คนโดนใจ: เรื่องราวของ หลุยส์ปาสเตอร์ ผู้ประกาศสงครามกับเชื้อโรค
สวัสดี คนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ทุกคนนะคะ วันนี้เจ้าของกระทู้ขอนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับเขาหลุยส์ปาสเตอร์ นักเคมีผู้ยิ่งใหญ่ชาวฝรั่งเศส ผู้ใช้วิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญ คิดค้นหาวิธีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น จนกลายเป็นคุณประโยชน์ให้กับโลกและคนรุ่นต่อมา ไปดูกันเลย
(เครดิตภาพ:https://hoangkimlong.wordpress.com)
หลุยส์ปาสเตอร์ ในวัยเด็กนอกจากจะเรียนวิทยาศาสตร์ได้ดีเขายังมีความสามารถในการวาดรูปอีกด้วย โดยเฉพาะการวาดภาพเหมือน
แม้ว่าจะเรียนอักษรศาสตร์ แต่หลังจากจบเขาก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และได้ค้นคว้าวิจัยทางเคมีจนพบสิ่งต่างๆมากมาย เช่น แบคทีเรียมีหลายชนิดทั้งให้คุณและเป็นโทษ
เขาพบปัญหาเรื่องการเน่าเสียของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงพยายามค้นหาสาเหตุจนรู้ว่าจุลินทรีย์นี่เองที่เป็นสาเหตุของการเน่าเสีย จึงได้คิดหาวิธีที่จะเก็บรักษาให้อยู่ได้นาน
เมื่อสาเหตุคือจุลินทรีย์จึงต้องฆ่าจุลินทรีย์ให้หมดไป
(เครดิตภาพ:http://www.veganvillage.org)
วิธีการของเขา
1.เขานำนมมาต้มด้วยความร้อน 145 องศาฟาเรนไฮต์
2. ทำให้เย็นลงโดยเร็วๆที่สุด
3.ก่อนนำไปบรรจุขวดและใช้สำลีอุดปากขวดป้องกันไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าไปได้
*กรรมวิธีนี้ ต่อมาเรียกว่าการฆ่าเชื้อแบบปาสเตอร์ หรือพาสเจอร์ไรซ์
เมื่อเกิดโรคระบาดที่ร้ายแรงกับตัวไหม สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
เขาบอกว่ามันมีสาเหตุมาจากจุลินทรีย์ที่ตัวหนอนกินเข้าไป
แต่เขาสามารถป้องกันได้
ต่อมาเขาคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคระบาดในสัตว์ด้วยการนำเชื้อโรคมาเพราะให้อ่อนแอและฉีดกลับเข้าไปในสัตว์เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน
โดยวิธีของเขาก็คือทำให้จุลินทรีย์ต่อสู้และทำลายกันเองจนหมดสิ้นในที่สุด
ในตอนนั้นโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มีวิธีรักษา เขาจึงค้นคว้าทำวัคซีนและนำไปทดลองกับสัตว์ปรากฏว่าได้ผลดี แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่กล้านำมาใช้กับคนอยู่ดี
วันหนึ่งเด็กชายวัย 9 ปีถูกสุนัขบ้ากัดพ่อแม่ของเด็กจึงนำลูกมาให้เขารักษา ผลปรากฏว่าวัคซีนทำให้เด็กน้อยรอดชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า
การค้นพบครั้งนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในปี
คศ.1888 เขาได้ก่อตั้งสถาบันปาสเตอร์ขึ้นที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ปาสเตอร์ ยังคิดวิธีรักษาโรคต่างๆเช่น
-พิษจากงู
-อหิวาตกโรค
-คอตีบ
-วัณโรค
ตลอดชีวิตเขาได้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนมากมายและแม้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่คุณงามความดีของเขาก็ยังคงถูกเล่าขานสืบไป
(เครดิตภาพ:http://www.newmana.com)
ช่วงสาระล้วนๆของ หลุยส์ปาสเตอร์
สถาบัน ปาสเตอร์ ไม่ได้มีเฉพาะที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสเท่านั้นแต่ยังมีอีกหลายแห่งทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยด้วยด้วยเมื่อปีพ.ศ. 2454 หม่อมเจ้าหญิงบันลุศิริสารดิสกุล พระธิดาในสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพสิ้นพระชนม์เพราะถูกสุนัขบ้ากัดพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชานุญาตให้อาศัยตึกหลวงที่ถนนบำรุงเมืองจัดตั้งสถานที่เพื่อผลิตและให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคกลัวน้ำแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยและใช้ชื่อว่า
“ปาสตุระสภา”มี ดร เลโอโปลด์ โรแบรต์ ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้อำนวยการ และได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากสถาบันปาสเตอร์ประเทศฝรั่งเศส
ต่อมาเดือนสิงหาคมพศ. 2460 รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานปาสเตอร์ตามชื่อของหลุยส์ ปาสเตอร์ผู้ค้นพบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้โอนสถานปาสเตอร์ไปอยู่ในความดูแลของสภากาชาดไทย ภายใต้ชื่อกองวิทยาศาสตร์สภากาชาดไทย
ผู้คนในโลกนี้ปลอดภัยจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่า”เชื้อโรค”ด้วยความอุตสาหะของนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งซึ่งเรื่องราวของเขาโดนใจให้ผู้คนตระหนักถึงความทุ่มเทในการรักษาเพื่อนมนุษย์
จบกันไปแล้วนะคะ กับเรื่องราวของหลุยส์ปาสเตอร์ผู้ที่ประกาศสงครามกับเหล่าเชื้อโรคทั้งหลายทั้งแหล่ ตั้งแต่โรคจุลินทรีย์ในหนอนจนถึงโรคพิษสุนัขบ้าที่มนุษย์ก็ยังคงเป็นกันมาจนถึงวันนี้นะคะ
ก็ต้องขอชื่นชม หมอหลุยส์ ปาสเตอร์ จริงๆนะคะที่ได้ประดิษฐ์คิดค้นยารักษาโรคต่างๆให้พวกเราได้ใช้กัน
ต้องขอบอกเลยว่าหลุยส์ ปาสเตอร์เป็นบุคคลคนหนึ่งที่สำคัญกับโลกของเรามากๆ เพราะถ้าไม่มีเขา จนถึงตอนนี้มนุษย์ก็อาจจะยังไม่รู้จักคำว่าวัคซีนด้วยซ้ำ ที่นี้นึกภาพดูนะคะคนที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือคนที่โดนงูกัด ถ้าไม่มีวัคซีนไปต้านและทำลายเจ้าจุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกาย ต่อไปมนุษย์เราจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ค่ะ
ที่มา:หนังสือคนดลใจ
ถ้าชอบก็กด like แล้วก็คอมเม้นนะคะจะได้เป็นกำลังใจให้กับเจ้าของกระทู้ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น