวิต" ก่อน อย่างพี่เองแม้จะสอบติดทุนญี่ปุ่น (แบบฟลุ๊คๆ) แต่พี่สละสิทธิ์เพราะพี่มองเห็นตัวเองว่าอยากเป็นอะไร และพี่จะต้องใช้เวลามากแค่ไหนในการทำมันให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งก็คือ แพทย์ ซึ่งทุนที่พี่ได้เนี่ย มันต้องเรียนเป็นญี่ปุ่น ซึ่งตัวพี่เองยอมรับว่าภาษาพี่เองก็งูๆปลาๆ พี่กังวลมากเพราะพี่ไม่อยากเสี่ยงเรียนทั้งๆที่ภาษาญี่ปุ่นยังไม่แข็ง พี่เลยสละทุนทิ้งซะ (นำ้ตาเล็ด) แล้วตั้งใจเรียนที่ไทย และลงญี่ปุ่นแบบ advanced ไปด้วย เพื่อพัฒนาศักยภาพไปพร้อมๆกัน และเมื่อถึงเวลาที่พี่พร้อม พี่มั่นใจ พี่จึงจะไป ดังนั้นน้องไม่ต้องกังวลมากว่าภาษาหรือวิชาชีพอะไรสำคัญกว่ากัน เพราะมันสำคัญพอๆกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ "เป้าหมาย" ของเราและ "วิธีการที่จะไปสู่เป้าหมาย" ของเรานั้นมันเป็นแบบไหนต่างหาก

4. การเป็นแอร์ เท่าที่ได้ยินมา จะเน้นภาษา (อังกฤษเป็นหลักแต่ถ้าได้อย่างอื่นด้วยจะดีมากๆ) และบุคลิกภาพค่ะ

5. โรงเรียนในประเทศไทยสังคมมันก็มีหลากหลายค่ะ ขึ้นกับว่าน้องสนใจเรียนโรงเรียนแบบไหน เช่นโรงเรียน สหศึกษา หรือหญิงล้วน ก็มีผลแตกต่างกันไป แต่ถามว่ามีคนอวดรวยอะไรไหม แน่นอนว่ามีค่ะ และมีทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย

6. คุณครูดีไหม อันนี้ก็ตอบยากมากเพราะขึ้นกับดวงเลยว่าน้องจะเจอครูแบบไหน อย่างพี่ตอนม.ปลาย พี่เจอครูดีในวิชาฟิสิกส์ ชีวะ เคมี สังคม พี่เลยชอบวิชาพวกนี้ถึงขั้นสุด พี่มีความสุขกับการเรียนมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนที่ไทยก็หนักมาก แล้วเด็กส่วนใหญ่ก็นิยมไปเรียนพิเศษกันถึง 2 ทุ่มเกือบทุกวัน (เหมือนพี่ 555) ดังนั้น ถ้าเกิดน้องเลือกที่จะกลับมา น้องก็อาจต้องยอมรับข้อเท็จจริงส่วนนี้ด้วยนะเออ

สรุปก็คือ พี่อยากให้น้องเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ว่าน้องจะเลือกเดินทางไหน ขอให้ทำให้ดีที่สุด แม้เราจะไปได้ช้า แต่อย่างน้อยเราก็ยังไม่หยุดเดิน พี่เชื่อว่าใครก็ตามที่ไม่ยอมแพ้ ซักวันจะประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ ^^