วลีเด็ด&เกล็ดความรู้ จากเพลงอกหัก เศร้าได้แต่เก่งEngด้วย
มาแล้ววว
ขอบคุณทุกๆฟีดแบคจากกระทู้ที่แล้ว ปลื้มปริ่มลืม
กระทู้นี้เลยจัดเพลงอกหักที่กำลังฮิตตอนนี้ให้จ้า
“We Don’t Talk Anymore”
By Charlie Puth feat. Selena Gomez
ร้องตามได้สบายๆ ศัพท์แสงไม่ยากเลย
ความหมายก็เศร้าเจ็บอยู่นะ
แต่ทำนองสนุกแบบไม่เกรงใจเนื้อเลยจ้า โยกหัวตามได้เบาๆ
ประหนึ่งจะบอกเป็นนัยๆว่า อกหักอ่ะ เศร้าได้
แต่ชีวิตก็ต้อง move on
ทำหน้าหน้าที่และบทบาทที่ต้องทำของตัวเองกันต่อไป
ส่วนเรื่องเกล็ดความรู้จากเพลงนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนี่จ้า
ปล.เพลงนี้เพิ่งเป็นข่าวฮอตไปเมื่อ
ชาลีสบถด่าจัสตินกลางคอนเสิตตัวเอง
สงสัยคงอินที่มาทำไม่ดีกับเพื่อนรักอย่างเซเลน่าของเขาเพื่อความบันเทิงให้สมกับเรียนรู้จากเพลง
ฟังเพลงก่อนสักรอบสองรอบ ค่อยมาอ่านเนื้อ
แล้วลุยเกล็ดความรู้หลังสุดจ้า
อย่างที่เคยบอก ไม่ได้จบเอกแปล จบเอกมโน!!!
ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้า
อาจไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ไม่ตามตัวอักษรเป๊ะๆ
(เวปที่แปลตรงตัวเป๊ะๆ มีเยอะอยู่แล้ว ขอแหวกบ้าง)
แต่ถ้าใครมีอะไรแนะนำ เม้นท์ได้เลยจ้า ยินดีมากๆ
อ้อ! ขออนุญาตไม่แปลทีละท่อน แบบที่ชาวบ้านเค้าทำกัน
ขอคัดวลีเด็ดๆ & สิ่งที่น่าสนใจ
มาชำแหละเน้นๆตามสไตล์นะจ๊ะ
ลุยกันเลย มา!!
23 ความคิดเห็น
We don't talk anymore, we don't talk anymore
We don't talk anymore, like we used to do
We don't love anymore
What was all of it for?
Oh, we don't talk anymore, like we used to do
V
V
เราไม่ได้คุยกันแล้ว
เราเลิกคุยกันแล้ว
เราไม่ได้คุยกันเหมือนแต่ก่อน
เราไม่ได้รักกันแล้ว
แล้วที่ผ่านมาทั้งหมด มันเพื่ออะไรกัน
What was all of it for? > “ที่ผ่านมาทั้งหมดเพื่ออะไร”
~ จะรักกันขนาดนั้นทำไม ถ้าตอนนี้คือเราเลิกกัน ไม่แม้แต่จะคุยกันด้วยซ้ำ ฮือ ดราม่าาา
What was all that about? > คล้ายๆกัน ความดราม่าก็สู้ได้ “ที่ผ่านมาคืออะไร” แต่วลีนี้จะใช้ฮาๆในสถานการณ์ที่มึนงงกับคำตอบ(เหวี่ยงๆ)ก็ได้ เช่น
Latte : Pimtha, your hair looks great today.
Pimtha : Keep it to yourself. Go away.
Latte : What was all that about?
ลาเต้ : พิมฐา วันนี้ผมเธอส๊วยสวย
พิมฐา : อย่ามา ไปไกลๆเลย
ลาเต้ : อ่าว อะไรวะ (ตูทำไรผิดวะเนี่ยะะะ)
Keep it to yourself. = I’m not interested.
Anymore adv. = ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ (มักใช้ในเชิงลบ)
Not anymore = No longer = No more
เธอไม่ได้รักฉันแล้ว
V
V
You don't love me anymore.
ใช้พูดเยอะสุด บ่อยสุด
You no longer love me.
ภาษาเขียน พูดจะตลก
ควรใช้กับบริบทที่เป็นทางการไปเลย
You love me no more.
เก่าแล้ว ภาษากวี
We don't talk anymore, like we used to do.
เราไม่ได้คุยกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว
**ดอกจันแกรมม่าข้อนี้เลย เด็ด**
Used to V.inf vs Be Used to V.ing/ Get Used to V.ing = เคย vs คุ้นเคย
I used to love you.
ฉันเคยรักเธอ (ตอนนี้ไม่รักแล้ว)
I am used to loving you.
ฉันคุ้นชินกับการได้รักเธอ
อ่ะอ่ะ สูดหายใจกันก่อน ต่อไปท่อนเฮิร์ท เจ็บลึกแกรรร
I just heard you found the one you've been looking
You've been looking for
I wish I would have known that wasn't me
'Cause even after all this time I still wonder
Why I can't move on
Just the way you did so easily
V
V
ฉันได้ยินมาว่าเธอได้เจอคนที่ใช่ คนที่เธอตามหา
คนที่ตามหามานาน
ฉันน่าจะรู้ซะตั้งแต่แรกว่า คนๆนั้นไม่ใช่ฉัน
ก็ถึงว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา (ตั้งแต่ที่เลิกกันไป)
ทำไมฉันยังตัดใจจากเธอไม่ได้ง่ายๆ
เหมือนอย่างที่เธอตัดใจจากฉัน
You have been looking for
= โครงสร้าง Subj. + has/have + been + V.ing
= Present Perfect Continuous
= ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน
**ใช้ Tense นี้จะเน้นความต่อเนื่องว่า ตามหามานานนนน
อีกวลีที่จำไปใช้ได้เลย > I wish I would have known that…
= ฉันน่าจะรู้ซะตั้งนานแล้วว่า…
= Wish clause ฟูมฟายถึงสิ่งที่ “จบสมบูรณ์” ไปแล้ว
I wish I would have known that wasn't me แปลให้อินสุดได้ว่า >> น่าจะรู้ซะตั้งแต่ตอนเจอกันไปเลย ว่าฉันไม่ใช่ คบไปก็เลิก จะได้ไม่ต้องมารักเธอให้เจ็บปวดอยู่อย่างงี้
I wish I would have + V.3 = รู้งี้น่าจะ….ซะตั้งแต่แรก
>> I wish I would have studied harder. รู้งี้น่าจะขยันเรียนซะตั้งแต่แรก แสดงว่า ผลการเรียนออกมาแล้ว ผลคงแย่ ประโยคนี้ทางแกรมม่าน่าสนใจเนอะ แต่ในชีวิตจริงพยายามใช้ให้น้อยสุดดีกว่า เพราะนั้นแสดงว่า เราไม่ Regret กับอะไรเลย ทำดีที่สุดแล้ว
Regret v. = นึกเสียใจภายหลัง
Regret doing something > I regret talking brutally to him.
Regret that… > I regret that I talked brutally to him.
ฉันเสียใจที่พูดจาแย่ๆกับเขา
Move v. = เคลื่อนที่, ย้าย, ขยับ
Move on = change / develop เปลี่ยน ขยับขยาย
*ใช้ในการเปลี่ยนเรื่องพูดก็ได้ เช่น Before we move on, anyone have any questions? >> ก่อนที่เราจะเริ่มเรื่องต่อไป ใครมีคำถามอะไรมั้ยDon't wanna know
What kind of dress you're wearing tonight
If he's holding onto you so tight
The way I did before
I overdosed
Should've known your love was a game
Now I can't get you out of my brain
Oh, it's such a shame
V
V
ไม่อยากรับรู้
ว่าคืนนี้เธอเลือกใส่ชุดเก่งตัวไหน(ตอนเจอเขา)
หรือเขาจะกอดเธอแน่นๆ
แบบที่ฉันเคยทำรึเปล่า
ฉันเจ็บทุรนทุราย
น่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกว่า รักของเธอมันก็แค่เกม
จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถตัดใจจากเธอได้เลย
ช่างน่าอายจริงๆ
Dose v. = ปริมาณยาที่ให้ต่อครั้ง
Overdose v. = ได้รับยาเกินขนาด
ในที่นี้ก็คงหมายถึง I’m in pain. ฉันกำลังทุกข์ระทมเจ็บช้ำ
I’m suffering from your love dose. ฉันกำลังเฮริ์ทจากพิษรักของเธอ
I’m suffocating. ฉันกำลังทรมาน ทุรนทุราย
Shame n. = ความอับอาย ขายขี้หน้า
It’s a shame. เป็นสำนวน จำไปใช้ได้เลย = น่าอายจริงๆ
Shame on Sb ก็ใช้ได้ เช่น Shame on you!
Shame v. = ทำให้ขายขี้หน้า
Shame Sb into doing Sth
= บังคับให้คนๆนั้นขายหน้าโดยการทำสิ่งนั้นๆ
Yaya shamed Nadech into refusing his proposal in front of people. ญาญ่าทำให้ณเดชขายหน้าโดยการปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขาต่อหน้าธารกำนัล
I just hope you're lying next to somebody
Who knows how to love you like me
There must be a good reason that you're gone
Every now and then I think you
Might want me to come show up at your door
But I'm just too afraid that I'll be wrong
V
V
ฉันก็แค่หวังว่าเธอจะได้นอนเคียงข้าง
กับคนที่จะรู้ว่าจะต้องรักเธอยังงัยแบบฉัน
แต่มันก็คงมีเหตุผลดีๆแหละที่เธอเลือกที่จะไป
ในบางครั้งก็ยังหลงเข้าข้างตัวเองว่า
เธอจะอยากให้ฉันไปโผล่ที่หน้าบ้านเธอ
แต่ก็แค่กลัวว่า ฉันจะคิดผิดไปเอง
V
V
I just hope you are meeting someone
who really loves you like I do
ไม่ได้จะหวังให้เธอนอนเคียงกับใครจริงๆหรอก
แค่เปรียบเปรยว่า หวังว่าเธอจะเจอคนที่ดี
ที่รักเธอได้มากเท่าฉัน
~ฮือออออออ~
เพลง คำยินดี ของ Klear ขึ้นมาทันทีอีกวลีแรง > There must be a good reason that you're gone. > ต้องมีเหตุผลดีๆแหละที่เธอเลือกที่จะไป
กำลังอิน ก็คงต้องต่อด้วยประโยคนี้
Well, I guess, the choice I have left is just to let you go. > ก็...คงไม่เหลือทางเลือกอะไรนอกเสียจากต้องปล่อยเธอไป
(Every) now and then = บางครั้งๆ/ นานๆครั้ง
From time to time, every so often, (every) once in a while, occasionally, sometimes แปลว่า บางครั้งเหมือนๆกัน แต่
Once in a blue moon เป็นสำนวน ดอกจันไว้เลย แปลว่า น๊านนานครั้ง = rarely > Once in a blue moon I will see her dress up like this. น๊านนานทีจะเห็นนางลุกขึ้นมาแต่งตัวแซ่บขนาดนี้
::::::::::::
จบแล้วจ้า
ฮ่าๆ ภูมิใจ สามารถทำให้กระทู้สั้นลงได้(นิดนึง)สักที
มีคนมาบอกเยอะมากว่า ยาวไป ตาลาย จัดแล้วน้า
คือกลัวคนอ่านไม่คุ้มงัยยย
ต้องขอบคุณทุกคำแนะนำด้วยจ้า
รักคนอ่าน คนกดแชร์ คนกดไลค์ คนเม้นท์ คนนำไปใช้
ม๊วฟฟฟฟ
::::::::::::
มีประโยชน์มากค่าาา แต่รอบนี้มีแค่เพลงเดียวเองเหรอค้า ง่า อยากอ่านอีกเยอะๆ T____T
แหะๆๆ ขอบคุณน้า คือกลัวมันยาวไปอ่า ก็เลยลองทำสั้นๆบ้างจ้า
ขอบคุณค่าส อ่านง่ายมาก ได้สำนวนใหม่เยอะเลย
ขอบคุณน้าาา ดีใจจังที่มีประโยชน์
หูย พึ่งเคยได้อ่าน ชอบมากเลยอะ *_* ขอบคุณนะคะ มีเรื่อยๆใช่ไหมคะ555จะรอติดตามเลย
เป็นการสอนภาษาอังกฤษที่สนุก อ่านง่ายจังเลยค่ะ
ได้รู้ประโยคที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเยอะเลยค่ะ
เขียนบ่อยๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
เข้าใจง่าย จำง่ายมากเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ เจ็บตามเลยค่ะ
แต้งมากๆ ครับ ขอยืมไปโพสตัสเฟสนะครับ 55
สอนเข้าใจง่าย ยิ่งกว่าคุณครูที่โรงเรียนอีก~
ชอบอ่ะ สนุกดีค่ะ รอกระทู้ต่อไปนะคะ อิอิ
ดราม่าสุดๆ ไปเลย จะเอาไว้ตั้งแคปชั่น 555555555555555555555
ปล.เกร็ดเขียนแบบนี้นะคะ
คนที่ใจสลายหัวใจสะอื้น...อยากจะคืน...รักนี้มันเจ็บรุ้มั้ย
ขอบคุณมากค่ะ ชอบมากเลย เศร้าจริงไรจริง
ชอบอะ ทำอีกนะ
ฝากไลค์ ฝากติดตามหน่อยครับ
>>>คลิ๊กที่รูปได้เรย<<<
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?