ไม่รู้จะเรียนใหน? เรียนใหนดี?
ตั้งกระทู้ใหม่
ปัญหาหลักคือ โง่ค่ะ สอบไม่ติด :)
ปัญหาโลกแตกของเราเองเมื่อ6ปีที่แล้ว ด้วยความไม่ขยันเรียน เรียนไม่ทันเพื่อน จบได้เพราะอาจารย์ช่วยทั้งนั้นเลยไม่รู้จะเรียนใหนต่อ พ่อแม่ก็วาดฝันลูกไว้จะสวยหรูเลยยย แม่อยากให้เรียนนิเทศ พ่ออยากให้เรียนหมอ แต่ความรู้ลูกเท่าเม็ดไข่ปลาซิว เอาละสู้ดูสักครั้งไม่เสียหาย!!!!
เราก็เลยตามสอบ สอบ สอบ สอบ สอบทุกที่อ่ะที่เปิดสอบ สรุป ไม่ติดสักที่จ้าาาา เห้อออ หมดหวังล่ะโถ่วววว จนวันนึงเปิดเจอในdek-dนี้แหละ *มหาลัยอัสสัมชัญเปิดรับสมัครนักศึกษาเข้าง่าย ไม่ต้องสอบแค่ยืนคะแนนสอบTOEFL (ท้าวความ เพื่อนบังคับไปสอบTOEFLเป็นเพื่อนมันสุดท้ายสอบผ่าน)* นี้แหละความหวังของเราต้องกลับไปกราบเพื่อนงามๆสักรอบล่ะ เรียนที่นี้แหละ :) เหมือนจะง่ายแต่ไม่เลยจ้ะะ ค่าเทอมแพงเว่อร์ร์ร์ร์ร์ แล้วเราเลือกเรียนนิติแพงไปอีกกก (จบหลักสูตร5xx,xxxปลายๆ) พ่อแม่ก็ใช่จะมีตัง เห้อออแทบล้มทั้งยืน แต่หารู้ไม เห็นเป็นInternational College ยื่นกู้ กยศ. กรอ. ได้นะจ้าาา หวานปากสิงี้ยื่นเลยจ้ะ (เรากูกรอ.) วันสมัครเสียค่าใบสมัคร500 วันยื่นใบสมัครนิตื่นเต็นสุดๆอ่ะ โอกาสสุดท้าย!! พอยื่นTOEFLสรุป **ผ้านนนนผ่านนนนนน** ดีใจอ่ะไม่ต้องเสียตังค์เรียนปรับพื้นฐานด้วย เปิดเทอมวันแรกตื่นเต้นกว่าวันสมัครอีก สังเกตดูมีแต่นักศึกษาต่างชาติกับอาจารย์ต่างชาติ เยอะกว่าวันประถมนิเทศอีก engเราก็งูๆปลาๆพูดได้บ้างไม่ได้บ้าง สังคมในมหาลัยก็ดีนะ อาจารย์น่ารักมากกก ส่วนมากใช่ภาษาengในการเรียน ส่วนมากกกกกกกกกกกกกก ค่อยๆถูๆไถๆไป จน4ปีผ่านไป.... เราเรียนจบแล้ววววว น้ำตาจะไหล จะบอกว่ารุ่นเราจบแค่23คนอ่ะคณะนิติ นอกนั้นก็จบไล่ๆกันออกมา พอเรียนจบก็ถึงรอบทำงานแล้ว (ด้วยความที่เราเคยไปฝึกเป็นเลขาอัยการเราเลยค่อนข้างไปตื่นเต้นกับการทำงาน) แต่รอบนี้ไม่ขอเป็นเลขาแล้ว เรากลับมาตั้งหลักอยู่บ้าน บ้านเราอยูในนิคมโรงงาน พอเรากลับมาได้ประมาณอาทิตย์นึง พี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ก็บอกให้ไปสมัครงานบริษัทแกด้วย ด้วยความพี่ชายเป็นหัวหน้างานอยู่นั้นเลยไม่ยากเวลาสมัคร แต่ตอนเขาสัมภาษณ์นี้สิ หืมมมมยากมากกก ภาษาอังกฤษด้วยดีนะเราพอได้ รอบแรกไม่ผ่าน รอบ2ผ่านค่ะ ตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย Legal counsel เงินเดือนตอนนั้นแบบ15,000อ่ะ พอได้จ่ายค่ากินค่าอยู่ ทำงานได้2ปี เงินเดือนขยับล่ะ 23,023บาท เดือนลาสุด เราเลยตัดสินใจลาออกลาออกทำไมเงินเดือนกำลังขึ้น? ไปเรียนต่ออีกจ้า เราตัดสินใจเรียนต่อปริญาโทด้านกฎหมาย แต่แบบอยากได้อะไรท้าทายๆหน่อย ไปเรียนนอกเลยรอบนี้ เราเลยลองสอบดูแล้วก็ได้โคต้าจากAUด้วย ยากนะแต่ไม่เกินความสามารถเราหรอก เราต้องมันใจ ฮึบบบบ! เราติดUniversity of East Anglia UEA หลักสูตรLAW LLM เดินทาง26นี้แล้ว เรียนปีเดียวเอง 
พี่บี๋
21 ก.ย. 60 เวลา 14:27 น.
535
views
4 ความคิดเห็น
สอบไม่ติด อายคนอื่นเขานะ แถมภาพหลอนอีกตะหากว่า เพื่อนๆได้ที่ดีๆ แต่เรา อยู่แค่นี้เรียนกับพวกไม่เอาไหน. พ่อแม่ก็ผิดหวัง ลองมองหน้าเขาตอนบอกสอบไม่ติดสิ. ใครบอกไม่ต้องเครียด ไป ม เอกชน คือ อารมมันไม่ใช่มะ ทุกคนอยากเป็นคนเก่งอยู่ ม ดีดี เป็นหน้าเป็นตา ให้ครอบครัว ตอนจบมาก็ได้งานดีดี(งานในบริษัทหรือองกรณ์เขาเล่นสีนะ) มีเพื่อนเก่งๆ จะได้เป็นมือเป็นไม้ในอนาคต ไม่ใช่มีแต่เพื่อนไม่เอาไหน จบมาไปเป็นเซลบ้าง ทำโรงงานเน่าๆบ้าง หรือตกงาน.
สอบไม่ติด ม ดีดี เราว่า เครียดทุกคนแล้วลงเอยคือยอมปลง แล้วเรียนไปให้มัน จบๆ ไม่มีความสุขในตอนเรียน ฉะนั้น เด็ก รุ่นใหม่ควรเตรียมตัวให้พร้อม ให้มีความรุ้ที่สุดเท่าที่มากได้ ไปลองสอบสนามต่างๆซ้อมไว้ก่อน เช่น สอบพวกเตรียมอุดมแล้วดูว่าตัวเองอยู่ระดับไหน แล้วฝึกให้หนักขึ้น จะได้ไม่ต้องเสียใจที่หลัง
ผมก็เป็นคนนึงที่เรียนมหาลัยเอกชน จบปริญญาโทวิศวะคอมครับ ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทโทรศัพท์ที่ London เข้าใจความรู้สึกเจ้าของกระทู้เลยครับ ผมก็สอบไม่ติดเหมือกัน แต่ก็ไม่อยากซิ่วก็เลยเลือกเรียนที่มหาลัยเอกชน ผมไปเที่ยวแถวNorwichบ่อยๆไว้มีโอกาศคงได้เจอกันครับ
โชคดีที่เราสอบติด ม รัฐ แต่เลือกเข้า เอแบค ก็เลยไม่ได้รู้สึกไร. แต่คนที่รู้จักนี่แบบเรียนแบบ เพื่อให้จบไม่ได้ รัก มหาลัยเลย
จขท.เก่งมากคะ ชื่นชม เราก็เรียน AU เหมือนกัน รู้สึกโชคดีนะที่เลือกเรียนที่นี่ ถึงจะเป็นมหาลัยเอกชน แต่เราว่าเอแบคหลักสูตรการเรียนการสอนไม่ได้แพ้ใครเลย ได้ภาษามีชัยไปกว่าครึ่ง555555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?