Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โยมน้อย แก้วแดง เป็นความหวังพระนิพพาน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โยมน้อย แก้วแดง เป็นความหวังพระนิพพาน
 ในบรรดานักปฏิบัติชุดแรกของหลวงพ่อ
คัดลอกมาจาก หนังสือตายไม่สูญ แล้วไปไหน เรื่องที่ ๑๗
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี


 
          “..ตอนที่อาตมามาอยู่ที่วัดท่าซุงใหม่ๆ นั้น มีลูกศิษย์รุ่นแรกอยู่ ๓ คนคือ โยมน้อย โยมพวง และโยมทองดี เป็นทายกทายี่กาประจำวัด เอากล้วย อ้อย ผักบ้าง ปลาบ้าง ส่งมาถวายเป็นประจำ ถ้าย้อนอดีตของ ๓ ท่านนี้ ขอดู จุตูปปาตญาณ ในสมัยพระยากาญจนบุรี (ท่านขุนแผน) เวลายกทัพต้องไปพักที่วัดจันทาราม (ท่าซุง) และทั้ง ๓ ท่านนี้ สมัยนั้นก็เป็นหัวหน้าเกณฑ์ชาวบ้านให้เอาอาหารมี ปลา เนื้อ ผัก มาให้กองทัพ สมัยนั้นชื่อวัดจันทารามมีชื่อเสียงมาก เพราะหลวงพ่อจันทร์ท่านเป็นพระยาและเป็นนักรบเก่ามาก่อน มาบวชอยู่ที่วัดนี้ได้ฝึกวิชาทหารให้แก่ชาวบ้านและมีผ้ายันต์แดง หนังเหนียวมาก ถ้าทหารที่ไปพักที่วัดท่านจะแจกผ้ายันต์สีแดง พอแจกเสร็จก็ให้แทงกันเดี๋ยวนั้นทั้งกองทัพ โดยถอดเสื้อก่อน พอมาชาติปัจจุบันนี้ ทั้ง ๓ ท่านมาเกิดก่อนอาตมา เวลาที่อาตมามาอยู่วัดท่าซุง ทั้ง ๓ ท่านก็มาเจริญพระกรรมฐานและเอาอาหารมีผัก ปลา มาถวายเป็นประจำ

          โยมน้อย แก้วแดง มีความเข้มแข็งในทาน ศีล เจริญภาวนาครบทุกอย่าง และเจริญพระกรรมฐานเก่งมาก เวลานั้นก็เจริญพระกรรมฐานกันอยู่ ๓ คน เป็นประจำแน่นอน บางวันก็มีคนอื่นมาร่วมด้วยบ้าง ต่อมาโยมน้อยเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะ ก่อนที่อาตมาจะเข้ากรุงเทพฯ หนึ่งวันได้ไปเยี่ยมท่านที่บ้าน เห็นท่านนอนเฉยไม่แสดงอาการอะไรทั้งหมด ไม่เคยครางไม่เคยบ่น ถามว่า“โยมปวดไหม” ท่านตอบว่า “ปวดมากเจ้าค่ะ” ถามว่า “เวลานี้โยมนึกถึงอะไร” ก็ตอบว่า “นึกถึงพระนิพพานอย่างเดียวเจ้าค่ะ” ถามว่า “โยมเห็นพระไหม” ตอบว่า “เห็นเจ้าค่ะ” ถามว่า“เห็นรูปร่างเป็นอย่างไร” ตอบว่า “รูปร่างใสเป็นแก้ว” ถามว่า “พระองค์นั้นเป็นใคร โยมทราบไหม” ตอบว่า “ทราบ” ถามว่า “ใครล่ะ” ตอบว่า “พระพุทธเจ้า เจ้าค่ะ” บอกว่า “พรุ่งนี้อาตมาต้องไปกรุงเทพฯ เพราะว่าจะต้องไปสอนพระกรรมฐานที่บ้านซอยสายลมบ้านเจ้ากรมเสริม ศุขสวัสดิ์” ท่านก็พยักหน้า อาตมาทราบแล้วว่าอีก ๒ วัน โยมน้อยจะตาย ที่ไม่ครางเลยเพราะจิตเป็นฌานจับพระนิพพานเป็นปกติ จึงบอกว่า “อย่าลืมพระนิพพานนะ” ท่านตอบว่า “ไม่ลืมเจ้าค่ะ เห็นเสมอเป็นปกติ ที่นิ่งไม่ครางเพราะจิตจับที่พระนิพพาน อารมณ์เป็นสุข”

          เวลา ๒ ทุ่ม อาตมาสอนพระกรรมฐานที่บ้านซอยสายลมที่กรุงเทพฯ พอเริ่มอาตมาเห็นขบวนๆ หนึ่ง มีรถแก้วแพรวพราวเป็นระยับ มีขบวนนางฟ้า เทวดา และพรหมล้อมรอบ ลอยผ่านหน้า และได้ยินเสียงเรียก “หลวงพ่อเจ้าคะๆ ขอลาไปพระนิพพาน” พอกลับวัดโยมพวงมาเล่าให้ฟังว่า โยมน้อยตายตอนยามต้น ตอนนั้นโยมพวงกำลังนั่งเจริญพระกรรมฐานอยู่ เห็นภาพขบวนรถแห่โยมน้อยในอากาศลอยมาใกล้ผ่านหน้าเห็นชัดมาก มีเสียงตะโกนลงมาว่า “พวงเอ๊ย พวง นิพพานนะน้องนะ” จำได้แต่เสียงแต่ตัวจำไม่ได้เพราะสวยมาก โยมพวงบอกอาตมาว่า “ขี่เกวียนสวยเหลือเกิน แต่เกวียนไม่มีม้าเทียมไม่มีโคเทียม เป็นงอนข้างหน้ามีเทวดาลาก”

          และคืนเดียวกันนั้นเองมีเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ในตลาดอุทัย ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยไม่เคยรู้จักกันเลย คืนนั้นเธอนอนฝันเห็นขบวนรถแห่โยมน้อยในอากาศชัดมากเหมือนที่โยมพวงเห็น เด็กคนนี้ไม่เคยมาที่วัดเลยบอกว่า “โยมน้อยนั่งเกวียนไปสวยมากแพรวพราวเป็นระยับ มีเทวดา นางฟ้า มีพรหมล้อมรอบ” และได้บอกว่าจำได้แต่เสียงเพราะท่านสวยเหลือเกิน มีชฎาใส่ ทั้งตัวแพรวพราวไปหมด คนในขบวนที่มาก็มีสภาพเดียวกัน สวยพรรณนาไม่ไหว

          เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ อาตมาไปพบโยมน้อย แก้วแดง กับคุณตานา ท่านแต่งตัวสวย ทั้งสองท่านมีความสุขไปนานแล้ว ท่านโยมน้อย แก้วแดง เป็นความหวังพระนิพพานในบรรดานักปฏิบัติชุดแรกที่อาตมาสอนพระกรรมฐาน ส่วนคุณตานา นั้นก่อนตายบูชาพระเจริญพระกรรมฐานเป็นปกติ เมื่อป่วยมากได้นิมนต์พระมาสวดพระปริตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าต่อนาม เมื่อพระเริ่มสวดกราบพระเสร็จ กำลังฟังพระสวดก็ตายเวลานั้น..”

แสดงความคิดเห็น

>