Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 บทเรียนในการทำงานที่ผู้คนเรียนรู้เมื่อสายเกินไปในชีวิต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จงก้มหน้าก้มตาและตั้งใจทำงานเข้าไว้ นั่นคือสิ่งที่คุณถูกสอนมาตลอดเกี่ยวกับการทำงาน แต่นั่นมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วจริงๆหรือ?
ผมพบว่าคนมักจดจำสิ่งนี้ฝังใจ และเมื่อพวกเขาเริ่มที่จะเรียนรู้ว่าในการทำงานนั้นมีอะไรในชีวิต (และในความสำเร็จ) มากกว่าที่จะทำตัวเองให้ยุ่งอยู่กับงานตลอด


1. ชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าจะทนอยู่กับงานที่คุณไม่ได้รัก เจ้านายที่ไม่ให้เกียรติคุณ หรือบริษัทที่ไร้ชีวิตชีวา หลายคนบอกกับตัวเองว่าพวกเขาสามารถทนกับงานหรืออาชีพที่ทำแล้วไม่มีความสุขได้เพราะพวกเขาต้องการเงิน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเขาสามารถหางานใหม่ได้หรือเหตุผลอื่นๆ แต่ความจริงคือไม่มีใครรู้ว่าเราจะอยู่บนโลกนี้ได้นานสักเท่าไหร่และใช้เวลาไปกับเรื่องแย่ๆที่ทำต้องทนทุกข์และเสียใจมากแค่ไหน ถ้าคุณกำลังประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ จงก้าวออกมาสู่สิ่งที่ดีกว่า ไม่ว่าก้าวนั้นจะเล็กแค่ไหนก็ตาม

2. ความสำคัญของเครือข่ายสังคม คุณอาจจะคิดว่าการไปงานสังคมนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ มันน่าเบื่อสำหรับคุณที่ต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานด้วยเรื่องราวที่ไร้สาระ หรือคุณอาจจะแค่เกิดมาเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่น แต่การศึกษายืนยันแล้วว่า เครือข่ายสังคมนั้นจำเป็นต่อความสำเร็จของเรา ในความเป็นจริงแล้วนั้น บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมักจะมีเครือข่ายสังคมที่กว้างขวางและหลากหลายอย่างมาก ยิ่งคุณใช้เวลาและความพยายามไปกับเพิ่มเครือข่ายสังคมของคุณมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเข้าใกล้การประสบความสำเร็จมากเท่านั้น

3. การทุ่มเทสุขภาพของคุณเพื่อความสำเร็จหรือความร่ำรวยนั้นมันไม่คุ่มค่า ผู้คนมากมายที่ประสบความสำเร็จนั้นมีปัญหากับการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน และมีจุดจบคือการเสียสุขภาพและมีปัญหาด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้นจากความเครียดและทำงานหนักเกินไป คามจริงคือมันง่ายกว่าที่จะรักษาสุขภาพที่ดีของเราเอาไว้มากกว่าที่จะรักษาให้หายจากโรคภัยและปัญหาสุขภาพต่างๆ ความสำเร็จหรือเงินทองมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถทดแทนสุขภาพของคุณได้ จงอย่ามองข้ามสุขภาพของคุณและจงหาทางบรรเทาความเครียดที่จะสร้างปัญหาให้คุณในภายหลังด้วย

4. เหตุการณ์สำคัญต่างๆในชีวิตของคุณไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่คุณจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์ ในโลกที่เชื่อมโยงกันของเรานี้ ดึงดูดเราให้ปล่อยให้หน้าจอเล็กๆของโทรศัพท์มือถือเป็นตัวนำทางชีวิต แต่คุณคงจะไม่อยากถึงจุดจบสุดท้ายในชีวิตโดยที่ยังต้องการเวลามากขึ้นเพื่อจะเช็คอีเมล์ของคุณ จงหยุดมองแต่หน้าจอและหันมาเผชิญกับชีวิตจริงบ้าง

5. จงอย่าหยุดเรียนรู้ จากอัตราของการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีในทุกวันนี้นั้น หากคุณตัดสินใจว่าคุณจะหยุดการเรียนรู้แล้วนั้น คุณจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังกับช่วงเวลาที่ผ่านไป ความคิดที่ว่าไม้แก่ดัดยากนั้นผิดอย่างสิ้นเชิง คุณจะไม่มีวันตื่นมาแล้วเสียใจกับการที่คุณทุ่มเทใจไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเลยล่ะ

6. การเปลี่ยนแปลง หากคุณเอาแต่จมอยู่กับสิ่งที่คุณรู้แล้วหรือถนัดเพียงอย่างเดียว คุณจะพบว่าคุณนั้นมีดีแค่อย่างเดียวเท่านั้น เราจำเป็นต้องมีความคล่องแคล่ว ว่องไว และสนใจในสิ่งที่หลากหลายแตกต่างกันไป มิฉะนั้นคุณจะต้องติดอยู่กับงานที่คุณไม่ชอบหรือปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเสียเปล่า ลองนึกถึงพวกคนขับแท็กซี่ที่ถูกคุกคามโดย Uber หรือพนักงานบริการลูกค้าที่ถูกทดแทนโดยหุ่นยนต์พูดได้

7. คุณสามารถก้าวไปได้เร็ว ถ้าคุณไปคนเดียว แต่คุณจะมาสามารถไปได้ไกลกว่า ถ้าเราไปด้วยกัน หรือหากพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ พลังทีมเวิร์คสามารถทำได้ทุกอย่าง หลายคนมักจะบอกว่า พวกเขาไม่ชอบการทำงานเป็นทีม แต่ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการประสบความสำเร็จ แนวคิดของฉายเดี่ยวนั้นเป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนาน สิ่งที่ยิ่งใหญ่ย่อมต้องการทีมในการทำให้สำเร็จ

8. ความวิตกกังวลไม่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่จะรักษาความกลัวและความวิตกกังวลได้นั้นคือ การลงมือทำและความว่องไว ถ้าคุณมัวแต่เสียเวลาไปเพียงเพราะว่าคุณกำลังหวาดกลัวที่จะทำตามแนวคิดนั้นๆ มัวแต่พูดเพ้อเจ้อ หรือรู้สึกกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร คุณจะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายของคุณ อย่างไรก็ตามถ้าคุณเอาชนะความวิตกกังวลและความกลัวเหล่านั้น แล้วลงมือทำ คุณจะพบว่าสิ่งที่คุณมัวแต่วิตกกังวลนั้นมันไม่มีอะไรเลย

9. ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ ถ้าคุณยอมแพ้เมื่อคุณล้มเหลว คุณจะไม่มีทางได้เรียนรู้สิ่งใดๆเลย ในทางกลับกัน จงมองความล้มเหลวนั้นเป็นโอกาสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ถ้าคุณทำได้อย่างนั้นแล้ว คุณจะดูเหมือนได้พยายามอีกครั้งหนึ่งและประสบความสำเร็จกับสิ่งอื่น ๆ อีก

10. ความสุขคือการเดินทาง ไม่ใช่ปลายทาง ผู้คนมากมายมักจะคิดว่าความสำเร็จคือ การที่พวกเขาได้งานทำ ลดน้ำหนักได้สำเร็จ เมื่อได้สร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง หรือแม้แต่เมื่อได้จบความสัมพันธ์ลง และอื่นๆอีกมากมาย แต่พวกเราสามารถเลือกที่จะมีความสุขได้ ความสุขนั้นเป็นลักษณะนิสัยและตัวเลือก ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถเข้าถึงมันได้อย่างมีทัศนคติและมีความสุข คุณจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

แสดงความคิดเห็น

>