พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองของการเรียนออนไลน์ในยุคที่ยังไม่พร้อม
ตั้งกระทู้ใหม่
เนื่องจากปัญหาcovid-19ที่เกิดขึ้น ได้กระทบระบบต่างๆไปหลายระบบมาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ
วิถีชีวิต
ความเป็นอยู่
ฐานะ
รวมถึงปัญหาของวัยเรียนอย่างพวกเรา นั่นคือระบบการศึกษา เป็นระยะเวลากว่าเกือบ2ปี
ที่เรายังคงวนเวียนอยู่กับสถานการณ์covid-19ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
ทำให้อะไรหลายๆอย่างยังคงไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง
รวมถึงการเรียนของวัยเรียนอย่างพวกเรา ที่ได้เปลี่ยนจาก
รูปแบบการเรียนการสอนแบบon site มาเป็นรูปแบบการเรียนonline
ซึ่งด้วยระบบการเรียนออนไลน์นั้น เป็นการจัดการปัญหาที่ปลายเหตุที่กำลังเกิดขึ้น นั่นคือ ในเมื่อนักเรียนนั้น
ไม่สามารถ เรียนโดยพบปะกันได้ จึงได้จัดการเรียนการสอนแบบonlineขึ้น
เพื่อให้การเรียนการสอนนั้น ยังคงดำเนินการต่อไปในปีการศึกษานั้นๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ที่ได้จัดการเรียนแบบonline ขึ้นมา (คหสต.ผมคิดว่าข้อเสียเยอะกว่าข้อดีไปเยอะมากนะ 5555 )
การเรียนการสอนในยุคที่การศึกษานั้น ไม่ได้เข้าถึงทุกคนอย่างแพร่หลายนั่นเอง การเรียนแบบonline แน่นอน
เราต้องมีอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ipad โน๊ตบุ๊ค
แน่นอนว่าทุกคนนั้นต้นทุนที่ได้มานั้น มาไม่เท่ากันอยู่แล้ว
แต่ต้องเรียนในระบบการศึกษาเดียวกัน ? ซึ่งบางคนนั้น เขาไม่มีคือไม่มีจริงๆ ต้องไปขวนขวาย พยายาม
มากกว่าคนอื่นเขา บางคนพ่อแม่หาช้ำ-กินค่ำ อดมื้อกินมื้อ ก็ต้องมาหาเงิน
เพื่อมาจ่ายที่ต้องใช้ในการเรียนงั้นหรือ ? นอกจากนี้แล้ว internet wifi ก็เป็นอีกปัจจัยที่จำเป็นต่อการเรียนonline เพื่อให้เป็นเครือข่ายในการเชื่อมต่อและเข้าถึงกันได้ของผู้เรียนและผู้สอน
ซึ่งบางคนนั้น สัญญาณเครือข่ายนั้นเข้าไม่ถึง บางคนสัญญาณอินเทอร์เน็ตดี
บางคนสัญญาณอินเทอร์เน็ตแย่
หรือแทบไม่มีเลย เขาคนนั้นสมควรที่จะได้รับสิ่งแบบนี้
ในระบบการศึกษาทีไม่เท่าเทียมทางทุนทรัพย์แบบนี้หรือ ? นอกจากนี้การเรียนonlineนั้น
ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เรียนอีกด้วย ที่ทำให้การเรียนทั้งวันนั้น
ต้องจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์
และการนั่งเรียนแบบนี้ทั้งวันอยู่แต่กับหน้าจอ และนั่งอยู่แบบนี้ไม่ไปไหน
อาจส่งผลให้เราเป็นโรคเครียดไม่รู้ตัว
และปวดเมื่อยส่วนต่างๆไม่รู้ตัวไปด้วย (office syndrome) อีกทั้งเรื่องภาระงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
ทั้งๆที่เรียนเท่าเดิม หรือน้อยลงด้วยซ้ำ และก็ปัญาของเอกสารประกอบการเรียนที่ทุกคนไม่ได้มี
สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันเสมอไป คุณครูแจกไฟล์เอกสารให้นักเรียน ไม่ใช่ว่าทุกคน จะมีเครื่องปริ้นท์
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีipad แต่ก็จัดการวิธีด้วยการที่นำไปจดลงสมุด ซึ่งมันส่งทอดมาเป็นระบบคือ
ใครที่ต้นทุนต่ำกว่าใครเขา ก็ต้องพยายามมานะขวนขวายมากเป็นพิเศษแบบนี้หรือ ?
ทั้งๆที่เราอยู่ในระบบการศึกษาเดียวกันแบบนี้เนี่ยนะ จากที่ได้อ่านมาข้างต้น คือมุมมองความคิด
ของเจ้าของกระทู้เองครับ หากใครมีความคิดเห็นมุมมองที่แตกต่าง
สามารถ comment ความคิดของคุณมาได้เลย
ทุกๆความคิดมันมีเหตุผลของมันเสมอ
คิดต่างไม่ได้แปลว่าคุณแตกต่าง
ขอบคุณครับ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ
วิถีชีวิต
ความเป็นอยู่
ฐานะ
รวมถึงปัญหาของวัยเรียนอย่างพวกเรา นั่นคือระบบการศึกษา เป็นระยะเวลากว่าเกือบ2ปี
ที่เรายังคงวนเวียนอยู่กับสถานการณ์covid-19ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
ทำให้อะไรหลายๆอย่างยังคงไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง
รวมถึงการเรียนของวัยเรียนอย่างพวกเรา ที่ได้เปลี่ยนจาก
รูปแบบการเรียนการสอนแบบon site มาเป็นรูปแบบการเรียนonline
ซึ่งด้วยระบบการเรียนออนไลน์นั้น เป็นการจัดการปัญหาที่ปลายเหตุที่กำลังเกิดขึ้น นั่นคือ ในเมื่อนักเรียนนั้น
เพื่อให้การเรียนการสอนนั้น ยังคงดำเนินการต่อไปในปีการศึกษานั้นๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ที่ได้จัดการเรียนแบบonline ขึ้นมา (คหสต.ผมคิดว่าข้อเสียเยอะกว่าข้อดีไปเยอะมากนะ 5555 )
การเรียนการสอนในยุคที่การศึกษานั้น ไม่ได้เข้าถึงทุกคนอย่างแพร่หลายนั่นเอง การเรียนแบบonline แน่นอน
เราต้องมีอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ipad โน๊ตบุ๊ค
แน่นอนว่าทุกคนนั้นต้นทุนที่ได้มานั้น มาไม่เท่ากันอยู่แล้ว
แต่ต้องเรียนในระบบการศึกษาเดียวกัน ? ซึ่งบางคนนั้น เขาไม่มีคือไม่มีจริงๆ ต้องไปขวนขวาย พยายาม
มากกว่าคนอื่นเขา บางคนพ่อแม่หาช้ำ-กินค่ำ อดมื้อกินมื้อ ก็ต้องมาหาเงิน
เพื่อมาจ่ายที่ต้องใช้ในการเรียนงั้นหรือ ? นอกจากนี้แล้ว internet wifi ก็เป็นอีกปัจจัยที่จำเป็นต่อการเรียนonline เพื่อให้เป็นเครือข่ายในการเชื่อมต่อและเข้าถึงกันได้ของผู้เรียนและผู้สอน
ซึ่งบางคนนั้น สัญญาณเครือข่ายนั้นเข้าไม่ถึง บางคนสัญญาณอินเทอร์เน็ตดี
บางคนสัญญาณอินเทอร์เน็ตแย่
หรือแทบไม่มีเลย เขาคนนั้นสมควรที่จะได้รับสิ่งแบบนี้
ในระบบการศึกษาทีไม่เท่าเทียมทางทุนทรัพย์แบบนี้หรือ ? นอกจากนี้การเรียนonlineนั้น
ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เรียนอีกด้วย ที่ทำให้การเรียนทั้งวันนั้น
ต้องจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์
และการนั่งเรียนแบบนี้ทั้งวันอยู่แต่กับหน้าจอ และนั่งอยู่แบบนี้ไม่ไปไหน
อาจส่งผลให้เราเป็นโรคเครียดไม่รู้ตัว
และปวดเมื่อยส่วนต่างๆไม่รู้ตัวไปด้วย (office syndrome) อีกทั้งเรื่องภาระงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น
ทั้งๆที่เรียนเท่าเดิม หรือน้อยลงด้วยซ้ำ และก็ปัญาของเอกสารประกอบการเรียนที่ทุกคนไม่ได้มี
สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันเสมอไป คุณครูแจกไฟล์เอกสารให้นักเรียน ไม่ใช่ว่าทุกคน จะมีเครื่องปริ้นท์
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีipad แต่ก็จัดการวิธีด้วยการที่นำไปจดลงสมุด ซึ่งมันส่งทอดมาเป็นระบบคือ
ใครที่ต้นทุนต่ำกว่าใครเขา ก็ต้องพยายามมานะขวนขวายมากเป็นพิเศษแบบนี้หรือ ?
ทั้งๆที่เราอยู่ในระบบการศึกษาเดียวกันแบบนี้เนี่ยนะ จากที่ได้อ่านมาข้างต้น คือมุมมองความคิด
ของเจ้าของกระทู้เองครับ หากใครมีความคิดเห็นมุมมองที่แตกต่าง
สามารถ comment ความคิดของคุณมาได้เลย
ทุกๆความคิดมันมีเหตุผลของมันเสมอ
คิดต่างไม่ได้แปลว่าคุณแตกต่าง
ขอบคุณครับ
6 ความคิดเห็น
เห็นได้ชัดเลยครับว่าข้อเสียเยอะมากๆในการเรียนออนไลน์
ข้อเสีย
-ไม่มีกำลังใจในการเรียน
-ครูสั่งงานเยอะ
-เรียนไม่เข้าใจ
-รู้สึกเบื่อหน่าย หงุดหงิด
-เสียตาเสีย
-การฟังเสื่อมสภาพลง
โรงเรียนสั่งลดค่าเทอม 10% เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ปกครอง
แต่ว่าค่าไฟที่เพิ่มขึ้นกลับมากกว่า % ที่โรงเรียนลดมาให้กลับทำให้เป็นการเพิ่มภาระของผู้ปกครอง
คุณครูสั่งงานมากกว่าปกติเพราะบอกว่าอยู่บ้านมีเวลาทำแต่กลับไม่นึกถึงว่ามีอีกหลายรายวิชาที่สั่งการบ้าน
เด็กไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่เจอเพื่อนๆ ไม่มีสมาธิในการเรียน
ของเราเจอปัญหาการเรียกร้องให้มีการสอบออนไลน์ค่ะ
แต่ตอนนี้การสอบออนไลน์ยังไม่เกิดขึ้นนะคะ
ยังเป็นแค่ข้อเสนอแนะของนักศึกษารามกลุ่มที่อยากให้มีการสอบออนไลน์ทุกวิชา
เราอยู่ในกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดสอบออนไลน์
วิชาที่เป็นข้อสอบปรนัยสามารถนำมาจัดสอบออนไลน์ได้
แต่วิชาที่เป็นข้อสอบอัตนัยสอบออนไลน์ไม่ได้
เพราะตอนสอบในห้อง กว่าจะเขียนคำตอบได้ 1-2 บรรทัดต้องใช้เวลาคิดนานมาก
คอมกับโน้ตบุ๊คที่เรากับอีกหลายคนใช้ก็ไม่มีกล้องหน้าคอม ไมโครโฟน
คอม โน้ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน และ Ipad ที่เรากับอีกหลายคนซื้อมาใช้
บางทีไม่รองรับแอพและไม่สะดวกในการใช้โปรแกรม Zoom กับ Google Classroom ด้วย
มหาวิทยาลัยรามคำแหงเลื่อนสอบหลายครั้ง เปลี่ยนแปลงกำหนดการต่างๆ
และมหาวิทยาลัยปิดทำการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
นักศึกษารามที่เรียนจบไปแล้ว จะมาสอบ และมาติดต่อธุระก็มาจากทั่วประเทศไทย
หลังจากที่เรียนออนไลน์อีกครั้งหลังจากที่เคยเรียนมาก่อนเห็นได้เลยว่าทางภาครัฐไม่ได้มีการแก้ปัญหาตรงนี้เลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เกิดเหตุการณ์นี้มาก่อนแล้วทั้งเรื่องอุปกรณ์เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเมื่อการเรียนออนไลน์มาอีกครั้งสิ่งที่เด็กๆและผู้ปกครองต้องแบกรับเลยคือ1.ค่าอุปกรณ์ในการเรียนบางคนไม่ได้มีทุนทรัพย์เยอะและอุปกรณ์ที่มีอยู่ก็ไม่ได้รองรับก็ต้องซื้อใหม่มีอุปกรณืที่ใช้เรียนออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่พอใช่ไหมครับหากไม่มีอินเทอร์เนตก็ไม่สามารถเรียนได้ดังนั้นก็ต้องซื้อเน็ตมาใช้ถึงทางภาครัฐมีการช่วยในเรื่องเน็ตก็จริงแต่สัญญาณมันไม่ดีเหมือนที่ซื้อมาใช้เองอันนี้คืือส่วนของเรื่องอุปกรณ์(มีอีกเยอะแยะมากมาย) อีกเรื่องที่เด็กๆต้องเจอคือปัญหาสุขภาพทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายสุขภาพจิตคือการที่ไม่ได้เข้าสังคม สุขภาพร่างกายคือ อาการปวดหลัง ปวดตา ต่างๆนาๆ และการศึกษาไทยก็ไม่ได้ดีที่สุขเรื่องเทคนิคการสอนครูบางท่านมีเทคนิคการสอนที่ดีสอนในห้องก็เข้าใจง่ายออนไลน์ก็เข้าใจง่ายแต่มีครูบางท่านขนาดในห้องเรียนสอนยังงงๆอยู่เลยแล้วให้มาสอนออนไลน์จะรู้เรื่องไหมคืออยากให้ครูไทยสนใจการสอนมากกว่านี้เพราะการที่สอนไม่เข้าใจแล้วออกข้อสอบยากเด็กๆก็ต้องเสียเงินเรียนพิเศษอีกมากมาย ที่กล่าวมาข้างต้นคือข้อเสียเกือบทั้งหมดเราจะมากล่าวถึงข้อดีบ้าง สำหรับคนที่ขยันและเตรียมสอบต่างๆอยู่หลังเลิกเรียนจะมีเวลาอ่านมากขึ้นเพราะไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางกลับบ้านและการบ้านก็ไม่ได้เยอะเท่าที่ไปเรียนปกติ และก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทาง ค่าขนม ก็คือข้อดีก็ไม่ได้มีเยอะอะไรแต่ก็มีบ้าง ทั้งหมดนี้ก็ข้อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านด้วยน่ะเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันและโตไปเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพมากกว่าปัจจุบันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานเรากันน่ะ
สู้ๆน่ะครับ
การเรียนออนไลน์รอบนี้ เห็นได้เลยว่าไม่ได้มีการแก้ไขอะไรมากพอ เพราะมีการเลื่อนเปิดเทอมเหมือนครั้งที่แล้ว เนื่องจากโควิด-19ยังระบาดอยู่ แต่ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่บันเทิงบางทียังคงสามารถเปิดได้ และการเรียนออนไลน์จะเห็นปัญหาได้ชัดก็ที่ตัวผู้เรียนเอง เพราะไม่ได้ไปเจอเพื่อน อาจรู้สึกเบื่อ มีสิ่งเร้ามากมาย สามารถออกจากการเรียนได้ และมีครูหลายท่านที่ไม่ได้สอน แต่สั่งให้นักเรียนทำงานแทน ผู้ปกครองหลายคนเห็นว่าผู้เรียน เรียนอยู่ที่บ้านจึงใช้ทำงานบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่างานของนักเรียนที่ครูสั่งมานั่นเยอะ ก็จะทำให้ตัวผู้เรียนเหนื่อยขึ้นกว่าเดิม และการเรียนออนไลน์ต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างมากมาย เช่น โทรศัพท์/คอม ในการเรียน อินเตอร์เน็ตที่เสถียรมากพอ และค่าไฟที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ทางโรงเรียนได้ลดค่าเทอมให้ 10% ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับค่าไฟ และค่าเน็ตที่เพิ่มขึ้น
หลังจากเริ่มมีการเรียนออนไลน์ ทำให้ผมเวลาตื่นเรียนตอนเช้ามีความรู้สึกไม่มีความสดชื่น เหนื่อย ซึ่งแตกต่างกับเวลาที่ผมตื่นเช้าไปโรงเรียนพร้อมเจอเพื่อนๆที่โรงเรียน การเรียนออนไลน์ที่ให้ผมทุกๆวันเหมือนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมตลอดเวลา วนเวียนอยู่แต่ในห้อง บรรยากาศเดิมๆ ทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่าย แร่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเรียนออนไลน์ก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ตามเหมาะสม
ผมขอพูดถึงเรื่องค่าเทอมทางรร นะครับ ผมว่าควรลดได้มากกว่า10% เพราะบางครอบครัวที่ไม่มีอุปกรณ์ที่จะพร้อมเรียน เขาก็ต้องซื้อใหม่ อีกทั้งยังรวมไปถึงค่าไฟ ซึ่งมันรวมๆแล้วผมคิดว่ามันมากกว่า10%ที่รร ลดให้ครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?