สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง
ตั้งกระทู้ใหม่
ซึ่งเราเองก็มีเหตุการณ์นึงเหมือนกันที่ทำให้ทัศนคติของเราเปลี่ยนไป คือ เราเป็นคนที่เกลียดวันจันทร์มากกกกกกกกกกกก~~~แต่หลังจากที่มีซีรี่ส์ปรมาจารย์ลัทธิมารก็ทำให้เราเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองอยากให้ถึงวันจ.- พ. เพราะต้องการดูซีรี่ส์ ส่วนตั้งแต่วันพฤ.- อา. อยากให้มันผ่านไปเร็วๆ
ซีรี่ส์นี้คือดี ภาวนาขอให้ฉายจบครบ 50 ตอน
10 ความคิดเห็น
ตอนเด็ก ภาษีนำไปพัฒนาประเทศ
พอโตแล้ว ภาษีเอาไปทำอะไรหมดคะ?คนใหญ่คนโตทั้งหลาย 5555+
ปล.เม้นเราจะปลิวไหม๊? จขคห. ภาษีเดียวกันกับที่เราคิดไหม๊นี่
คนจริงที่เข้ามา ไม่สู้อาหารตาที่ห่างไกล
เคยมีคนเข้ามาแล้วทำให้รู้สึกอึดอัดในความสัมพันธ์
เลยรู้ว่า เราเหมาะกับการกริ๊ดผู้ชายในโปสเตอร์
ไม่ต้องรู้จักตัวตนทั้งหมด รู้แค่ส่วนดีๆ ก็พอ เอาแค่จรรโลงใจเท่านั้น
และเราจะกรี๊ดผู้ชายกี่คนก็ด้ายยยย จะบอกรักผู้ชายกี่คนก็ด้ายยยยยย
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติเรื่องความรักได้มั้ยอ่ะ ^^
คนจริงที่เข้ามา ไม่สู้อาหารตาที่ห่างไกล
ความคล้องจองนี้มัน!...very good
การเปลี่ยนแปลงเหรอครับ...เรื่องการมีแฟนมั้งฮะ
เมื่อก่อนเห็นเพื่อนเขามีแฟนกัน แถมเราก็มีคนที่ชอบด้วย ก็อยากมีแฟนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปขอเขา(คนที่ชอบ)เป็นแฟน แค่มองอยู่ห่างๆ...แต่พอผ่านไปหลายๆปีก็เห็นเพื่อนที่เป็นแฟนกัน เขาเลิกกัน(หลายคู่เลยด้วย) ก็เลยคิดว่าถ้าต้องคบใครสักคนเพื่อรอวันเลิกกัน...ถ้าเป็นแบบนั้นก็ขอมองเขาอยู่ห่างๆดีกว่า
แต่ต่อมาก็รู้อีกว่า การชอบใคร...มันก็แค่ชอบ เดี๋ยวความรู้สึกแบบนั้นสักวันมันอาจจะเปลี่ยนไป ซึ่งความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนจริงๆ
ปัจจุบันนี้เลยกลายเป็นคนที่วางตัวอยู่นอกวงและชอบจับชาวบ้านมาจิ้นกันมากกว่า 5555 แถมคู่ที่ผมจิ้นดันมีชายชายด้วย! ไม่รู้ว่าแปลกรึเปล่า(สำหรับผู้ชายที่จับเพื่อนเพศเดียวกันไปจิ้นกัน)
แต่ที่แน่ๆคือผมจิ้นคนที่แสดงซีรี่ส์ปรามาจารย์ลัทธิมาร(เรื่องนี้ผมดูอยู่พอดี)ไปแล้วอ่ะ! เซียวจ้านxหวังอี้ป๋อ! //โบกป้ายไฟเบาๆ55555
*เม้นท์ยาวเกินไปก็ต้องขออภัยด้วยครับ บังเอิญช่วงนี้เก็บกดจากการสอบ เห้ออออ
แต่เราจิ้น หวังอี้ป๋อxเซียวจ้านมากกว่า #ป๋อจ้าน แต่ว่ายิ่งดูยิ่งปวดตับกลัวว่าจะฉายไม่ถึง 50ep มากเลย คือบก.ชงหนักจนไม่รูู้ว่จะแถให้เป็นมิตรภาพลูกผู้ชายยังไงแล้ว โชคดีที่ยังมีเวินฉิงอยู่
ขอบคุณเครดิตรูปจากทางทวิตเตอร์
อ่า...ผมพิมพ์ผิดอีกแล้วแฮะ จริงๆต้องเป็น หวังอี้ป๋อxเซียวจ้าน นั่นแหละครับ เพราะผมเชียร์ให้หวังอี้ป๋อเขาเป็น...(รุก)อ่ะ
ถึงหวังอี้ป๋อจะหน้าหวานก็เถอะ แต่เขาเหมาะเป็นรุกจริงๆนะ ยิ่งพอมาเล่นบทพี่วั่งก็ยิ่งเหมาะ (ส่วนเซียวจ้านอ่ะเหมาะสำหรับบทเว่ยอิงอยู่แล้ว!)น่าเสียดายที่ในซีรี่ส์ไม่น่าจะมีประโยคนี้...
"ทุกวันคือทุกวัน" 5555
เด็ก ๆ อยากมีบ้านสวย สวนสวย อยากเลี้ยงหมา ตอนนี้เห็นว่าภาระทั้งนั้นไม่รู้จะเอาไปทำอันใด อยู่หอ12ตารางเมตรสบายใจ 5555
เป็นคนไม่ค่อยโซเชียลเนทเวิร์คเท่าไหร่ มันก็จะมีจุดเปลี่ยนใหญ่ๆเช่น
อยากทำควิซรีบอร์นในเด็กดีมากกกกกก จนสมัครเฟซบุค
ชอบป่าท้อสิบลี้มาก จนเล่นทวิตเตอร์
ป่าท้อนี้ด้วยที่ทำให้เริ่มอ่านนิยายจีนจนผันตัวมาเขียน
ชอบปรมาจารย์ลัทธิมารมาก จนเล่นอินสตราแกรม
ก็กะว่าตามอวี้ป๋ออย่างเดียว ก็พอดีตามลิซ่าด้วยอะนะ55
ig นี่มีแต่ไม่เคยลงอะไรเลย มีไว้เพื่อเหมือนจะส่องแต่ก็ไม่เคยส่องสักที
ป่าท้อ พอมีดราม่าว่าไปลอกมาก็ไม่ได้แลอะไร ถึงตอนหลังศาลจะมีคำสั่งว่าไม่ได้ลอกก็รู้สึกอยู่ดีว่า อืม เค้าว่างั้นอ่ะนะ ก็ปล่อยไปตามกรรม
แต่เห็นแม่ดูซีรีส์อยู่แล้วก็คิดว่า อิพวกนี้บำเพ็ญเป็นเซียนไม่ใช่เหรอ มันต้องละทางโลกดิ นี่จิตใจโคตรคับแคบ นี่เหรอเทพ? เลยยิ่งไม่แลต่อไป
ติดผู้ชายจนต้องสมัครไอจีไว้ส่องอ่ะค่ะ ฮาาา
ตอบมีสาระนิดหน่อย 55+
ตะก่อนเราจะชอบรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมโชคร้ายจัง บ่อยๆ อย่างแบบ ทำไมต้องมาเจอคนเนี้ยด้วยโชคร้ายจัง
แต่พอฝึกงานครั้งนึง ต้องไปเยี่ยมบ้านคนป่วยที่ไม่สามารถไป รพ ได้ เป็นคนป่วยติดเตียงหรือไม่มีคนคอยดูแล
เลยรู้สึกว่า ชีวิตเราโคตรโชคดีเลย เราเกิดมาไม่ได้ยากจนนะ ไม่ได้ป่วยนะ เรามีโอกาสเรียนสูงขนาดนี้ อะไรแบบนี้
หลังจากนั้นก็ไม่เคยรู้สึกว่าโชคร้ายอีกเลย แต่จะแบบ พอเจออะไรไม่ดีก็จะรู้สึกว่า คนที่โชคร้ายกว่าเรามีอีกตั้งเยอะ ประมาณนี้
มงลงเลยจร้าาาาาาาาา~~~
5555+
จริงๆเราไม่ใช่คนมีสาระน๊า
แต่อันนั้นคือแบบ เป็นจุดเปลี่ยนเลย เหมือนทำให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้นเยอะมากๆ ถ้าใครถามถึงจุดเปลี่ยนจะนึกถึงอันนี้เป็นอย่างแรกตลอดเลย
เราตรงข้ามเลย เคยมองโลกในแง่ดีมาก
เป็นเพื่อน ให้ใจ แฟร์ คุยกันได้หมดทุกเรื่อง ทุกคน
พอออกสู่โลกกว้างเท่านั้นแหละ
โดนมีดเสียบหลังรัวๆ
ถึงได้รู้ว่า โลกแมร่งโหดร้าย ไว้ใจคนยากจริงๆ
แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ ที่น่าเชื่อถือ
พูดอะไรออกไปต้องคิดหนักๆ เลย
จริงๆ แต่ก่อนเราก็ปากพร่อยด้วยแหละ
แล้วก็โกหกไม่เป็น ถามไรมาพูดหมดที่เป็นเรื่องจริง
สุดท้ายโดนหักหลัง เลยสงบปากสงบคำขึ้นเยอะ
อันนี้ก็จริงค่ะ 555+
โลกแห่งการทำงานช่างโหดร้าย
เห็นด้วยรัวๆเหมือนกัน
เราก็ติดซีรีย์เหมือนกันค่ะ :)
อารมณ์รอนี่ก็เหมือนกับจขกท.เลยค่ะ แต่ไม่ถึงขนาดเกลียดวันหรอกนะ ก็แค่อยากให้่ผ่านไปแล้วถึงวันที่ฉายเร็วๆ 55
//ผู้งานดีค่ะ คงต้องลองไปดูมั่งแล้ว
ถ้าคุณจะไปดูขอบอกก่อนว่านี่คือซีรี่ส์ที่สร้างมาจากนิยายวายนะ แต่กฎหมายพ.ร.บ. ของจีนห้ามฉายหนังแนวนี้ฉากบางฉากก็เลยโดนตัดไป แล้วก็ห้ามเรียกว่าซีรี่ส์วาย ต้องเรียกว่ามิตรภาพลูกผู้ชาย
คิดเแล้วก็เสียดายครับ เพราะถ้าจีนยอมเปิดรับเรื่องทางเพศ จีนน่าจะดังไปไกลแน่นอน
ตอนเด็กๆ(10ขวบไม่เกิน13) คิดว่า นักการเมือง คือ'ฮีโร่'ค่ะ
ตอนฉันเด็กๆมันเป็นช่วงสมัยของ mydKbI ค่ะ แน่นอนตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไปมากค่ะ
ฮีโร่ตอนนี้ขอยกให้คุณ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ สุดหล่อค่ะ!!~ ฮีโร่ทั้งในหนังและในความเป็นจริง หล่อด้วยค่ะ
ชีวิตเรามีหักมุมหลายตอนทำให้ความคิดมันเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ จนตอนนี้ก็คิดว่าไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน
เรื่องที่เล่าอาจจะดราม่าหน่อยนะ
ตอนม.3 พ่อนอกใจแม่ เราจับได้ แล้วฟ้องแม่ พ่อผลักเราหัวกระแทกพื้นแล้วบอกว่าเราเป็นตัวทำให้ครอบครัวแตกแยก แล้วก็หายออกไปจากบ้าน กลับมาเดือนถัดไป ในช่วงระหว่างที่พ่อยังไม่กลับมา แม่เคยร้องไห้กับเราบอกว่า ถ้าแม่เป็นเรา แม่จะไม่ฟ้อง แม่จะปล่อยให้ตัวแม่รู้เอง
จากที่ตอนแรกเราคิดว่าตัวเองถูก กลายเป็นเริ่มคิดว่าตัวเองไม่น่าทำเลย ก็เริ่มโทษตัวเองหนัก
ต่อจากนั้นพอเราเริ่มป่วยพ่อก็พาเมียน้อย(ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเป็นเมียน้อย) มาแนะนำให้รู้จัก พอรู้ เราก็ไม่ได้โวยวาย แค่บอกพ่อว่าไม่ชอบ ไม่อยากเจอ พ่อก็ยังพามาเจอ เหมือนอยากบังคับให้เรายอมรับผญใหม่ของเขา ท้ายที่สุดเราอดไม่ไหวจนวีนแตก
ถือเป็น nervous breakdown ที่หนักที่สุดและทำให้เราหันมาเกลียดพ่ออย่างจริงจัง ไม่ได้มองว่าตัวเองผิดอีกต่อไป ที่แปลกใจคือต้องให้ลูกสติแตกก่อนเหรอถึงเพิ่งคิดได้ว่าทำกับครอบครัวไว้หนักขนาดไหน พ่อยอมเปลี่ยนในที่สุด แต่ไม่ยอมทิ้งผญใหม่
เราจำได้ว่าตัวเองด่าพ่อให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวฟังอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเขาจะสนใจฟังหรือไม่สน แค่อย่างน้อยมันทำให้เราได้ระบายสิ่งที่มันเผาอยู่ในใจ
ต่อมาสิ่งที่เกิดขึ้นที่เปลี่ยนเราจากหงุดหงิดงุ่นง่านขี้โมโหอยู่ตลอดไปเป็นคนที่มองโลกอย่างตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น คือคำพูดของคุณพ่อบาทหลวงในวันรื้อฟื้นศีลสมรสของพ่อกับแม่ มุมมองเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต รวมถึงการกระทำของพ่อและผญคนนั้น กลายเป็นเรื่องที่เราเบื่อจะแคร์ทันทีด้วยหลายๆเหตุผล
1.ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ
2.ไม่มีมนุษย์คนไหนไม่เคยทำผิดพลาด
3.พ่อแม่เป็นมนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้าที่มีอำนาจมหาศาลแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง หลายครั้งพวกเขาก็แก้ปัญหาตัวเองไม่ได้
4.ครอบครัวเป็นเหมือนเรือลำหนึ่งที่มีสมาชิกอยู่เต็มเรือ ถ้าคนหนึ่งไม่มีความสามารถพอที่จะพายให้ดีได้ คนอื่นๆก็ต้องช่วยพายให้ดี เพื่อให้เรือแล่นไปได้ตลอดรอดฝั่ง
5.ไม่มีสุขใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าสุขที่ได้มาจากการให้อภัย
เพราะเมื่อคุณเริ่มให้อภัยได้เมื่อไหร่ ความเกลียดชังหายไปจากจิตใจได้ เดี๋ยวความสุขก็มา
นี่คือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของเรา "การชี้หน้าบอกว่าคนนั้นถูกคนนี้ผิดโดยไม่ทำอะไร มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย"
การเปลี่ยนแปลง!? ผมเกียจภาษาไทย(ไอ-ภาษาบ้านเกินเลยนะโว้ย!!) พอดีตอนเด็กคิดว่ามันยุ่งยากเกินไป อะไรไม่รู้เยอะไปหมด สุดท้ายมาเขียนนิยายเลย.....ช่างมันเถอะ 5555+
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?