Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รีวิว] จากเกรด 3.01 ในวันนั้น สู่เกรด 3.75 ในวันนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีจ้า :)  วันนี้เราอยากจะมาแนะนำน้องๆที่จะรุ่นเดียวกันกับเรา หรืออยากเพิ่มเกรดตัวเองให้มากขึ้น แต่อาจจะยังสมองตัน คิดอะไรไม่ออก มาลองฟังวิธีของเราได้นะ

#จุดผิดพลาดครั้งแรก

   เดิมทีเราเป็นคนที่พื้นฐานคณิต  อังกฤษไม่แน่นมาตลอดตั้งแต่ประถมแล้ว  พอขึ้นมัธยมมาก็เริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ คือหัวไม่ยอมรับ ไม่ยอมเปิดใจให้วิชาพวกนี้เลย กลายเป็นเกรดวิชาพวกนี้ดิ่งลงมาก บางเทอมได้ 1.5 ก็มี  ทะเลาะกับแม่ตลอดทุกทีที่เกรดออก บางทีเราก็ชอบคิดนะ ว่า "เรียนไปทำไม เรียนไปก็ไม่ได้ใช้หรอก"  และเราเชื่อว่ามีหลายคนอาจคิดอย่างนี้

 เราควรหยุดคิดอย่างนั้นเลยค่ะ!   ปรับความคิดตัวเองก่อนที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ

   เพื่อนเราได้มาพูดกับเราว่า "ถ้ามัวคิดอย่างนั้น ไม่ยอมรับความเป็นจริง บอกว่าไม่ได้ใช้ แต่สุดท้ายแล้ว แกต้องใช้มันสอบเข้ามหาลัยอยู่ดีหนิ? "

   เราเลยเริ่มเปลี่ยนความคิดไปค่ะ พยายามเปิดรับ ให้เข้าใจในบางเรื่อง เช่น คณิตศาสตร์เทอมนี้ได้เรื่องความคล้าย ปริมาตร พีธาโกรัส อะไรทำนองนี้ กำหนดไว้ค่ะ! ว่าต้องได้สักเรื่อง เอาเรื่องที่ได้ให้บรรลุเลย เก็บคะแนนส่วนนี้ให้เต็ม  เพราะถ้ามองตามภาพรวมส่วนใหญ่ คือ   แต่ล่ะโรงเรียนมีสอบเทอมล่ะ 2 ครั้ง หั่นเนื้อหาเป็นสี่บท และถ้าเราได้ 2 ใน 4 บท เราก็มี % ที่จะผ่านครึ่งขึ้นมาหน่อย

 ฮึบๆ!! ไฟท์ติ้งง

  มีเหตุผลที่เกรดเราดิ่งมากคือ 'เกม' นั่นเอง  ไม่ใช่เราว่าเกมไม่ดีนะ  เพียงแต่เราเล่นไม่เป็นเวลา นั่งเล่นตอนครูสอน ไม่ทำการบ้าน ลอกแต่งานเพื่อน  กลับบ้านมาเล่นแต่เกม  ทำให้เราไม่เข้าใจว่า อจ.สอนอะไรไป จับจุดข้อสอบไม่ได้  การบ้านไม่มีส่งค่ะ

    และพอเราขึ้น ม.3 มา ก็เริ่มตรัสรู้แล้วค่ะ มีปัญหาเรื่องเกรดในการใช้สมัครสอบวิทย์ - คณิต เทอมสุดท้ายแล้ว ต้องยื่นโควต้าอีก นรกบังเกิดเลยจ้า  เกรดรวมต่ำที่สุดในห้อง  ถึงจะอยู่ระดับกลางๆไม่ถึงระดับสุดท้ายของสายชั้นแต่ก็อยู่กึ่งเลย 

(ป.ล.เกรดที่ยื่นขอวิทย์-คณิต สูงมากค่ะ น่ากลัวมาก)



#ช่วงม.3เทอมหนึ่ง(คิดค่า GPX รวมในเทอมนี้  T-T)

   เนื้อหาตอน ม.3 นี่บรรลัยมากค่ะ เพราะเราเนื้อหาไม่แน่นตั้งแต่ต้น พอมาเรียนเนื้อหาที่เขาต่อยอดขึ้นมานี่นรกมากค่ะ เด๋อมาก  แต่เราต้องใช้เพื่อนให้เป็นประโยชน์ค่ะ! 
    
   หากทุกคนลองมองดูเพื่อนในกลุ่มก็จะสังเกตเห็นเลยว่าเพื่อนแต่ล่ะคนมีความถนัดต่างกันไปค่ะ อาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่อย่างน้อยๆก็ช่วยเราได้ดีในระดับนึงก็มีค่ะ  และเราโชคดีที่เพื่อนเรา มี 3 คน  

(ขอแทนเพื่อนคนที่ 1 2 3 เป็น A B C ตามลำดับนะคะ)

A เก่งคณิตศาสตร์ค่อนข้างมากค่ะ มีสูตรลัดที่คิดเองเยอะ เพราะนางขี้เกียจเลยชอบคิดอะไรขึ้นมาเพื่อย่ออะไรยาวๆ
 
B เก่งอังกฤษแบบชนิดว่าได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่ง  สอนเข้าใจง่าย ปูพื้นฐานชาวบ้านได้ดีมาก เพราะคนนี้นางค่อนข้างจะชินกับการติวให้คนอื่นค่ะ

C  หากสองคนที่ว่าไปตอนแรกเก่งแล้ว คนนี้เหมือนเอาส่วนผสมมามิกซ์กัน คณิตใช้ได้ อังกฤษโอเค  ส่วนวิทยาศาสตร์นี่ระดับพระกาฬค่ะ เก่งจนไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยาย ตรัสรู้สูตรฟิสิกส์ ม.ต้นเกือบหมด และเริ่มลามไปยัง ม.ปลาย  วิเคราะห์ได้สุดๆในเรื่องสารและธาตุ แต่อาจจะไม่คล่องเรื่องพันธุกรรมหน่อยๆ บางคนอาจจะคิดนะว่า เฮ้ย ถ้าเก่งอย่างที่ว่ามาทำไมไม่ได้แข่งไรบ้าง คือนางแบบว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสารสักเล็กน้อยค่ะ 

ส่วนไทยสังคม จะเป็นส่วนของเราค่ะ เนื้อหาเราจะแน่นในจุดจุดนี้มาก  (มีความนอกเรื่องไปไกลแล้วซอรี่ T-T)

  #ช่วงก่อนสอบ(2 สัปดาห์)
 
เราเชื่อว่าหลายๆคนมีโมเม้นจะสอบแล้วยังไม่อ่านหนังสือ แน่นอนว่าเราก็เป็น(...)  ดังนั้นมีวิธีจะนำเสนอ!

2 สัปดาห์ก่อนสอบเคลียร์งานค้างเต็มที่ค่ะ ถ้ามีก็เคลียร์ ถ้าไม่มีก็ทำแบบฝึกหัดล่วงหน้า เพราะ อจ.จะชอบสั่งแบบลดแหลกแจกแถมมากช่วงก่อนสอบ (ไม่แนะนำให้ค้างงานนะคะ ไม่ดี..)  ถ้าว่างก็ให้เพื่อนติวให้ ไม่ก็อ่านเอง อ่านพอผ่านๆตาสักรอบนึงค่ะ

1 สัปดาห์ก่อนสอบ!! 

 อาทิตย์นี้อ่านให้เต็มเหนี่ยวค่ะ ดูตารางสอบดีๆ วิชาไหนสอบก่อนสอบหลัง อ่านวิชาที่สอบก่อน เอาวิชาที่เราได้ก่อนค่ะ  แต่ถ้าวิชาไหนคิดว่า ไม่เข้าใจ อ่านเองไม่เก็ต แต่ไม่มีเวลาแล้ว เราแนะนำให้เทค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ สู้เอาเวลาตรงนั้นมาอ่านวิชาที่เรายังพอได้ ดีกว่าอ่านไปแล้วไม่ได้อะไรเลย

(ในกรณีนี้ให้เทแค่ 1 วิชาค่ะ หากเป็นวิชาหลัก อย่าลืมนะ! ว่านี่เป็นวิธีสุดท้าย )

  เวลาอ่านก็ต้องจดสรุปไปด้วยค่ะ ถ้าจะเอาในข้อสอบที่ ร.ร.ก็ยึดเอาหนังสือที่ทาง ร.ร.ใช้สอนมาเป็นหลักก้พอค่ะ ไม่ต้องใช้อย่างอื่นมาปะปน ไม่งั้นเนื้อหาอาจตีกันอิรุงตุงนัง จดคีย์สำคัญไว้ พยายามจดให้เสร็จภายในสามวัน และมันจะง่ายมากถ้าเราอ่านผ่านๆตามาแล้วใน 2 สัปดาห์ก่อนสอบค่ะ เพราะเนื้อหาจะจำง่ายขึ้นเพราะเห็นบ่อยๆ

หลังจากจดเลกเชอร์เสร็จเราก็ทำสมองให้โล่งค่ะ ไม่ต้องอ่านหนังสือแล้ว อ่านแต่เลคเชอร์ก็พอ จำกระทัดรัด ไม่เยอะเกินไป  นอนไม่เกิน 3 - 5 ทุ่มนะคะ ป้องกันอาการที่เกิดตากสมองพีกผ่อนไม่เพียงพอ

#ก่อนวันสอบ 1 วัน!

วันนี้ไม่ต้องหักโหมใดๆค่ะ เราพร้อมแล้ว อ่านบ้างพักบ้าง  นอนไม่เกินสามทุ่ม ตื่นมาสัก 6 โมงเช้า ทานเข้าให้อิ่ม สมองโล่งๆ ก่อนเข้าห้องสอบสัก 5 - 10 นาที เอาชีทสรุปวิชานั้นๆมาอ่านให้เรียบร้อย อ่านแบบครั้งสุดท้ายค่ะ พอเข้าห้องสอบก็ต้องใจเย็นๆ ไม่ลนลาน มองหาข้อสอบแน่ใจ ทำได้ แล้วทำให้เสร็จ  พอข้อที่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์ เพราะอยู่ก้ำกึ่ง ประมาณว่า ใช่รึเปล่าหว่า? เป็นลำดับที่สอง ส่วนท้ายสุดค่อยเป็นข้อที่ทำไม่ได้ค่ะ

ทำได้ >>> ใช่ข้อนี้ไหมนะ? >>> ข้อนี้ไม่ได้เลย ค่อยๆมาคิดหาวิธีทำไปทีละส่วน

***เวลา อจ.พูดในห้องพยายามหาคีย์ข้อสอบด้วยนะคะ จะได้พอเดาทางได้

**ส่วนพวกงานที่ อจ.สั่ง ถ้ามีกำหนดส่งล่วงหน้าให้ทำเสร็จภายในอาทิตย์นั้นเลยค่ะ จะได้ไม่ลนลานตอนส่งงาน

*จดกำหนดการต่างๆไว้ให้เป็นระเบียบ จะไม่ลืม

[ เพิ่งเคยมาเขียน รีวิว แบบนี้ มือใหม่เลย ผิดพลาดตรงไหนก็ขอโทษด้วยคะ  ต่อไปจะมาแนะนำการเตรียมตัวสอบเข้ามอสี่เนอะ ตรงไหนไม่ถูกใจติชมกันได้ค่ะ :)  ]

ตอนเกรดเราได้ 3.75 นี่ดีใจมากค่ะ เพราะไม่เคยได้สูงเท่านี้

ป.ล.บ้านเรากำหนดเกรดไม่ให้ต่ำกว่า 3.00 ค่ะ ได้ 3.01 ถือว่าเฉียดตายมาก




แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น