Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เดินชมย่านสามแพร่ง ตามกระทู้รีวิว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่าาาาา 
จากที่ตามอ่านรีวิวท่องเที่ยวของคนอื่นมามากมาย  เลยอยากลองเขียนของตัวเองบ้าง (เด็กขี้อิจฉา)

- ก่อนอื่นขอบอกว่าเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ  และมีโอกาสมาฝึกงานที่กทม. แม้จะมาฝึกกับเพื่อน แต่เวลาเที่ยว ไปคนเดียวจ้าา  เพื่อนที่พักด้วยกันไม่ไปไหนด้วยเลย  นางสายนอน
- เกริ่นมาซะยาว  วกมาตรงจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ คืออย่างที่บอกว่านั่งอ่านรีวิวมาหลายรีวิว แล้วก็เจอรีวิวเกี่ยวกับสามแพร่ง (ฟังแค่ชื่ออาจน่ากลัว) พอเห็นรีวิวแล้วก็ เฮ้ย บ้านเรือน สถาปัตยกรรม ดูเก่า ดูโบราณ ดูสวยดี ชอบอะ  เท่านั้นแหละ  ตกลง ไปนี่แหละเสาร์นี้  ไปเลยค่ะ ไปแบบไม่ได้เตรียมตัว เช็คแค่ว่าเขารีวิวว่าควรไปจุดไหนที่สามแพร่ง เช็คแค่สายรถเมล์ ขนาดเพื่อนยังไม่ได้นัด (เพื่อนอีกคนพักคนละที่) นางบอกจะไปไหนก็โทรปลุกละกัน (แต่นางก็ไม่ตื่น) ปลุกเพื่อนตั้งแต่แปดโมงเช้าจนสิบโมงครึ่ง เอาวะ ไปคนเดียวก็ได้  นี่คือจุดเริ่มต้นค่ะ 555
ยาวไปเนอะ
ปล 1.ไม่เข้าใจว่าทำไมร้านค้า ร้านอาหาร  ร้านค่าเฟ่ ที่กระทู้รีวิวสามแพร่งกระทู้อื่นๆ รีวิวไว้ไม่เปิดสักร้าน 555 เอาจริงๆ ร้านค้าไม่ค่อยเปิดกันเลยวันนี้
ปล 2. เรามาจากกระทู้พันทิปจ้า อิอิ http://pantip.com/topic/35338114



นี่ต่างหากจุดเริ่มต้น ^^
 เริ่มต้นเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยค่ะ  ฝั่งเกาะราชวิถี  คือจำสายรถเมล์ไม่ได้  แต่จำสีได้นะคะ  555 เป็นแบบมินิบัส คนเล็กๆ ค่ะ สีส้ม  เราขึ้นเพื่อที่จะไปลงเสาชิงช้าค่ะ  ระหว่างทางก็แบบ  ถึงไหนแล้ว  เราขึ้นรถถูกไหมนะ  นั่งสอดส่องข้างทางไป  เปิด GPS  ไป
อ่อ  วันที่ไปนั้นแดดร้อนมากกกกค่ะ  แดดเดือนเมษา  เพราะฉะนั้น น้ำเปล่า หมวก พัด ครีมกันแดด สำคัญมาก

และแล้วก็ถึงค่ะ  หลังจากที่บอกกระเป๋ารถเมล์ว่าถึงแล้วให้เรียกหนูด้วย 555
นอกจากเจอเสาชิงช้าแล้วยังดีใจจะมีเพื่อนเที่ยว  เพื่อนตื่นและโทรกลับค่ะ 555  นางบอกเดี๋ยวตามมา  เราก็รอดูค่ะว่าจะมาตอนไหน


ป้ายรถเมล์ตรงศาลาว่าการกรุงเทพมหานครค่ะ (พยายามถ่ายข้างหลังเพื่อ)


อีกด้าน (ตรงข้ามศาลาว่าการ) ก็เสาชิงช้า และวัดสุทัศน์ค่ะ


เมื่อถึงจุดเริ่มต้นตามที่กระทู้รีวิวที่เเคยอ่านบอกแล้วก็เปิด GPS อีกรอบ  เดินตามมันไป  ซึ่งไปผิดทางค่ะ  เลยต้องเดินย้อนกลับมาป้ายรถเมล์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง

ตรงข้ามป้ายรถเมล์จะเป็นเทวสถาน หรือโบสถ์พราหมณ์นะคะ ซึ่งข้างในจะมีโบสถ์ประดิษฐานพระอิศวร พระพิฆเนศวร และพระนารายณ์ค่ะ 
ข้ามถนนจากป้ายรถเมล์ไปเลย

 ข้ามมาแล้วก็จะเจอป้ายนี้ค่ะ


ตรงตามป้ายเลย  เดินมานี้ดดดหนึ่งจะเป็นแยก  ซึ่งซ้ายมือจะเป็นเสาชิงช้าค่ะ


เลี้ยวขวาเลยค่ะ


เดินมาเรื่อยๆ จะเจอสามแยก  ซึ่ง เลี้ยวผิดอีกแล้ว  
คือ  ช่วงเดินนี่นอกจากจะเิด GPS แล้วยังเปิดอ่านรีวิวเรื่อยๆ ด้วย
เมื่อเลี้ยวผิด  อ่านรีวิวก็ไม่เข้าใจ  ถามชาวบ้านแถวนั้นค่ะ  ถามว่าศาลเจ้าพ่อเสือไปทางไหน (ถามสถานที่ยอดฮิตไปเลย)
นี่ค่ะ  เราต้องเลี้ยวขวา  ไปตรงถนนบำรุงเมือง (ตรงรถแท็กซี่สีชมพูอะค่ะ)

เดินเลี้ยวขวาเขามาแล้ว


เดินตรงมาก็จะเจอบ้านนี้  ลักษณะสวยดีค่ะ  สีก็สวย  (จำสองรูปนี้ดีๆ นะคะ)


เดินมาสักพักก็ถึงแพร่งสรรพศาสตร์ค่ะ  นี่สัญลักษณ์ของแพร่งนี้

และร้านราดหน้ายอดผัก  ร้านที่กระทู้รีวิวเขาแนะนำมา 555
เดินมาร้อนมาก  ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน  เพิ่มพลังกันก่อน

 อิ่มแล้วเดินต่อค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าแพร่งสรรพศาสตร์ตรงประตูสัญลักษณ์แพร่งรูปที่แล้ว  ก็เจอนี่เลย  สำนักพิมพ์ชื่อดัง
อจท.

และป้าย

จากที่อ่านกระทู้มานี่อยากไปแพร่งนรามาก  ดูมีอะไรดี 555
และเนื่องด้วยทางในแพร่งสรรพศาสตร์นี้ดูเงียบๆ ไม่ค่อยมีคน  เลยไม่กล้าเดินเข้าไป  
กะว่าจะไปตั้งหลักที่ศาลเจ้าพ่อ-่อน
เพราะคิดว่าแพร่งนราและแพร่งภูธรจะอยู่ถัดจากนี้ (หารู้ไม่ว่าตัวเองนั้นผ่านแพร่งนรามาแล้ว)
กลับออกจากประตู และเดินต่อไปค่ะ

เดินดื่มด่ำกับความงามความเก่าแก่ของบ้านเรือน  ในสมัยก่อน  ในยุคที่รุ่งเรือง  ในสมัยที่เป็นวังคงสวยงามมีชีวิตชีวากว่านี้มาก
เดินดื่ม(ความ)ดำกับแดดอันร้อนแรงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงศาลเจ้าพ่อ-ันเลยค่ะ


ต่อในคอมเม้นต์ข้างลางนะคะ
 

แสดงความคิดเห็น

4 ความคิดเห็น

sarangpla 3 ก.ค. 59 เวลา 22:41 น. 1
ต่อค่ะ

และแล้วก็มาถึงศาลเจ้าพ่อเสือค่ะ
ร้อนมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว) คนเยอะมากเช่นกัน
เนื่องจากเห็นคนเยอะบวกกับเคยได้ยินการมากราบไหว้บูชาเจ้าพ่อเสือจากหลายทาง  เลยกะว่า เข้าไปดู ไปไหว้หน่อยแล้วกัน
เท่านั้นแหละ  นอกจากคนจะเยอะ  เยอะชนิดที่ว่าเรียกว่าแน่นเลยเถอะ  ควันธูปก็แน่นเช่นกัน  คลุ้งเลยทีเดียว
ดังนั้นเราจึง  ออกมาข้างนอกเถอะ
ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็เจอป้ายนี้
ป้ายประมาณว่า  ย่านสามแพร่งหรอ  เดินย้อนกลับไปสิ
เราก็แบบ เฮ้ย  เลยมาทุกแพร่งแล้วเรอะ  ไม่มั้ง  เดินต่ออีกหน่อยแล้วกัน ว่าแล้วก็มุ่งหน้าเดินต่อไป
(คือจริงๆ ควรเชื่อป้าย จริงๆ)
เดินมาจนเจอวัดมหรรณพาราม และเดินต่อไป
เดินไปจนสุดทาง จนถึงถนนเส้นหลัก
มาเช็คทีหลังคือ  เดินต่อไปก็อาจจะถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเลยทีเดียว T^T
ในใจนี่คิด "เดินมาทำไมวะ น่าจะเชื่อป้าย"
แต่เดินมาเจอร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟน่านั่งนะคะ  แต่ไม่กล้าเข้า 555
เดินกลับเถอะ
จากตอนแรกจะมาเดินชื่นชมบ้านเรือน  สถาปัตยกรรมอันสวยงาม  วิถีชีวิตผู้คน เมื่อหลงบ่อยๆ เข้า สิ่งที่ตั้งใจหายหมด
ความคิดตอนนั้นคือ  เราคงหาแพร่งที่เหลือไม่เจอแล้วแหละ  แพร่งเดียวก็พอเนอะ  เดินย้อนกลับไปเที่ยววัดพระแก้ว  ไปท่ามหาราชแล้วกัน
เฮ้อ !

0
sarangpla 3 ก.ค. 59 เวลา 22:46 น. 2
เมื่อเดินย้อนกลับมาก็เจอเลยค่ะ
แพร่งนรา  คือไม่อ่านป้ายเองค่ะ  ผ่านมาตั้งแต่แรก  (จำรูปที่บอกให้จำดีๆ ได้ไหมคะ  นั่นแหละแพร่งนรา)
ร้านขนมเบื้องที่ตามหา (จากในรีวิว)
อร่อยมาค่ะ  ชิ้นละยี่สิบบาท รสชาติไม่เหมือนขนมเบื้องทั่วไปเลย
และนี่โรงเรียนที่ตามหา
สมัยก่อนคงสวยน่าดู (ปัจจุบันมีสำนักทนายอยู่ข้างๆ ค่ะ)
ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนค่ะ
จะเป็นบ้านเรือนผู้คน  ร้านอาหาร  ร้านค้าต่างๆ
แต่สถาปัตยกรรมสวยงามเหมือนกัน (แอบชอบสี)
เดินตรงไปอีกค่ะ
สุดซอย  555  ทะลุถนนอีกแล้ว
เดินลัดเลาะถนนเพื่อเข้าซอยถัดไปค่ะ (จริงๆเป็นที่แรกที่ควรเข้าต่างหาก)

แวะเข้าซอยกันค่ะ
จริงๆ นี่คือแพร่งภูธร
สรุปคือเดินผ่านแพร่งแรกๆ เพื่อไปแพร่งสุดท้ายก่อน 555
ก่อนถึงตรงนี้จะมีร้านเกาเหลาสมองหมูที่ในกระทู้รีวิวแนะนำนะคะ  แต่ไม่ชอบค่ะเลยขอผ่าน
แล้วก็เดินทะลุออกมายังถนนที่ฝั่งตรงข้ามเป็นกระทรวงมหาดไทย
ด้านขวามือเป็นกรมแผนที่ทหารและกระทรวงกลาโหมค่ะ
ข้ามถนนไปฝั่งกระทรวงมหาดไทย
แล้วก็ข้ามไปฝั่งกรมแผนที่ทหารต่อเลย


สถาปัตยกรรมของกรมแผนที่ทหารและกระทรวงกลาโหมสวยมาก  อยากถ่ายรูป แต่ไม่มีขาตั้งกล้อง ไม่มีเพื่อนถ่ายให้ อุตส่าห์ไม่มีค่อยคนเดินผ่าน
มันร้อนไง นานๆ จะมีเดินผ่านมาบ้าง  ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติค่ะ  เขาเดินแบบไม่กลัวร้อนกันเลย


เดินไปถ่ายรูปหน้ากระทรวงกลาโหมกันค่ะ

0
sarangpla 3 ก.ค. 59 เวลา 22:49 น. 3
แท้แด่ !!  เห็นวัดพระแก้วแล้วด้วยยย

ปืนจ่อ








เจอสถาปัตยกรรมของกระทรวงกลาโหมเข้าไป  ลืมทุกสถาปัตยกรรมที่ผ่านมาหมดเลย  รัวชัตเตอร์ค่ะ 555
ถัดมาจากกระทรวงก็จะเป็นศาลหลักเมืองค่ะ
ฝั่งตรงข้ามค่ะ  ข้ามไปเพื่อรอรถเมล์กลับกัน  ขี้เกียจรอเพื่อน (เพื่อนโทรมาบอกว่ากำลังจะออกจากหอนะ  คือ...  ไม่รอแล้ว)  เหนื่อย ร้อน เมื่อย เพลีย
รอรถเมล์สักพัก (เปิดGPS) เช็คสายรถเพื่อที่จะกลับอนุสาวรีย์ชัย  แล้วก็ผ่านไปเกือบชม. ก็คิด (เอง) ว่า  หรือรถที่ไปอนุสาวรีย์จะไม่ผ่านทางนี้
เดินค่ะ  อีกแล้ว  รอบสนามหลวงนี่แหละ  เพื่อที่จะไปฝั่งกรมศิลปากร ไกลมาก 
สักพักก็คิดได้ค่ะ  ว่าตรงที่รอรถเมื่อกี๊รถเมล์ไปอนุสาวรีย์ก็ผ่าน  แต่ตัวเองปล่อยผ่านไปหลายคันแล้ว  เฮ้อ
มารอตรงนี้ก็ได้  มีเจ้าหน้าที่ให้ถามด้วย
รอไปค่ะ
รอจริงๆ
เกือบสองชั่วโมง รถไม่มีเลย
สรุปคือ โบกแท็กซี่กลับค่ะ  ค่าแท็กซี่ 107 บาท  
+++ จบกระทู้รีวิวการเดินเที่ยวแบบไม่มีแผน และเกือบๆ จะไร้จุดหมาย ของคนที่เข้ากรุงครั้งแรกค่ะ 555
รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือนะคะ  อาจจะเขียนไม่สนุก  หรือใช้คำไม่ถูกต้อง  แต่อยากถ่ายทอดประสบการณ์การเที่ยวในไทย  การเที่ยวในกรุงเทพให้ใครหลายๆ คนได้อ่าน  และเห็นว่าในบ้านเรามีที่เที่ยวสวยๆ เหมือนกัน  แม้ที่เที่ยวนั้นจะผ่านกาลเวลากัดกร่อนลงไปบ้าง  แต่ก็มีความเป็นมา  มีเรื่องเล่าให้เราได้รับรู้จากร่องรอยสถาปัตยกรรม  ภูมิทัศน์  อาชีพ  หรือวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนเอง +++
เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดลองหาที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพหรือที่ใกล้บ้านดูนะคะ  ลองออกไปสัมผัสกับสิ่งที่หลายๆ คนมองข้ามและลืมเลือน  แล้วคุณจะเห็นความสวยงามและอะไรหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
0