Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทนายความ กับ สถาปนิก อันไหนดีกว่ากันคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

(อีกอันที่ชอบมากๆคือหมอค่ะ น่าสนุกดี แต่ก็น่าจะหนักหนาสาหัสอยู่เหมือนกัน ) 



 หนูเป็นเด็กม.3 ค่ะ แต่ยังไม่รู้อะไรเลยว่าจะเรียนต่อสายอะไรดีถ้าขึ้นม.4 ที่คิดๆไว้ก็ วิทย์-คณิต แบบเบสิคทั่วไป

 หนูไม่รู้ว่าถ้าขึ้นมหาวิทยาลัยไปจะไปต่อยังไงดี อังกฤษหนูเก่งอยู่ระดับนึง คณิตพอใช้ได้ ศิลปะค่อนข้างดี วิทย์พอได้

 อยากรู้ว่าถ้าจะเป็นทนายความ/สถาปนิก ต้องเน้นอะไร หนูจะได้ตั้งใจศึกษาตั้งแต่ตอนนี้ อนาคตจะได้ไม่เด้ทสมอเร่ และก็อยากรู้ว่าอันไหนดีกว่ากันค่ะ


ปล. เราไม่รู้ว่าลงถามในนี้ได้รึเปล่านะคะ เพราะเรารู้จักอะไรที่ลงกระทู้แบบนี้ได้นอกจาก pantip ก็มีแอพ เด็กดี นี่แหละค่ะ สต.ไม่ค่อยอยากลงถามใน pantip สักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยได้คำตอบที่ต้องการเลย บางทีลงเรื่องปัญหาส่วนตัว แทนที่จะได้คำแนะนำกลับได้คำด่ามาแทน แง้

แสดงความคิดเห็น

7 ความคิดเห็น

เส้าจายย 20 พ.ค. 67 เวลา 17:59 น. 1

มันก็สนุกหมดแหละ ถ้าเจอบรรยากาศทำงานที่ดี บางทีงานชอบ แต่เจ้านายไม่ดี เพื่อนร่วมงานไม่ดี มันก็ไม่มีอะไรสนุกเลย เศร้ามาก

0
เมโลดี้ที่รักสายลม 20 พ.ค. 67 เวลา 20:29 น. 2

ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร อยู่ที่หนูชอบอะไร สองอาชีพมีข้อดีข้อเสียของตัวเอง และแนวงานต่างกันสิ้นเชิง ดังนั้นเอามาเปรียบเทียบว่าอะไรดีกว่าไม่ได้เพราะมันไม่เหมือนกัน อยู่ที่เราว่าชอบหรือถนัดแบบไหน โอเคกับสายงานแบบไหนมากกว่า ทนายความต้องคุยเก่งโน้มน้าวเก่งหน่อยนะคะ ต้องพูดเก่งมีวาทศิลป์การพูด รวมถึงชอบอ่านและศึกษาข้อกฏหมาย มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และมีไหวพริบ สถาปัตย์เน้นใช้ฝีมือมากกว่า เนื้องานไม่ค่อยต้องพูดมากนัก แต่นอกจากจะชอบวาดแล้ว ต้องมีหัวทางศิลป์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการคำนวณที่ดีพอสมควรนะคะ เพราะต้องคำนวนพวกสัดส่วน โครงสร้าง น้ำหนัก ความสมดุล อันนี้ขึ้นกับสาขาด้วย เลือกอันที่เราชอบค่ะ

0
จีทีเอ 20 พ.ค. 67 เวลา 22:14 น. 3

คำว่าดีกว่าคืออะไรล่ะ ต้องชัดเจนตรงนี้ก่อนนะ


ทั้งสองอาชีพมีทั้งข้อดีข้อเสีย


ขึ้นอยู่กับมุมมองในการใช้ชีวิตของแต่ละคน


เช่น ทนายความ หรือเรียกว่าอาชีพค้าความ 


มีโอกาสทำบาปประจำสูง เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ปากประจำ


มีโอกาสพูดจาให้ร้าย ส่อเสียด หรือทะเลาะ กับคนอื่นบ่อย คนที่ชอบความสงบเรียบง่ายในชีวิต


และใส่ใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ ไม่เหมาะกับอาชีพนี้ เป็นต้น


สถาปัตย์ ผสมผสานระหว่างการออกแบบ กับ การคำนวณ


ใช้ความสามารถออกแบบ 90 คำนวณ 10


เรียนหนักกว่านิติ แต่รายได้สูง ถ้ามีความสามารถที่แท้จริง

0
JJ&J 27 พ.ค. 67 เวลา 07:47 น. 4

ขอตอบในฐานะทนายความนะครับ

ทนายความต้องเรียนจบ ป.ตรี คณะนิติศาสตร์และสอบได้ใบอนุญาตว่าความซึ่ง

ในชั้น ป.ตรี ปี1 จะเรียนวิชาทั่วไปซึ่งเหมือนกับวิชาตอนม.4-6 ตรงนี้ใครมีพื้นฐานมากก็จะได้เปรียบคนพื้นฐานน้อยกว่า แนะนำให้เรียนภาษามากๆ เรียนให้เก่งภาษามากกว่า 1 ภาษา เช่น จีน ญี่ปุ่น จะได้เปรียบตอนทำงานมากๆๆๆๆๆ

แต่ในชั้น ปีที่2-4 จะเรียนวิชาก็กฎหมายซึ่งไม่เคยมีการเรียนการสอนในม.ปลาย แบ่งหลักๆออกเป็น 4 กลุ่มวิชาหลักหรือที่เรียกว่ากฎหมาย 4 มุมเมือง ได้แก่ แพ่ง อาญา วิ.แพ่ง วิ.อาญา ตรงนี้ไม่มีใครได้เปรียบใครต้องมาเริ่มต้นใหม่เหมือนๆกัน แต่หากใครเรียนพื้นฐานดีอนาคตจะไปต่อสบายมากถึงระดับสอบผู้พิพากษา อัยการได้เลย

แนะนำตอนนี้ ม.ราม มีโครงการ Pre-degree น้องสามารถเรียนนิติได้ตั้งแต่ม.3-ม.6 หากเรียนจะได้เปรียบเพื่อนคนอื่นๆมากครับ


0
Ppp 27 พ.ค. 67 เวลา 07:56 น. 5

ขึ้น ม.4 ม.5 ค่อยคิดค่ะ ไปลองเรียนดูก่อนว่าตัวเองจะไปไหวหรือชอบมั้ย ถ้าเรียนสายวิทย์ ยังไงก็สอบเข้าได้เกือบทุกสาขา เพียงแต่สถาปัตย์ต้องไปเรียนพื้นฐานเพิ่มเติมข้างนอกค่ะ เพราะโรงเรียนไม่มีสอน เรียนอะไรก็หนักหมดถ้าเราไม่ชอบและไม่ถนัด

0
anon-lawstudent 27 พ.ค. 67 เวลา 08:19 น. 6

ขอตอบในฐานะที่ใกล้จะเรียนจบนิติฯแล้วนะครับ ผมว่าคำตอบมันคล้ายๆการหาอิคิไกของตัวเองเลยครับ

สิ่งที่จะตอบขอบเขตอยู่ที่ผมไม่รู้ด้านสถาปนิกหรือหมอนะครับ

การตัดสินใจว่าจะเรียนอะไรแล้วไปทำงานอะไร มันใช้ปัจจัยต่างๆในการคิดเพื่อตัดสินใจว่า งานประเภทส่วนใหญ่ของสายวิชาชีพนั้น มันเหมาะกับชีวิตของเรามากน้อยแค่ไหนด้วยครับ

อย่างเราที่เลือก “เรียน” นิติฯ ก็เพราะชอบวิชาสังคมและภาษา

แต่หลังจากเข้ามหาลัย ตอนต้องลองตัดสินใจ “เลือกทำงาน” / ลองตั้งความสนใจของเราไปใน “งาน“ แบบไหน

มันจะมีคำถามประเภทนี้ลอยเข้ามาครับ เช่น

1. เราอยากมีชีวิตที่ทำงานแล้วเหลือเวลามากน้อยแค่ไหนในการพัก

- เรื่องค่าตอบแทน

- เรื่องเวลาที่เราต้องทำงานไป

2. เราชอบงานประเภท/สาย/และทำงานแบบไหน

- เอกชน/ภาครัฐ

- จดทะเบียนเอกสาร/ สัญญา/ ฟ้องร้องคดีความ

- สายปกครอง/ สายอาญา/ สายพาณิชย์และธุรกิจ/ สายครอบครัวและมรดก/ ฯลฯ

ลองเอาไปปรับใช้ในการคิดในส่วนของวิชาชีพสถาปัต/ วิชาชีพอื่นได้นะครับ

ขอให้คอมเม้นนี้ให้สาระอะไรแก่จขกท.และผู้เข้ามาอ่านนะครับ

0
บรร 27 พ.ค. 67 เวลา 09:21 น. 7

สถาปนิก= ไม่รวย ที่เห็นรวยนั่นคือ บ้านรวยมาก่อนแล้ว ต้องเรียนสายวิทย์ ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเก่ง แต่ต้องวาดรู้เรื่องและสมจริง เราไม่วาดบ้านเบี้ยว ขาโต๊ะไม่ต่อกันอะไรแบบนั้น ร่างกายต้องกึ่งอมตะ นอนดึก (เพราะดึกๆ อากาศเย็น เงียบๆ คิดงานลื่นกว่า แถมค่าไฟก็ถูกกว่าด้วย) แต่ซักกลางๆ สามสิบร่างกายจะประท้วงหนักมาก ป่วยเป็นอะไรซักอย่างกันทุกคน ในหัวจะวู้บว้าบ บลิงค์ๆๆๆ เจิด ตลอดเวลา

0