ไปพม่าได้ไหม ในฐานะแรงงานก็ได้

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีวันนี้จะมารีวิวทริป มัณฑะเลย์ 5-8 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา
เราบินกับแอร์เอเชีย ได้ตั๋วโปรจองข้ามปี ไป-กลับ 2000กว่าบาท (*ไม่มีสปอนเซอร์นะ รีวิวเองถ้าต่อไปยินดีนะคะ555+)

อะเริ่มกันเลย คอนเซปของทริปเราคือ “เที่ยวพม่าไม่เน้นวัดวัง” แต่จบด้วยทุกวัดทุกวัง เห้อ เรามีเพื่อนร่วมทริปทั้งหมด3คน นัดเจอกัน เดินทางไปเช็คอินที่สนามบินดอนเมืองเวลา 09.00 เราก็เดือนเล่นในเกต นั่งเล่น เม้ามอย รอจนเกตเปิดแล้วขึ้นเครื่อง จิบอกว่าไม่มีงวงช้าง555+

ระหว่างที่อยู่บนเครื่อง เปิดเมนูดูเล่นเก๋ๆ มีน้ำผลมง ผลไม้ไปอิ้ก คือราคาแบบเราเอื้อมถึง เลยลองสั่งลิ้นจี่บลอสซั่มมาชิม ว๊าวคือดีย์ 65บาทนี้ผ่านค่ะ

บินแป๊บๆ ก็ถึงละ

พอเราถึงก็เดินเข้า ตม. ปกติ ยิ้มหวานๆและไหว่สวัสดีตำรวจ ตม. นางบอกว่า มงก๋ง เราก็แบบพูดไรว่ะ สักพักนางชี้ไปที่กล้อง อ้อ!!! มองกล้อง 555+ แต่คือดีนะ เขาพยามที่จะพูดภาษาเรา

อย่างแรกเลยคือแลกเงิน เรานำเงินดอลล่าไปแลกเงินจ๊าด (การคิดเงินจั๊ดอะมีสูตรเยอะแยะแต่เราแบบคิดง่ายๆ 1000=20บาท พอจบ เลขกลมๆ )

เราไปซื้อซิม เพื่อนบอกอ่านรีวิวมาให้ซื้อสีแดง เราซื้อแบบ 5GB

และเพื่อนสาวเราจ้า นางไปหาGovernment Information เพื่อสอบถามรถที่จะไปอินเล แพลนจริงๆของเราคือ มัณฑะเลย์-อินเล-พูกาม ไรงี้ สุดท้าย แม่นางinformation นางแนะนำว่าอย่าไปอินเลเลย ช่วงนี้พายุเข้า ฝนตกหนัด เรากับเพื่อนก็แบบอ่าเค ไปแค่พูกามก็ด๊ะ นางก็ขายตั๋วรถให้เราด้วยจ้า 12000จั๊ด /คน จ่ายเงินไปก็ตะหงิดๆไป ทำไมเราเคยอ่านมาแค่9000ว่ะ ก็เออ แต่ช่างมันเถอะคงราคานี้ละมั้ง *สรุปไม่จริงจ้า เขาขึ้น9000กัน บ้าบอ

ออกมาก็เดินไปหาแท็กซี่พร้อมเหมาเที่ยว เจอลุง เขาคิดค่าเหมาเที่ยวครึ่งวันและส่งสถานีขนส่ง 40000จั๊ด (ตกประมาณ800บาท 3คนเราว่าคุ้มนะ) ลุงแบบน่ารักมากตามใจสุด เขาชื่อลุงมิน เรามีเบอร์นะ เพราะเขาโทรมาตอนที่เราไปกินข้าวนัดเจอกันเวลาขึ้นรถ

ลุงพาไปหลายที่มาก

พระราชวัง มัณฑะเลย์ อันนี้เราไม่อยากเข้าเพราะค่าเข้า200บาท ไม่มีอะไรเราเคยเห็นในรีวิวเยอะแล้ว เราว่าไม่คุ้ม เลยไม่ไป
ลุงพาไปปล่อยกินข้าวที่ห้าง Dimond Plaza แต่หาร้านข้าวไม่เจอเลยไปกินนี่แทน พิซซ่า มื้อแรกๆอะเนอะก็จะหรูๆ หน่อย มื้อนี้จัดเต็ม (69000 จั๊ด ไงละกินมื้อละเป็นหมื่นๆ)
ลุงพาไปเที่ยววัด วัดนึง มีพระธาตุจำไม่ได้ชื่อวัดไร ก็ดูสถาปัตยกรรมสวยๆ อารมณ์แบบคนที่นี่เค้าให้ความสำคัญกับสถานที่ ไม่นุ่งสั้น ไม่ใส่รองเท้า ไม่ใส่ถุงเท้า
อากาศร้านจัดกินติมด้วย อันละ300จั๊ดเอง
ก็ถ่ายรูปเล่นกันสวยๆในวัดขอเป็นเอม น้ำได้ไหม ในฐานะติ่งก็ได้
หลังจากนั้นลุงก็พาไปเที่ยวที่ Mandalay Hill คือขึ้นลิฟท์ วิวดีมากเวอร์ เสียค่าเข้าด้วยนะ คนละ 1000จั๊ดเองเราก็ไปไหว้พา ต่างๆ เดินเล่นไปรอบๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมากวิวสวยมั้ยคะ
พอเย็นๆ ลุงใจดีพาย้อนไปสะพานไม้อูเบ็งอีกรอบ แต่มันมืดไม่เห็นพระอาทิตย์ตกแล้วแต่ก็ไม่เป็นไร ไว้กลับจากพูกาม มาใหม่ละกัน นี่ไงละ มีเพื่อนเป้นตากล้อง ก็จะได้รูปสวยๆแบบนี้ละ
สุดท้ายลุงมินไปส่งเราที่ สถานีขนส่ง เราก็เอากระเป๋าไปฝากที่รับฝากของ แล้วเดินหาไรกินกับเพื่อน ร้านอาหารเยอะมาก แต่แวะฉี่แป้บ ไงห้องน้ำ เสียค่าเข้า200จั๊ดนะเก๋ม่ะหลอนไม๊พูด!!!
อาหารพม่ามื้อแรกที่แท้ทรูดูหน้าเพื่อนดิฉันคะ อร่อยไหม ให้ทาย #ไม่พูดเยอะเจ็บคอและของเก่ามาก คือจะซื้อไรกิน ดู วดป.ที่ผลิต ดีๆนะ เพราะว่าของเก่ามากจริงๆ มีของจากจีนด้วย อยากซื้อกลับไทยมาก แต่เอาขึ้นเครื่องไม่ได้ ง่า
เราขึ้นรถจากมัณฑะเลย์ 20.30 ถึงพูกาม 02.00 และเช็คอินที่โรงแรม La casa คืนละ 800กว่าบาท พร้อมอาหารเช้า
เช้านี้เราตื่น 07.00 ไปกินอาหารเช้า และแจ้งทาโรงแรมเรื่องเช่ารถ ไปเที่ยวตามจุดต่างๆ เขาก็แนะนำเยอะมากว่ามีที่เที่ยวนั่นนี่โน่น ลุงให้เราให้ราคาเหมา 40000 จั๊ด ลุงไกด์คือลุงอ้อ ที่แรกที่ลุงพาไปคือที่นี่ ชื่อวัด..............อันนี้ลืมจด55+
เรามาจ่ายเงินค่าที่เที่ยวของพูกาม 25000จั๊ด บัตรนี้ใช้ได้3วัน เราไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกคือต้องใช้ทั้งหมด
ด้านหลังวัดมีลุงเลี้ยงม้า น่าตาใจดีมาก เราไปขอถ่ายรูปกับม้าของเขา ม้าเขาชื่อลัคกี้ ไปไกล้ก็กลัวม้าดีด กล้าๆ กลัวๆ ถ่ายรูปวนไป
เที่ยวปุ้บ หิวมากให้ลุงพาไปร้านอาหาร ร้านนี้ชื่อ Gold Restaurant บุฟเพ่ต์ 5000จั้ต/คน 100บาทอะนะ อาหารถือว่า อร่อยใช้ได้ แต่ไม่ได้คือ อาหารวน 555 คืออาหารของเขาจะมีช้อนกลาง แล้วตักทานคือโต้ะนี้ลุกไป เก็บไปเติมใหม่ที่ครัวแล้วเอามาเสริฟ เห็นทีแรกแบบ OMG!!! มันไม่เอาไม่กินเวลานี้ไม่ทันละป่ะ กินไปค่ะ กินไป ปลอบใจตัวเอง ว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไร เพลงกะลาเข้ามาเฉย
พอทานเสร็จก็รูปสึกว่าร้านไม่ไหวแล้วกับอากาศแดดจัด ให้ลุงไปส่งนอน นัดเจอกันอีกที 16.00
ลุงมารับก็ไปต่อที่ อนันดา และวัดอ่านป้ายเอาเนอะ เดะเราเรียกไม่ถูกเหมือนตัดต่อโดยโฟโต้ชอปป่ะ??? โครตเหมือน >...<
เราอยากได้รองเท้าเพราะวัดที่นี้ต้องคอยถอดรองเท้า เราเลยซื้อรองเท้าร้านป้ากับเพื่อนคนละคู่ ป้าน่า
รักลดแล้วลดอีก เลยขอถ่ายรูปไว้ด้วย ขอให้ป้าทำมินิฮาร์ทสิ่งที่ได้คือจีบหงายไงละเท่ห์อะดิ สุดท้ายของวันนี้คือดูพระอาทิตย์ตก ลุงก็ไปส่งเช่นเคย
สุดท้ายเราอยากไปทานอาหารร้านที่คนไทยรีวิว มันจะเป็นบาร์ด้วย ลุงบอกว่าไม่ไปฉันส่งเธอดูพระอาทิตย์เสร็จก็หมดหน้าที่ของฉันแล้ว *เราก็แบบ จุกๆ ทำไมลุงพูดแบบนี้วะ อารมณ์เซ็งเป็ด แล้วลุงอะพาไปร้านที่ลุงรู้จัก ชื่อร้านBlack Rose ไกล้ๆที่พักเรา อาหารไม่ได้อร่อยไรมากเลย เฉยๆ ขอหลอดได้แก้ว ขอน้ำแข็ง ก็ยังดีได้น้ำแข็งอยู่เอาเบียร์พม่ามาลอง
พอเช้า 05.00 ลุงคนเดิมก็มารับเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เหมา 25000จั๊ด
แล้วก็ไปพระธาตุสีทอง เราบอกลุงว่า ลุงเราอยากไปตลาดด้วยเผื่อซื้อของกลับบ้าน เขาบอกว่า ฉันพาเธอมาดูพระอาทิตย์ขึ้น มาวัด ส่งเธอที่โรงแรรมก็หมดหน้าที่ของฉันแล้ว เราก็แบบ คำนี้อีกละ เราบอกน่าลุงพาไปหน่อยยังขออีกนะ ลุงบอกไม่ไป สักพักเลือดขึ้นหน้า กระโดดลงรถแล้วเรียกเพื่อนที่นั่งมาด้วยแบบ เออ ไม่ไปก็เรื่องของ- แม่งให้พาไปไหนก็ไม่ไป ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เรื่องเยอะ ด่ากราดไปเลย สักพักลุงคงตกใจ พูดไทยจ้าเรียกว่า “น้อง...ไม่เป็นไร ” คือตอนนั้นไม่ฟังละเดินออกมาเลย คือเรารูสึกว่าเราดีกับลุงมากแล้วลุง โน่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ ทำไมวะ ค่ารถก็จ่าย ไปกินข้าวทุกร้านก็จ่ายให้ลุงทุกมื้อ กาแฟ น้ำ ซื้อให้กินหมด เงินค่าเช่ารถก็จ่ายเต็ม เพื่อนแบบ บอกใจเย็นๆๆๆๆ เราแบบเย็นไม่ไหวอะบางที คือเจอลุงมินเขาน่ารักมาก มาเจอลุงอ้อนี่บ้าบออะไร
ข้าวเช้า เรามากินที่ร้านอาหารพม่าข้างทาง นี่อาจจะเป็นไฮไลท์ของเพื่อเรา คือไม่ว่าเราจะพูดอะไร เขาเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เด็กเสริฟจะตอบ เยส!!! อย่างเดียว ก็ตลกดี สั่งชานม ได้นมร้อน เก๋ๆ
หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่ห้องเก็บของเพื่อที่จะเดินทางจากพูกาม มามัณทะเลย์ตอน 10.00-14.00 ใช้เวลา 4 ชม.กว่าๆ พอถึงเวลาเขาจะให้รถเล็กมารับเรา แล้วไปจอดรวมกันที่จุดขึ้นรถ จะบอกว่าอิรถเล็กเนี้ย ทำเพื่อนเราเกือบตกรถ คือสตราทแล้วออกเลยไม่ทันตั้งตัว
ระหว่างนั่งรถกลับมัณฑะเลย์ ก็เจอสาวน้อยทาแป้งทานาคา แอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
จุดพักรถเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ อิ่มละ 2000จั๊ด คือ40บาทเอง อาหารก็แบบพอกินได้ ไม่แยj
พอมาถึงที่พัก เราจองHotel Venus ไว้ 3เตียง คืนละ 400กว่าบาท คือดีย์ เรากับเพื่อนๆ จะเป็นคนที่ไม่อะไรมากกับที่พัก ชอบถูก เพราะเราเที่ยว แทบไม่ได้นอน
พอเก็บของเสร็จก็เรียก รถ ตุ๊กๆ ไปสะพานไม้อูเบ็ง ค่ารถไป 150000จั๊ด เอาจริงก็ไกลน่ะ แต่ค่ารถถูก คนขับหน้าเหมือนบี้เดอะสกาอะ ตลกดีคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก แต่ไปกันได้
พอถึงแล้วก็ชิมไอติมมะพร้าวสักหน่อบ ถ้วยนี้ 1000จั๊ด 20บาท เราอยากนั่งเรือ ค่านังเรือคนละ5000จั้ด 100 บาทเอง เราก็แบบตอนแรกไม่อยากจ่าย แต่ก็ ไหนๆมาแล้ว ไปเหอะ ไปปุ้บ อารมณ์ กวินมาเลยอะ เกาะสวาทหาดสวรรค์ สวัสดีครับท่านผู้ชมขอต้อบรับสู่ไอซ์แลนด์ คือแสงอะ ได้มาก สถานที่คือ คตคูล สวยมากเอารูปมาฝาก (ประเด็นคือคนพายเรือ เขาน่ารักมากพาพายไปวนไปวนมา ลองพานเรือก็ได้ เราไม่ชอบแสงตรงไหนๆ หันหัวเรือวนไป จัดท่าให้ด้วย)น้องเราแต่งตัวแบบคนบ้านเขาเลย เก๋ๆ ชิคๆ
พอล่องเรือเสร็จก็เดินขึ้นสะพานไปเดินจนสุดสะพาน ไปหาของกิน ก็ได้ส้มตำพม่าราคา500จั๊ด 10บาท กับพิซซ่าพม่าราคา300จั๊ด 5บาท คือดีย์ถูกไปไหน
ขากลับก็นั่งรถตุ๊กกลับปกติ แต่ให้เขาไปส่งที่ถนนคนเดิน ไปนั่งกินหมูพม่าเสียบไม้ เจอน้องน่ารักเขาขอเราถ่ายรูป เราเลยขอเขาถ่ายเก็บไว้ด้วย หมูร้านนี้ดูสะอาด อร่อยพอได้
เสร็จแล้วมาหาข้าวกินแถวที่พัก แล้วก็นอนพักผ่อน
เช้า 04.00 ให้พี่บี้เดอะสกามารับ ไปล้างหน้าพระมหามัยมุนี ดูพิธีต่างๆ ของเขาคือมีการล้างหน้า แปรงฟันให้พระ เพราะเขามีความเชื่อว่าพระมีชีวิตศักดิ์สิทธิมาก
เราเดินไปหาอาหารเช้าทานเอง ไกล้ๆที่พัก เรากินหมี่กะทิอะ อารมนึกว่าจะได้กินข้าวซอยแต่มันไม่ใช่อะ ไม่ใช่ๆๆๆๆๆ
คือคนที่นี้เขาร้อนแค่ไหนก็ไม่กินน้ำแข็งกันน่ะ เพราะอะไรไม่รู้ 555+
พอเก็บของเสร็จเราไปสนามบินเลย เรียก Grab Car 14900จั๊ด ถึงเลย
แล้วก็กลับไทยโดยสวัสดิภาพ สุดท้ายแล้วคือการเที่ยวที่สุดขั้วของพวกเรามาก คอนเซปคือไม่เน้นวัดวัง แต่แม่งเข้าทุกวัด ทุกวัง “เที่ยวไป บ่นไป” แต่ก็สนุกดี มีเพื่อนร่วมทางดีก็งี้
พวกเราแลกเงินไปคนละ 5000*3= 15000บาท เหลือกลับไทย2000บาท ก็ไม่แพงนะเราว่าเราก็กินเที่ยวกันคุ้มอะ ไม่เคยอด ลองทุกอย่าง กินได้กิน กินไม่ได้ก็ทิ้ง 555+