Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความเรียงทดลองเขียน - ฮิบิกิ และ มนุษย์ลิงแห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
 
สวัสดีครับทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่าน :)

ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่า กระทู้นี้เป็น'ความเรียง'ชิ้นแรกของผมที่จะลองนำมาเผยแพร่ในเว็บ Dek-D
ซึ่งทางผู้เขียนพยายามหาข้อมูลจากหลายๆแหล่ง หากความเรียงชิ้นนี้สร้างความขุ่นเครืองใจให้กับท่านผู้อ่านหรือมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนเองก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ





 
**********************************************************
ฮิบิกิ และ มนุษย์ลิงแห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
ความเรียงทดลองเขียน โดย ลูกซองคู่
***********************************************************



ภาพโดย rizky858
(ภาพจาก https://www.deviantart.com/rizky858/art/Kantai-Collection-Hibiki-515527216)

 
  เธอลืมตาขึ้นมากลางไฟสงคราม
อันที่จริง ควรจะบอกว่าเธอเกิดมาเป็นเชื้อไฟของสงครามเสียมากกว่า
เธอมีพี่น้องอยู่อีกสาม ทั้งหมดล้วนเกิดมาเพื่อมีหน้าที่ปกปักษ์รักษาบ้านเกิดเมืองนอนเฉกเช่นเธอ
แทบจะทันทีที่ได้เกิดมาเธอและพี่น้องของเธอได้ถูกจัดตั้งเป็น หน่วยเรือพิฆาตที่ 6 


 
เธอได้ก่อวีรกรรมมาอยู่ไม่น้อย ครั้งแรกเริ่มต้นที่ท่าเรือเพิร์ลฮาเบอร์ 
เกาะฮาวาย เมื่อยามรุ่งสางของวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 
นับตั้งแต่วันนั้น ก็มีภารกิจให้เธอทำอีกนับไม่ถ้วน
ถึงกระนั้น สงครามก็ไม่เคยปรานีผู้ใด
ความหฤโหดของมันนับวันก็ยิ่งจะทวีคูณ ดุจปีศาจร้ายจอมกระหายผู้ไม่รู้จักพอ
เธอเองก็เคยถูกโจมตีจนสภาพชำรุดทรุดโทรมมาแล้วหลายหน แต่โชคก็ยังดีที่เธอรอดชีวิตและได้รับการซ่อมแซมใหม่ทุกครา



                          เพิร์ลฮาเบอร์ บันทึกภาพเมื่อ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 
                           (ภาพจาก 
http://www.historynet.com/pearl-harbor)

 
ท่ามกลางศึกสงครามที่แสนน่ากลัว ก็คงจะมีแต่เหล่าพี่น้องขอเธออยู่ร่วมศึกให้เธอผ่านพ้นคืนวันอันโหดร้ายไปได้
เธอต้องเข้มแข็งเข้าไว้ หน้าที่ของเธอคือถวายชัยให้แก่แผ่นดิน


 
แต่อย่างที่ว่า สงครามไม่เคยปรานีผู้ใด...


 
วันหนึ่งในช่วงปลายปี ค.ศ.1942
พี่น้องของเธอรายหนึ่งถูกลอบยิงจนต้องจมลงไปในห้วงสมุทร
 
สองปีถัดมา ในเดือนเมษายน ค.ศ.1944 พี่น้องของเธออีกรายก็ถูกลอบยิงขณะกำลังตามไล่ตามเรือดำน้ำของศัตรู
 
และที่เลวร้ายที่สุด ในปี ค.ศ. 1945
ปีสุดท้ายของสงคราม ญาติพี่น้องคนสุดท้ายของเธอก็ได้จรจากไปเช่นเดียวกับรายอื่นๆ
ตอนนี้เธออยู่เพียงลำพัง...
ในที่สุดเพลิงแห่งฝันร้ายก็มอดดับ
สงครามสงบลง แผ่นดินของเธอเป็นฝ่ายพ่าย
เธอถูกยกให้ชาติที่เคยเป็นอริสงครามตามสัญญาปฏิกรรมสงคราม 
นามเรียกขานของเธอก็ถูกเปลี่ยนใหม่
เธอลำเก่าจากไปแล้วพร้อมกับสงคราม ต่อไปนี้จะมีแต่เธอ,เรือพิฆาตแห่งแดนโซเวียต นาม 'เวียร์นุย' (Верный ,Verniy) 

 
...

 
  เรื่องที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นประวัติโดยย่อของเรือรบลำหนึ่งของราชนาวีญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ใช้ชื่อว่า 'ฮิบิกิ' (Hibiki)


เรือฮิบิกิ บันทึภาพเมื่อ 10 ธันวาคม ค.ศ.1941
(ภาพจาก  
https://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_destroyer_Hibiki_(1932) )
  ตามตำหรับตำราที่ไปค้นเจอมาระบุว่าเรือลำนี้เป็นเรือพิฆาตใน'ชั้น'(Class)ที่มีชื่อว่า 'อะคะสุกิ คลาส' ซึ่งในชั้นดังกล่าวจะประกอบไปด้วยเรืออีกสามลำ ได้แก่ อะคะสุกิ อินะสึมะ อิคะสึจิ หากรวมเรือฮิบิกิ ในชั้นนี้จะมีเรือทั้งสิ้นสี่ลำ
  ประวัติศาสตร์บอกเราว่า เรือเหล่านี้ออกศึกกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
พิษสงครามทำให้เรือหลายลำถูกศัตรูจู่โจมจนหมดสภาพ กว่าสงครามจะจบ กองทัพเรือญี่ปุ่นก็เหลือเรือรบในชั้นอะคะสุกิคลาสเพียงลำเดียว
ท้ายที่สุดเรือฮิบิกิก็ถูกส่งมอบให้แผ่นดินดาวแดง อดีตไพรีของญี่ปุ่น...

 
เห็นแล้วอยากจะคว้าผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา...
นี่มันภาพยนต์โศกนาฎกรรมเกรดเอชัดๆ! ฮือ!

 
                            
                 (ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวจาก https://knowyourmeme.com/photos/923131-k-on)





ก็อย่างที่ว่า เรื่องของเรือฮิบิกินั้นฟังดูสุดแสนจะรันทด 
 บ่อยครั้งที่ผมเห็นว่ามีศิลปินในโลกอิเตอร์เน็ตหลายท่านบอกเล่าเรื่องราวของเรือลำนี้ผ่านงานแฟนอาร์ต (Fanart) ตัวการ์ตูนฮิบิกิเวอร์ชั่น"เด็กผู้หญิง"จากเกม คันไต คอเล็กชั่น(Kantai collection - Kancolle) ถึงจะมีภาพแฟนอาร์ตที่ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หลายภาพ แต่ก็น่าเศร้าที่มักจะมีบางครั้งผมยังพานพบกันงานแฟนอาร์ตที่แฝงความหม่นหมองอยู่

                              
        ตัวละครเรือฮิบิกิจากเกม คันไต คอเล็กชัน (ออกแบบตัวละครและวาดโดยคุณ Yadokari)
                                        (ภาพจาก 
http://kancolle.wikia.com/wiki/Hibiki)
 

ยกตัวอย่างเช่น ผลงานแฟนอาร์ตของคุณ raythalosM ศิลปินออนไลน์ ผู้ชื่นชอบที่จะวาดแฟนอาร์ตและก็มีอยู่บางครั้งที่ศิลปินท่านนี้จะ
วาดการ์ตูนช่องแนวตลก(ร้าย)เกี่ยวกับตัวละครฮิบิกิ 






 
หนึ่งในภาพวาดตัวละครฮิบิกิในลายเส้นของคุณ raythalosM 
(ภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ raythalosM 
https://twitter.com/raythalosm/status/909677982750408705)
 


               
                                         หนึ่งในผลงานของคุณ  raythalosM 
                   (ภาพจาก 
https://twitter.com/raythalosm/status/827404463874797570)

 
  ผมเคยเอาเรื่องเรือลำนี้ไปคุยกับมิตรสหายหลายๆคนที่ชอบเล่นเกมหรือการ์ตูนญี่ปุ่นแนว
(เกือบ)สงคราม หลายคนต่างเห็นพ้องกันว่า
      "ฝ่ายสัมพันธมิตร(ฝ่ายตรงข้ามกับญี่ปุ่น ณ ช่วงเวลานั้น)นี่มันปีศาจชัดๆ บังอาจจมพี่น้องของฮิบิกิได้ยังไง!"
ผมเองก็ได้แต่ยิ้มแห้ง พูดปลอบประโลมพวกเขาไปว่า 
     "สงครามก็อย่างนี้แหละ"

 
แต่จะว่าไป หากเรามาลองคิดกันดูดีๆจะโทษฝ่ายตรงข้ามของญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นว่าเป็นตัวร้ายที่ต้องทำให้เรือฮิบิกิพัดพรากจากญาติสนิทมิตรสหายก็คงจะไม่ถูกนัก

 
  เพราะชีวิตจริงเรานั้นไม่ได้ตัดสินเพียงแค่ขาวกับดำ ไม่ได้มีแค่คนดีกับคนเลว
ไม่ได้มีแค่ผู้กล้ากับจอมมาร
ไม่ได้มีแค่ฝ่ายธรรมะกับเหล่าอธรรม
บางครั้ง โลกเราก็เป็น 'สีเทา'

 
  หากเราเห็นนกกระจอกคาบหนอนไปกินเป็นอาหาร เราไม่สามารถพิพากษามันได้ว่าการกระทำของมันนั้นถูกหรือผิด
เหล่าเรือรบของญี่ปุ่นทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เช่นเดียวกับเรือรบของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ทำตามหน้าที่เช่นกัน


 
อ้าว? แล้วเรื่องที่เรือพี่น้องของฮิบิกิต้องจมนั้นเป็นความผิดของใคร?


 
  ก่อนอื่น คงต้องแถลงเสียก่อนว่าในช่วงสงครามโลกนั้น เรือรบชั้นอะคะสุกิคลาสไม่ใช่วัตถุจำพวกเดียวที่จมลงสู่ใต้บาดาล ยังมีเรืออีกหลายลำที่จมดิ่งไปในมหาสมุทร ทั้งเรือรบของฝั่งญี่ปุ่น และเรือรบของฝ่ายสัมพันธมิตร นี่ยังไม่รวมอากาศยานที่โดนสอยร่วงลงมากลางทะเลอีก
นับไม่ถ้วน



                       ภาพซากเครื่องบินให้มหาสมุทร บริเวณประเทศปาปัวนิวกินี
           (ภาพจาก 
http://www.ww2wrecks.com/portfolio/rod-pearce-searching-for-ww2-aircraft-                                  wrecks-and-giving-closure-to-their-families-part-one/)


    มันไม่ใช่ความผิดของฝั่งฝ่ายใด ที่ทำให้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้จมลงไปเป็นขยะทะเล
สถานการณ์ที่พวกเราสร้างขึ้นมาเองต่างหากที่เป็นมูลเหตุแห่งความสูญเสียทั้งหมด
ผลกระทบจากสถานการณ์ที่ว่าไม่ได้มีเพียงการเรือรบที่จมลงสู่ก้นสมุทรเท่านั้น มันยังรวมถึงการที่ตึกรามบ้านช่องที่กลายเป็นเศษซาก สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่แต่ยุคบรรพกาลต้องถูกทำลาย และชีวิตผู้คนอีกจำนวนมากที่ต้องสูญดับไป



 
  สถานการณ์ดังกล่างเราเรียกมันว่'สงคราม'



 
  ตั้งแต่เด็ก ครูบาอาจารย์ที่โรงเรียนก็เคยสอนพวกเราเรื่องสงครามมากมายที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ศึกเมื่อครั้งพม่าเข้าราวีกรุงศรีอยุธยาเอย สงครามเก้าทัพเอย สงครามกลางเมืองอเมริกาเอย ไม่เว้นแม้แต่สงครามโลก
 
  ซากปรักหักพังที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคอยตอกย้ำพวกเรามาตั้งแต่อดีตกาลถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากศึกสงคราม
 
  มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญากว่าเดรัจฉานสายพันธุ์ไหน พวกเรามีภาษาพูด ประดิษฐ์เครื่องมือไว้ใช้สอยเองได้ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ
 
   พวกเราระรานดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้มานานหลายสหสวรรษ แต่ดูเหมือนมนุษย์ลิงเหล่านี้จะไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยจากการทำสงคราม
   พวกเรารู้กัน
ถ้วนหน้าว่าสงครามนั้นมีแต่ความสูญเสีย แต่พวกเราก็ยังรบรากันมาตั้งแต่วันแรกที่มือถือตะบองหินตราบจนวันที่มืออยู่เหนือปุ่มกดปล่อยขีปนาวุธ ทุกครั้งที่ใครสักคนประดิษฐ์เครื่องมืออะไรใหม่ๆมาได้ มันจะถูกใชในเชิงการทหารทุกครา
 
  ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจรดสงครามเย็นนั้น เราจะเห็นได้ว่าวิทยาการต่างๆล้วนพัฒนาได้ก้าวไกลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาวุธปืนหลากรุ่นถือกำเนิดขึ้นอย่างมากมาย เครื่องบินถูกวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งทศวรรษ
เครื่องคอมพิวเตอร์และแมลงปอเหล็กนามเฮลิคอปเตอร์ลืมตาขึ้นมาดูโลกในช่วงที่สงครามกำลังประทุ...



                คอลอสซัส (Colossus) เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
                     (ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Colossus_computer)



 
บางทีสิ่งแรกที่บรรพบุรุษของเราประดิษฐ์ อาจจะไม่ใช่จอบเสียมหรือเคียวเกี่ยวข้าว หากแต่เป็นอาวุธสำหรับรบราฆ่าฟั


 
  หากจะถามว่าเพราะเหตุใดสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาที่สุดบนดาวโลกที่ยังก่อสงครามกันอยู่นั้น ก็คงยากที่จะมีมนุษย์สักคนออกมาเฉลยคำตอบที่พวกเราพอจะ 'รับได้' กัน
 
  แต่ถ้าเอาเข้าจริง ธรรมชาติย่อมรู้ดีว่าเหตุที่การทำศึกสงครามเป็นเรื่องคู่เคียงมนุษย์มาหลายสมัยนั้น นั่นก็เป็นเพราะมนุษย์เราไม่รู้จักความพอเพียง
เดรัจฉานหลายพันธุ์เช่นสุนัขหรือผึ้งจะเคารพจ่าฝูงหรือนางผญาเป็นใหญ่ พวกมันพอใจในตำแหน่งที่มันเป็น มิมักใหญ่ใฝ่สูง พวกมันจึงมิเคยแตกคอกันเอง
 
  ต่างจากสัตว์ประเสริฐอย่างมนุษย์ ที่แก่งแย่งชิงดีกันมาทุกยุคทุกสมัย
หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ประถมและมัธยมสอนผมว่า มนุษย์เราอยู่ร่วมกับความกระหายอำนาจมาตั้งแต่ครั้งโบราณ พวกเรามักใหญ่ใฝ่สูงมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่บรรดาขุนนางแย่งชิงบัลลังก์ราชันตราบจนยุคที่นักการเมืองแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี
 
บางทีเราอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในโลกนี้ที่มีความต้องการไม่มีสิ้นสุด
 
มันอาจจะเป็นเพราะ มนุษย์เรามีปัญญามากกว่าสัตว์อื่น มีความคิดเป็นของตัวเอง รักอิสระเสรี มีสิทธ์จะคิดจะทำอะไรก็ได้สมใจนึก 

 
เมื่อเราอยากจะกิน เราย่อมทำได้
เมื่อเราอยากจะนอน เราย่อมทำได้
เมื่อเราอยากจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีอำนาจ
ล้นฟ้า เราย่อมทำได้...

 
  ในเมื่อใครๆก็สามารถคิดอย่างนี้ได้ เพลิงสงครามจึงอุบัติ
ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทุกฝั่งเอาตัวเองเป็นหลัก เราไม่จำเป็นต้องสนใจอีกฝั่ง เพียงแค่ตัวเองได้ชัยมาครองก็เพียงพอ...
 
  สหภาพโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics – USSR) พยายามจะแก้ปัญหานี้โดยการใช้ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์เขียนกฎให้ประชาชนอยู่ในกรอบ แนวคิดของคอมมิวนิสต์จะแตกต่างจากทุนนิยมโดยสิ้นเชิง ในระบอบนี้จะไร้ซึ่งการค้าขายในภาคเอกชน ทรัพสินทั้งแผ่นดินล้วนแต่เป็นของแผ่นดิน ผู้คนล้วนแต่อยู่ในความเทียมทัดเสมอภาค ประชาชนไม่จำเป็นจะต้องมีการแข่งขัน ไม่จำเป็นจะต้องมักใหญ่ใฝ่สูง ไม่จำเป็นจะต้องแก่งแย่งชิงดี ดินแดนนี้มีแต่ความเสมอภาคแต่เพียงเท่านั้น...

 
ในโซเวียตจะไม่มีคนรวย ไม่มีคนจน
ไม่มีผู้มากอำนาจน่ายำเกรง ไม่มีคนด้อยบารมีไร้ที่จะยืน
ทุกคนต่างล้วนเท่าเทียมกัน
ไม่มีใครมักใหญ่ใฝ่สูง 
ไม่มีใครกระหายที่จะมีอำนาจ




                                                      ธงชาติสหภาพโซเวียต
(ภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B2
 %E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95)


...





 
  เล่ามาซะขนาดนี้ ท่านผู้อ่านก็คงจะได้คำตอบไปแล้วว่า สาเหตุที่เรือฮิบิกิต้องพัดพรากจากเรือพี่น้องนั้นเป็นเพราะอะไร...




 
  ครั้งหนึ่ง มิตรหายของผมเคยเรียกเรือฮิบิกิไว้ว่า "เรือที่ซ่อมจนรอด" เหตุก็เป็นเพราะ
เรือลำนี้เคยถูกโดนยิงจนชำรุดทรุดหนัก แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมจนใช้กลับมารับใช้ชาติได้อีกครา




                    

 
บาดแผลบนกายของฮิบิกินั้นซ่อมได้...

 
  แต่ผมไม่แน่ใจว่า บาดแผลในใจของเธออันเกิดจากการสูญเสียพี่น้องจากสงครามที่ก่อโดยมนุษย์ลิงบ้าอำนาจนั้นจะรักษาได้ไหม


                                      (ไม่สามารถระบุผู้วาดภาพต้นฉบับได้)
          (ภาพจาก https://knowyourmeme.com/photos/939800-kantai-collection)


 
   บางทีการที่เธอถูกมอบไปให้สหภาพโซเวียตตามสัญญาปฏิกรรมสงครามนั้น อาจเป็นความสมัครใจของเธอเอง
 
  เธอคงจะเอือมระอากับปีศาจร้ายกระหายอำนาจที่พรากพี่น้องที่เธอรักไป
 
  เธอคงจะอยากเปลี่ยนชื่อตัวเอง เพื่อลืมเลือนอดีตที่แสนเลวร้าย เมื่อครั้งที่เธอเคยเป็นข้ารับใช้ให้กับพวกไม่รู้จักพอ
 
  เธออาจจะอยากใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบอยู่ในท่าเรือที่ไหนสักแห่งในสหภาพโซเวียต ดินแดนที่ผู้คนจะอยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน
 
ที่ที่ผู้คนจะไม่คิดแก่งแย่งชิงดีกัน ทุกคนล้วนแต่เสมอภาคเท่าเทียม
บางทีเธออาจจะคิดว่าหากวันหนึ่ง มนุษย์โลกทุกคนเป็นเหมือนผู้คนในโซเวียตก็คงจะดี
 
วันนั้นทุกประเทศคงจะผนวกเป็นดินแดนเดียวกัน วันนั้นจะไร้ซึ่งมหาเศรษฐี
ไร้ซึ่งยาจก ไร้ซึ่งราชา ไร้ซึ่งเทพเจ้า



 
ในวันนั้น จะมีเพียงแค่มนุษย์ลิงบนเคราะห์สีน้ำเงินเพียงเท่านั้น...



                                         (ภาพโดยคุณ Ukimesato)
                              (ภาพจาก  https://www.zerochan.net/2019951)






*****
อ้างอิง

https://www.wikipedia.org/
 

แสดงความคิดเห็น

>