คนดลใจ: เรื่องราวของ ทวิทย์ สายไหม ผู้พิทักษ์ป่า
สวัสดีคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ทุกท่านนะคะ เราคือเจ้าของกระทู้คนเดิมเพิ่มเติมคือการหอบกระทู้เรื่องใหม่มาให้อ่านกันค่ะ
จะว่าไปนี่ก็ใกล้วันสิ่งแวดล้อมโลกแล้วนะคะ เจ้าของกระทู้ก็เลยอยากจะหาเรื่องราวดีๆสักเรื่องนี้มาให้ทุกท่านได้อ่านกันเสียหน่อย รับรองค่ะคุณจะรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เขาทำแน่นอนค่ะ
เกริ่นนำ
การอยู่รอดของป่าสักทองผืนสำคัญแห่งป่าแม่ยมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขมากมาย ในจำนวนนั้นอาจมีสองนิ้วของลูกจ้างตรวจป่าสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติผู้นี้รวมอยู่ด้วย
(เครดิตภาพ:https://www.youtube.com)
ทวิทย์ เป็นคนอำเภอสอง จังหวัดแพร่โดยกำเนิดชีวิตของเขาผูกพันกับป่ามาตั้งแต่เด็ก เขามักจะไปเดินเล่นในป่าหน่อไม้ หาด้วงกว่างไว้เล่นกับเพื่อนๆ
เมื่อโตขึ้นได้เห็นพี่ชายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อุทยาน
ออกลาดตระเวนป่า ทวิทย์จึงฝันถึงการทำงานป่าไม้ตั้งแต่นั้นมา
สำหรับเขาและเพื่อนๆการออกลาดตระเวนในพื้นที่แต่ละครั้งย่อมไม่ต่างอะไรกับการไปยืนประชิดความตาย เพราะไม่รู้ว่าจะปะทะกับพวกลักลอบตัดไม้ที่ไหน เมื่อไร
หลายครั้งที่เขากลับไปบ้านแล้วพบว่าภรรยาเก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับแม่ยายก็ทนรับสภาพที่เป็นอยู่ไม่ไหว
เธอต้องการให้เขาลาออก อยากให้เขาทำงานที่ได้เงินเยอะกว่านี้ เพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้างของอุทยานยังไม่ได้บรรจุเข้ารับราชการได้ค่าจ้างเฉลี่ยเพียงวันละ 144 บาท เธอคิดว่า
“ถึงจะได้เงินน้อยแต่ถ้าเราอยู่อย่างพอเพียงปลูกผักทำการเกษตรเอามันก็พออยู่ได้
และเหตุผลสำคัญนอกจากเรื่องเงินคือฉันไม่อยากให้เขาไปเสี่ยงตายลูกสาวเราพึ่ง 2 ขวบถ้าเขาเป็นอะไรไปครอบครัวเราจำลำบาก"
แต่ความสุขในการทำงานของเขาคือการได้เข้าป่า ทวิทย์คิดเช่นนั้น
คืนที่เขาและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ยมไม่มีวันลืม เมื่อพวกเขาพบร่องรอยพวกลับลอบตัดต้นไม้และซุ่มดักรอ ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ประจันหน้ากันในระยะประชิด
เขาเข้าทำการจับกุมแต่คนร้ายขัดขืนชักมีดโบวี่ออกมาฟัน โดยสัญชาตญาณ เขายกมือขึ้นป้องนิ้วกลางกับนิ้วนางของเขาขาดกระเด็นทันที!!
หลังจากจับกุมคนร้ายเขาเอานิ้วไปให้หมอต่อ ผลคือนิ้วกลางต่อได้แต่นิ้วนางต่อไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตามแม้นิ้วของเขาจะหลุดขาดไปทว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่งอกงามขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
การสูญเสียนิ้วของเขาทำให้เจ้าหน้าที่และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการลักลอบตัดต้นไม้หันมาดูแลผืนป่าอย่างจริงจังจนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้หลายรายยุทธการปราบปรามนี้ใช้ชื่อว่ายุทธการ ทวิทย์ สายไหม
ส่วนทวิทย์ สำหรับเขาแม้นิ้วมือจะต้องแหว่งวิ่นไปตลอดกาลเขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขากลับสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าของชีวิต
ความรู้สึกที่แท้จริงของทวิทย์ สายไหมต่อเหตุการณ์ในวันนั้น
“เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นคราใดผมจะเอามือขึ้นมาดู และทุกครั้งที่ดูผมก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับการแลกนิ้วเพื่อรักษาผืนป่าเอาไว้ การที่นิ้วมือของผมเป็นแบบนี้ไม่เคยทำให้ผมคิดอยากจะเลิกทำงานเลย ผมว่ามันเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผมยิ่งอยากทำงานมากขึ้น เพราะงานของผมคือการเก็บผืนป่านี้เอาไว้ให้เป็นสมบัติของผู้คนอีก 60 กว่าล้านชีวิต”
เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ
อุทยานแห่งชาติแม่ยมหน่วยย่อยพิทักษ์ผาอิง อำเภอสองจังหวัดแพร่ที่เขาสังกัดอยู่นั้นเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบตัดไม้โดยเฉพาะบริเวณ “ดงสักงาม” ซึ่งเป็นป่าไม้สักที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
เอาล่ะค่ะหลังจากที่ทุกท่านได้อ่านเรื่องราวของทวิทย์สายไหมกันไปแล้ว สิ่งที่ได้คืออะไร?
ความผิดพลาดความล้มเหลวในการสูญเสีย อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว อย่างกระดาษโน๊ต Post it ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในทุกวันนี้ก็เกิดจากความผิดพลาดเช่นกัน เพราะเดิมบริษัทต้องการพัฒนากาวที่สามารถติดได้แน่นทนนาน แต่หนึ่งธีมวิจัยกลับไปได้กาวที่ลอกออกได้ง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับวัตถุประสงค์เดิมโดยสิ้นเชิง
ต่อมานักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งนำกาวนี้ไปใช้ติดกระดาษคั่นพระคัมภีร์ไบเบิล เพราะว่ามันติดง่ายลอกง่ายจึงทำให้เกิดความคิดที่จะผลิตกระดาษ Post it ออกวางจำหน่ายจนแพร่หลายไปทั่วโลก
ความสูญเสียนิ้วของผู้พิทักษ์ป่าทวิทย์ สายไหมก็เช่นกันแม้เขาจะสูญเสียนิ้วไปตลอดกาลแต่ก็ได้สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้ร่วมงานคนอื่นร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่งผลให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าในโลกนี้ยังมีผู้อุทิศตัวเพื่อประโยชน์ของป่าไม้ เพื่อผู้อื่น
ก่อนจะจากกันไป ขอฝากคำถามนี้ไปถามใจตัวเองนะคะ
ถ้ายัง เรื่องราวเหล่านี้คงจะทำให้คนที่ได้อ่านไม่อาจรู้สึกเพิกเฉยดูดายได้อีกต่อไป "
ต้อนรับวันสิ่่งแวดล้อมล่วงหน้านะคะ
ที่มา:หนังสือคนดลใจ
ชอบก็ช่วยคอมเมนต์บอกกันด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น