เชิญมุง!!! งานศิลป์ช่างไม้ไทย ที่ดังไกลระดับโลก
จงปลุกความฮิปสเตอที่มีอยู่ในตัว
(การคลิกเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ก็ถือว่าเป็นการปลุกชนิดนึง ;p) แล้วจะรู้ว่า…
ถนนเก่าแก่ของกรุงเทพมหานครอย่างเจริญกรุงและเจริญนคร
กำลังผันตัวเข้าสู่การเป็น “Creative District” เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป หมายจะมอบความมีชีวิตชีวากลับคืนสู่ชุมชนอีกครั้ง
นั่นทำให้บางรักและคลองสานกลายเป็นเขตที่มีความอาทและคูลมากที่สุดในตอนนี้
รวมไปถึงแกลเลอรี่ศิลปะที่เราจะพาไปยลกันในวันนี้
(นิทรรศการนี้มีถึง 30 มิถุนายน 2559 จ้า)
เหตุเกิดจาก อยู่ดีๆก็มีฟีดรูปนี้ขึ้นบนเฟซบุคเรา
สะดุดตามาก+ไม่เคยไป Art Gallery มาก่อน
เลยเอาวะ ไปก็ไป ลองดู หาประสบการณ์ใหม่ๆให้ชีวิต ตอนแรกกะคุ้ม จะเดินให้ครบทุกจุด
ไปจริงๆจุดเดียวจอดจ้า เจองานไม้ของพี่นุช “นุชจริน หวังพงษ์สวัสดิ์” เข้าไป สวยลืมมม
เดินดูอยู่นานมาก กลับมาบ้านรีเสิชใหญ่เลย อินสุดอะไรสุด
เลยอยากเอาภาพงานศิลป์ชุดนี้มาให้เพื่อนๆได้ชมกัน
...
ยาวเกิน ไปต่อในคอมเม้นท์อีกเช่นเคยจ้า
5 ความคิดเห็น
ส่วนพิกัดความงามนั้นตั้งอยู่ที่ ซอย เจริญกรุง 36
ซึ่งเป็นที่ตั้งของ 3 Gallery ด้วยกัน
SERINDIA, ATTA, พออดี
การเดินทางไปง่ายมาก ชิลด้วย ลง BTS สะพานตากสิน ทางออก 3
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญกรุง เดินยิงยาวผ่านโรบินสันบางรักและโรงเรียนอัสสัมชัญ
เลยไปอีกหน่อย ซอย 36 ก็จะอยู่ซ้ายมือจ้า
เดินเข้ามาใน O.P. GARDEN เลยจ้า
ทั้งสามแกลอรี่จะอยู่ขวามือATTA นั้นเป็น Jewelry Gallery
ที่มีความคูลขั้นสุด รวมดีไซนเนอร์ทั้งไทยและเทศไว้ที่เดียว
ว่างๆจะเอารูปมาให้ชมน้าส่วน พออดี นั้นเป็น Lifestyle Gallery
คือมีสินค้าดีไซน์เยอะประเภทมาก หนักไปทางของแต่งบ้าน
เราชอบมากกก ของสวยมากกก พี่พนักงานน่ารักมาก อธิบายรายละเอียดสินค้าดีเยี่ยม
ที่สำคัญของทุกชิ้นออกแบบโดยคนไทย
ไว้ว่างๆจะพาไปชมเช่นกันแต่ๆๆๆ
นี่จ้า พระเอกของเราในวันนี้ SERINDIA GALLERY
ที่แสดงผลงาน LIFE FORMS เอาไว้
ชิ้นแรก ผ่างงง
ดูความไล่ระดับก๊อนนน
เข้าไปดูใกล้ๆ เอ้า ไม่ได้ทาสีนะ เค้าเผาชิ้นไม้เพื่อให้เกิดสีที่แตกต่างกัน
สวยงามจับจิต อยากได้ไปประดับฝาบ้าน
ของจริงสวยกว่าในรูปมากลืม อยากให้ไปดูกัน :)
พอเหมาะ พอเจาะ
…..
ดูมาสักพัก สังเกตุเห็นอะไรกันมั้ย ? ชื่อของผลงานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อสัตว์หมดเลย
นั่นก็เพราะว่า นิทรรศการ LIFE FORMS สื่อถึงการกำเนิดรูปแบบของสิ่งมีชีวิต ที่มาจากกระบวนการเพิ่มองค์ประกอบแบบซ้ำๆ และพัฒนาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
ผลงานประติมากรรมทั้งหมดจึงสร้างมาจากกระบวนการทำซ้ำและเพิ่มจำนวนด้วยการใช้เทคนิคดัดไม้
ด้วยแม่พิมพ์ (Bent Lamination) และการดัดไม้แบบสามมิติ (Freeform Lamination) แล้วนำชิ้นส่วนที่ได้มาประกอบขึ้นรูปให้กลายเป็นชิ้นงานที่สื่อถึงสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันชนิดกัน
…..
อ่านเนื้อหาข้างบน ทีนี้พอจะมองออกมั้ยว่า ผลงานชิ้นนี้ น่าจะสื่อถึงสิ่งมีชีวิตอะไร?
.
.
ผีเสื้อ
.
.
ถูกต้องนะคร้าบบบ
วงจรชีวิตของผีเสื้อนั่นเอง มีตอนเป็นหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย
เริ่มสนุกละชะมะ
อันนี้เราชอบที่สุดในงาน
ทายกันๆ
.
.
ปีกนก(กระจอก)
ใครทายถูกบ้าง
แต่เราอยากแอบให้มันเป็นปีกนกนางแอ่นแหละ
ความมโนแจ่มอะเนอะ
เดินไปเดินมา เจอพี่นุชตัวเป็นๆค่า (ขวาสุด)
กรี๊ดดดดด อย่างเท่
พี่เค้าใจดีมาก พาเดินอธิบายงานทุกชิ้น(29ชิ้น) ฟินมาก โชคดีจริงๆ
พี่นุชคนนี้แหละที่เคยชนะรางวัล Niche Award 2010 ที่อเมริกามาแล้ว
ปี 2012 ก็เป็น Finalist งานเดียวกัน โดยงานนี้มีนักศึกษาและศิลปินส่งผลงานเข้าร่วมจากทั่วทั้งอเมริกาและแคนาดาเลยทีเดียว
ส่วนปี 2014 ก็เป็น Finalist ในงาน Furniture Design ที่สิงคโปร์
ส่วนในไทยปี 2015 พี่นุชก็เป็นที่จับตามองของวงการออกแบบ เมื่อมีชื่อติดโผ Designer of The Year ในสาขาเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย
พี่นุชจบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
และ School for American Crafts
Major Woodworking & Furniture Design, Rochester Institute of Technology , USAไปดูผลงานพี่นุชกันต่อ
PORCUPINE : เม่น
FALCO : เหยี่ยว(Falcon)
งานที่ทำเป็นชิ้นสุดท้ายของโปรเจค LIFE FORMS ชิ้นใหญ่กว่าตัวคนอีก
: IMAGO, AN INSECT RISING OUT OF ITS SHELL
พี่นุชเล่าว่างานชิ้นจบนี้ อยากทำผลงานออกมาเพื่อสื่อถึงจุดเริ่มต้น
จึงคิดถึง ช่วงที่แมลงเต็มวัยฟักออกมาจากเปลือก ก่อนที่จะโบยบินเริ่มชวิตใหม่
ไม่ใช่แค่งานสวย แต่คอนเซปต์ก็มาจ้าาารูปจบคนไม่จบ แฮ่ๆ
การไปแกลอรี่ในครั้งนี้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเยอะเลย
เริ่มจากการเข้าใจใหม่ว่า แกลอรี่ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ผลงาน เดินดูสวยๆ
เค้าขายด้วย!! ซื้อได้ ถ้าอยากซื้อ!!
จะมี Gallerist คอยอธิบายชิ้นงาน(ถ้าถาม)ตั้งแต่แรงบันดาลใจ เทคนิคที่ใช้รังสรรค์งาน จนไปถึงราคา
ไม่ใช่แค่พนักงาน เพราะเค้าต้องมีความรู้ศาสตร์และศิลป์พอสมควร และที่ถามๆมา จบเมืองนอก
ซะส่วนใหญ่ ไม่ก็จบดีไซน์ ม.ดังๆ ในไทย
“Beauty is in the eye of the beholder” คือเราเข้าใจเลยว่า ดูแล้วไม่จำเป็นต้องเก็ท
ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เป็นอาหารตา หรือจะเห็นว่าไม่สวยก็ยังได้
แต่สิ่งสำคัญคือคุณค่าและประสบการณ์ที่ได้สัมผัส ระหว่างเดินชมงาน รู้สึกได้ว่าสมองทำงานหนักมาก คิดอยู่ตลอดเวลา แต่มันคนละแบบกับเวลาอ่านหนังสือสอบ หรือทำงานยากๆ หัวมันเบาๆ
ความคิดมันโลดโผน สมองมันอิ่มเอม หัวใจมันพองโต มันคิดอะไรก็ได้
สุดแล้วแต่ “จินตนาการ” จะพาไป
เป็นการหลีกหนีเมืองอันแสนวุ่นวาย มาชมความงามแบบเงียบๆ
(แต่เรียกร้องความสนใจได้ดังก้องอยู่ข้างใน) ที่เราจะหาเวลาและหาเรื่องไปอีกแน่นอน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?