Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โดนสถาบันภาษาอังกฤษในย่านกวดวิชาบางกะปิชิ่งหนีหลังจากจ่ายเงินและยังเรียนไม่ครบตามจำนวน!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ อยากจะเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนนักเรียนและคนทั่วไปค่ะ

เนื่องจากว่าดิฉันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 และมีความต้องการที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ
จึงได้ค้นหาสถานที่เรียนคอร์ส IELTS สำหรับการนำไปใช้ในการสอบศึกษาต่อค่ะ
เนื่องจากว่าดิฉันเองก็เป็นนักเรียนชั้นมัธยมชั้นปีสุดท้ายแล้วจึงเดินเข้าออกในย่านกวดวิชาย่านบางกะปิเป็นประจำ
แล้วได้เห็นสถาบันแห่งนี้ ซึ่งหากเดินเลี้ยงเข้าซอยที่มีแหล่งรวมสถาบันกวดวิชา จะเห็นสถาบันแห่งนี้เป็นที่แรกเลยค่ะ
และด้วยความที่ว่ามีป้ายที่ใหญ่โตและอยู่ในย่านดังนี้ จึงได้ตัดสินใจที่จะเดินไปสอบถามและตัดสินใจที่จะเข้าเรียนค่ะ
จึงได้ไปแจ้งกับคุณแม่ให้มาจ่ายเงินตามปกติ แต่ทางสถาบันนั้นก็แจ้งว่าไม่สามารถรูดบัตรเครดิตจ่ายได้ค่ะ
ในตอนแรกนั้นดิฉันกับคุณแม่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่าสถาบันแห่งนี้อาจจะยังไม่มีชื่อเสียงพอที่จะใช้บัตรจ่ายก็เลยจ่ายเงินสดไป

เนื่องจากว่าภาษาอังกฤษเป็นวิชาภาษาที่ต้องใช้ความต่อเนื่องจึงจะชำนาญได้ ดิฉันจึงไปเรียนทุกวันที่เปิดทำการ
นั้นก็คือ ตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ค่ะ ในวันอังคารถึงวันศุกร์นั้นดิฉันจะไปหลังจากเลิกเรียนค่ะ
สำหรับการเรียนนั้นฉันจะเรียนวันละ 2 ชั่วโมงค่ะ เนื้อหาการเรียนนั้นจะเป็นพวกไวยากรณ์และฟังอยู่ข้างนอกกับครูไทยสองคน
พร้อมกับเครื่องเล่นซีดีค่ะ และครึ่งชั่วโมงสุดท้ายจะได้ฝึกพูดคุยกับชาวต่างชาติค่ะ

เรื่องราวมันเริ่มแปลกๆตั้งแต่ตรงนี้ค่ะ หลังจากที่ที่ฉันเรียนได้สองเดือน ครูต่างชาติที่ตอนแรกมีสองคนก็หายไปคนหนึ่งค่ะ
ในตอนแรกนั้นก็เอะใจ แต่เนื่องจากว่าปกติแล้วฉันเรียนกับครูต่างชาติอีกคนที่ไม่ได้หายไป จึงไม่ได้สอบถามครูไทยผู้สอน
เวลาที่เรียนครูไทยก็จะมาชวนคุยและก็แนะนำคอยหยิบบทเรียนต่างๆให้เราโดยจัดเป็นแฟ้มแต่ละบุคคลค่ะ
แต่แล้วจู่ๆสัปดาห์หนึ่ง ครูชาวต่างชาติที่สอนฉันเป็นประจำก็หายไปค่ะ ฉันจึงได้สอบถามกับครูไทย
ครูได้ให้คำตอบกับฉันว่า ครูชาวต่างชาติไม่สบายค่ะ

หลังจากฉันเรียนไปหนึ่งอาทิตย์ก็ไร้วี่แววของครูต่างชาติกลับมา และในสัปดาห์นั้นเองจู่ๆครูไทยก็เดินมาบอกว่า
สัปดาห์นี้เป็นต้นไปจะขอให้เรามาเรียนเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากว่า
สถาบันแห่งนี้กำลังจะโดน Take over โดยเจ้าของชาวเวียดนาม
และก็ไม่ทราบว่าครูเค้าจะได้ทำงานที่นี้ต่อรึเปล่า เพราะว่าเค้าจะเข้ามาเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนใหม่หมด
เราก็เป็นนักเรียนแค่ต้องการเรียนเพื่อใช้ไปสอบก็ตอบเค้าไปว่า ยังไงก็ได้ค่ะ ระหว่างพูดครูเค้าก็ทำหน้าเศร้าไปด้วย
ในตอนนั้นเราคิดว่าเพราะเค้าอาจจะไม่ได้ทำงานที่นี้ต่อเลยทำหน้าเศร้า และด้วยความปกติตัวเจ้าของกระทู้เองก็ไม่ค่อยได้คุยสนิท
หรือถามเรื่องเรียนกับเค้า เพราะว่าเจ้าของกระทู้อ่านเนื้อหาเองและไปถามครูชาวต่างชาติเอา
นั้นจึงทำให้เจ้าของกระทู้ต้องมาเรียนแค่เสาร์-อาทิตย์และในเสาร์อาทิตย์นั้นก็ไร้วี่แววของชาวต่างชาติตามเคย
แต่เพราะว่ามันกำลังจะเปลี่ยนระบบการเรียนเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก

เสาร์อาทิตย์ต่อมาเจ้าของกระทู้ก็มาเรื่องตามปกติ แต่คราวนี้ครูคนหนึ่งที่ได้เจ้าของกระทู้ได้คุยก่อนหน้าหายไป
ครูอีกคนได้มาคุยและแจ้งว่า ทางโรงเรียนจะขอหยุดเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อพาครูและบุคคลากรไปสัมมนาที่เวียดนาม
และจะเปิดทำการในวันเสาร์ที่8 ตุลาคม ตามปกติ ซึ่งแต่เดิมแล้วสถาบันแห่งนี้ได้ก่อตั้งและมีชื่อเสียงที่เวียดนาม
เจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ไปเรียนที่สถาบันแห่งนี้ตามคำกล่าวนั้น แต่ก็ยังไปย่านกวดวิชาอยู่ทุกวันเพราะว่ามีเรียนสถาบันแห่งอื่นที่นั้น

และแล้วก็ถึงวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม เจ้าของกระทู้มายังสถาบันแห่งนี้ตอนบ่ายซึ่งเป็นเวลาเรียนที่เจ้าของกระทู้มาเรียนเป็นประจำ
ในตอนแรกก็เดินเข้าไป และเห็นว่าพี่ตรงเคาน์เตอร์ไม่ใช่คนเดิม จึงลังเลอยู่ว่า จะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษดี
เพราะไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าคนใหม่รึเปล่า เค้าก็ถามว่า "สถาบัน A__ ใช่ไหมคะ ไม่เปิดค่ะ" ในตอนแรกเจ้าของกระทู้ก็หันตัวเพื่อจะกลับ
แต่ก็เกิดคำถามในหัวว่า "วันนี้เรามาเพื่อเรียนนะ จะบ้าเหรอ" ก็เลยหันไปถามเค้าว่า จะเปิดวันไหนคะ
พี่เคาน์เตอร์คนนั้นก็ตอบว่าไม่ทราบค่ะ แล้วก็บอกว่าวันนี้มีแต่นักเรียนของสถาบันนี้มาถาม แล้วก็ชี้ไปตรงที่นั่งซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียน
ของสถาบันแห่งนี้นั่งอยู่ เราก็ได้ไปนั่งพูดคุยกันแล้วก็ได้รู้ว่า สถาบันแห่งนี้ได้ปิดหนีไปเสียแล้ว
เราซึ่งยังไม่รู้จะทำยังไงก็เลยโทรไปหาคุณแม่ หลังจากนั้นสักพักพวกเราก็ได้เจอกับผู้ปกครองผู้เสียหายคนอื่นๆและพูดคุยกัน
และก็รวมตัวกันเพื่อไปแจ้งความ

นี่เป็นเรื่องราวที่เจ้าของกระทู้ได้เจอกับตัวเองและอยากแจ้งให้นักเรียนและคนอื่นๆได้ทราบกัน
ความมั่นใจที่รู้สึกว่าโดนโกงแน่ๆ คือ
1.เจ้าของกระทู้ได้เดินขึ้นไปดูห้องเรียนซึ่งเหลือเพียงแฟ้มและซากหนังสือ เฟอร์นิเจอร์ในห้องรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดได้รื้อถอนออกไป
2.ในตอนแรกสถาบันแห่งนี้มีมีเพจเฟสบุ๊คอยู่ แต่พอมีคนไปร้องเรียนในหน้าเฟสก็ได้ปิดเพจหนีทันที
3.สถาบันแห่งนี้ได้เปิดเมื่อตอนเดือนเมษาปีนี้ แต่ก็ไม่เคยจ่ายค่าตึกเลยสักครั้ง (จากคำกล่าวคนแถวย่านกวดวิชา)
(สถาบันแห่งนี้ได้แชร์ร่วมตึกกับสถาบันภาษาอังกฤษโดยครูชาวไทยอีกคน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่เคยช่วยออกค่าเช่าตึกเลย
แต่พี่ตรงเคาน์เตอร์คนใหม่นั้นก็มาจากสถาบันแห่งนี้ค่ะ )
4.ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย รวมทั้งครูคนไทยได้มาถอดเอาแอร์ไปเพื่อนำไปขายเนื่องจากไม่ได้รับเงินเดือน และก็คาดว่าที่จะไม่เจอ
ครูชาวต่างชาติเลยเพราะไม่มีใครจ่ายเงิน (จากคำกล่าวคนแถวย่านกวดวิชา)

โดยส่วนตัวขอออกความคิดว่าคนที่เปิดเพจเฟสบุ๊คเป็นพี่ตรงเคาน์เตอร์สองคนซึ่งเรามีหลักฐานคือ
เค้าเคยถ่ายรูปเราตอนกำลังทำแบบทดสอบลงเพจค่ะ ในตอนนี้ก็ได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรต่อ
แต่ส่วนตัวเราอยากได้เงินค่าเรียนคืนค่ะ เพราะเราจ่ายเงินแต่ไม่ได้เรียน แล้วเราจะทำยังไงต่อ
เรายอมรับว่าคาดหวังกับสถาบันแห่งนี้ไว้มาก ไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้เลย ด้วยความที่เรากล้าไปลงเรียนที่นี้เพราะ
อยู่ในย่านดังซึ่งเราได้เดินเข้าออกและเรียนมาเป็นเวลาเกือบหกปีแล้ว
ไม่คาดคิดว่าจะมีสถาบันไหนมาหลอกเอาเงินที่หายากลำบากจากผู้ปกครองเพื่อส่งลูกหลานให้ได้ดี แถมยังมาทำลายอนาคตของนักเรียน เกือบร้อยชีวิตอีกด้วย เราได้แต่คาดหวังว่าจะจับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

*สำหรับเรื่องเงินที่เสียไปก็มีจำนวนเยอะพอสมควรเพราะได้ลงคอร์ส ielts ซึ่งเป็นคอร์สใหญ่และมีระยะเวลายาวค่ะ
ราคารวมๆเกือบห้าหมื่นบาท มีผู้เสียหายตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน *

**หากว่ากระทู้เล่มนี้พิมพ์ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และโปรดช่วยกันส่งต่อให้ผู้อื่นทราบจะได้ไม่โดนแบบที่เจ้าของกระทู้โดนอีก
ขอบคุณสำหรับพื้นที่กระทู้นี้ค่ะ**

แสดงความคิดเห็น