Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มารู้จักโรงเรียนทางเลือก สยามสามไตร จากศิษย์เก่า(part อนุบาล)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ สำหรับคุณผู้ปกครองบางคนที่กำลังหาโรงเรียนให้ลูกอยูเนอะ แล้วก็สำหรับใครที่กำลังงงอยู่ว่าโรงเรียนทางเลือกมันเป็นยังไง ดีจริงๆรึเปล่า วันนี้จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ( จขกท. จบมานานแล้ว ข้อมูลบางอย่างจะไม่อัปเดต แต่แน่นอนว่าคุณจะได้ฟังในอีกแง่ ของผลลัพธ์จากเด็กที่จบมาเนอะ)
 โรงเรียนสยามสามไตร แต่ก่อนชื่อโรงเรียนอนุบาลหนูน้อย เมื่อเปิดประถมก็มี และบ้านพุทธประถม เพิ่มขึ้นมา แต่พอสร้างโรงเรียนใหม่อีกรอบ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อนี้ค่ะ รร ตั้งอยู่ที่ซ. สุขุมวิท 89/1 ซอยตันและเล็กมาก ซึ่ง รร ก็เล็กมากเช่นกัน 555 
>โรงเรียนเล็กไม่ได้แปลว่าแออัดนะคะ เล็กคือเล็กทั้งหมดจริงๆ ตอนเราอยู่มีนักเรียนทั้ง รร 200 กว่าคน รุ่นนึงมี 1 ห้อง และหนึ่งห้องมีประมาณ 10 กว่าคน ครูดูแลทั่วถึงมากกก เรารู้จักกันทั้ง รร
>ชีวิตตอนอนุบาล มีความสุขดีนะคะ เป็นความจริงที่ห้องเรียนไม่มีแอร์(พ่อแม่เราชอบ) และนักเรียนเล่นกับทราย แต่นั่นไม่ใช่ข้อด้อยนะคะ อย่างน้อยเราก็มีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อนป่วยเราก็ไม่ติด ส่วนเล่นทรายเนี้ย มันไม่ธรรมดานะคุณ มันสร้างความสุขให้พวกเรามาก และสร้างเสริมจอนตนาการให้พวกเราได้เป็นอย่างดี เพราะอุปกรณ์เล่นเยอะมากกกเราได้เรียนรู้ที่จะเอาน้ำใส่เพื่อให้ทรายแน่น หรือโรยทรายละเอียดเพื่อให้มันสีขาว

>เรื่องการเรียน บอกเลยว่าจำแทบไม่ได้ 555 รู้แค่ตอนตัวเองเรียน ก ข ค ตอนเริ่มต้น เราอ่านหนังสือได้ แล้วสมองก็ไม่รับรู้อะไรวิชาการอีก จำได้อีกทีคือตอนสอบ คุณรู้มั้ย รร สอบอะไร สอบท่องอาการ 32 จ้า หรือถ้าจะให้อธิบายสำหรับคนไม่เคยได้ยิน มันเหมือนการเอาการปากเปล่า คำศัพท์หมวดร่างกายในภาษาบาลีอ่ะค่ะ
ปล.ต่อตรงคอมเมนท์นะ

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

หนูน้อย2 25 ก.พ. 61 เวลา 13:06 น. 1

>พูดถึงวิถีพุทธ ตอนเราอยู่อนุบาลสาม จำได้ว่า รร จะพาไปถวายภัตตาหารทุกอาทิตย์ที่วัดธรรมมงคล พอไปถึงวัดหลังจากถวายภัตตาหารเสร็จแล้วก็จะมีนั่งสมาธิ เดินจงกลม ฟังเทศน์ อะไรประมาณนั้น และทุกวันพระ จะมีพระมารับบาตรที่ รร ค่ะ เอาจริงๆคือตอนนั้นพระอาจารย์จำพวกเราได้ด้วยซ้ำ 555

อีกเรื่องนึงที่พีคของ รร วิถีพุทธนี้ คือการไปวัดป่าค่ะ เราจะไปวัดป่าสุนันทวนาราม ที่กาญจนบุรี รร ให้ไปตั้งแต่อนุบาล 2 แต่ให้พ่อแม่ไปด้วย ไปปีละสองครั้ง(พ่อแม่ แยกปฏิบัติธรรมนะ) ตอน อนุบาล 3 ไม่บังคับพ่อแม่ไป เพราะไม่ได้นอนกับพ่อแม่ด้วยซ้ำ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรนะคะ แค่คิดว่าไปกับเพื่อน ที่ๆไปก็คุ้นๆอยู่ ไม่ได้กลัวอะไร จะมีหวั่นๆก็ไม่ได้นอนกับพ่อแม่นี่แหละ

ที่วัด ตอนอนุบาลเราต้องตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า แล้วก็ทานอาหารเช้าจากกะละมัง (อารมณ์เหมือนสัมผัสชีวิตพระวัดป่า) และหลังจากนั้นอาจมีศึกษาหลักธรรมนิดหน่อย แล้วก็สำรวจธรรมชาติค่ะ เดินป่า ขึ้นเขา วัดป่าคือป่าหนักมากจริงๆ ณ ตอนนั้น ค่ายนี้กินเวลา 3 วัน 2 คืน บังคับไปปีละ 2 ครั้งค่ะ

>กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สิ่งที่จำได้แม่นที่สุดคือการไปทัศนศึกษาค่ะ คือไปบ่อยมาก เช่น ไปนาเกลือ ไปเดินชม ไปฟังวิธีทำ แล้วพอเสร็จ กลับมาก็ต้องสรุปความรู้ที่ได้แล้วก็ทำเหมือนจำลองอ่ะค่ะ รร จะมีห้องวัสดุ คือจะเป็นพวกเศษวัสดุแบบ เศษกระดาษ กรวด หิน กากเพชร กาว กรรไกร ที่เอาไว้ทำโมเดลอ่ะค่ะ ทุกอย่างจะถูกแสดงออกมาในวันนิทรรศการ คือการแสดงผลงานของนักเรียน มีเทอมละครั้งมั้ง ซึ่งพ่อแม่ต้องควรจะมาดูค่ะ 555 ส่วนใหญ่พ่อแม่เค้าก็มาค่ะ แต่ถ้าไม่มา ครูก็จะให้ความสำคัญกับเด็กคนนั้นมากนิดนึง จะได้ไม่รู้สึกแย่ไรงี้ บางทีก็ไปกรมอุตุนิยมวิทยา ไม่รู้เกี่ยวกันรึเปล่า แต่เราจำกระบวนการเกิดเมฆได้ด้วยการเต้นเพลงฉันคิอเมฆ 555

>กิจกรรม cooking เป็นอีกอันที่มีความสุขมากตอนนั้น มันคือการทำอาหารค่ะ เป็นแบบง่ายๆแต่ไทยๆ เช่น กล้วยบวชชีไรงี้ เค้าก็จะแบ่ง ให้คนนี้เอากะทิ เอากล้วยมา มีมีดพลาสติกให้เรา อันไหนอันตรายไปครูจะทำให้ หุงข้าวงี้ จำได้เลยว่าอนุบาลสาม หุงข้าวแบบเช็ดน้ำอ่ะค่ะ ทำกันตั้งแต่จุดเตาถ่านกันเลยทีเดียว แบบโบราณอ่ะเนอะ แกะกุ้ง ผัดผักบุ้ง เอาให้ครบทุกทักษะอ่ะค่ะ

สุดท้ายนี้ บอกเลยค่ะว่าการเรียนที่นี่มันมีความสุขมาก รู้สึกเหมือนไม่ได้เรียน 555 แต่มันได้ทักษะชีวิตนะ ไม่รู้มันเป็น EQ รึเปล่า ค่าเทอมก็นั่นแหละค่ะ แต่นี่เราพูดถึงในมุมของนักเรียนนะ ว่ามีความรู้สึกยังไง ถ้าต้องการวิชาการค่อยเริ่มตอน ป.1 ก็ได้ค่ะ แต่ทักษะแบบนี้ ถ้าให้เด็กเรียนรู้ตั้งแต่เด็กได้ ก็ดีนะคะ แนะนำๆ

0