เรียนกีฬาต่อสู้ป้องกันตัว

ได้เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ

มวยไทยใช้ทุกในร่างกายเป็นอาวุธได้ เช่น หมัด

ศอก เข่า หน้าแข่ง ข้อเท้า กระบวนท่า

ส่วนคาราเต้ มีสายเป็นขั้น ว่าฝีมืออยู่ในระดับไหน

ขึ้นอยู่กับสายคาดเอว คาราเต้ในสมัยก่อน นั้น

เป็นศาสตร์การต่อสู้ ที่สามารถพลิกแพลงได้

คล้ายคลึงกับมวยไทย คาราเต้ขึ้นสูงจะเน้นที่ควบ

คุมพลังอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย บวกบวก

กับความว่องไวจึงทำให้การโจมตี ได้แรงขึ้นเป็น

เท่าตัว แต่ถ้าเล่นงานตรงจุดอ่อนตามโคร่งร่าง

กายของมนุษย์ สามารถทำให้คางเหลืองหรือเข้า

เมรุ ได้

ส่วนยูโดนั้น ท่าที่อันตราย คือ ท่ากดนอนในสมัย

ก่อนยูโดกับคาราเต้อันตรายพอๆ กันแต่คาราเต้

อ่อนในท่ากดนอน แต่เน้นใช้ความว่องไวและรุน

แรง แต่ยูโดนั้นสามารถปัดการโจมตีของคาราเต้

ได้ ต่อให้จู้โจมแรงขนาดไหน ถ้าไม่ถูกโจมตีไม่

ถูกย่อมไม่มีความหมาย

คาราเต้สามารถโจมตีย้อนศรได้ ยูโดท่านอนโดน

จับล็อคยิ่งอันตราย ถ้าให้แนะนำเรียนผสมระหว่าง

คาราเต้กับยูโดท่านอน ในสมัยก่อนยูโดในการต่อ

สู้สามารถใช้หมัดต่อยได้เช่นเดียวกัน แต่สมัยนี้

เน้นความปลอดภัย เพราะนำมาใช้ในกีฬา ในยุค

สมัยก่อนศาสตร์การต่อสู้เป็นศิลปะอย่างงดงาม

กว่าการกีฬา ที่แนะนำศาสตร์ยูโดท่านอน เพื่อ

ป้องกันท่าล็อคด้วยค่ะ วิธีแก้ใช้นิ้วสวนทวารและ

พลิกเส้นเอ็น คือ การบิดข้อต่อเพื่อป้องกันการล็อค

หวังเข้าใจดิฉันนะค่ะ ^_^ มวยไทยอันตรายทุกท่า

แต่ไม่มีท่ากดนอน และ ท่าย้อนศรค่ะ...