Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รักร่วมเพศกับจริยธรรมคริสเตียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ปัจจุบันเรื่อง “รักร่วมเพศ” เป็นเรื่องหนึงที่มีผู้สนใจกันมาก เป็นเรื่องที่ถือกันว่าผิดปกติในสังคม ถ้าท่านผู้บังเอิญเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาในเรื่องการรักร่วมเพศ ผู้เขียนขอชี้แจงให้ท่านเข้าใจว่า ไม่ท่านจะตกอยู่ในสภาพนี้มากเท่าไร ความเป็นคนของท่านไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ เลย ท่านเป็นแต่คนป่วยที่ต้องการแพทย์รักษา พระเจ้ารักษาท่านเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงรักษาคนอื่น ๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวผมจึงนำท่านมาถึงความเข้าใจ เรื่อง รักร่วมเพศ

รักร่วมเพศ คืออะไร

” รักร่วมเพศ ” หมายถึงพฤติกรรมด้านความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เป็นเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิง ซึ่งเราเรียกว่า “เลสเบี้ยน” หรือชายต่อชาย ซึ่งเราเรียกว่า “โฮโมเซ็กช่วล” ความจริงคำว่า” โฮโมเซ็กซ่วล” มิได้หมายถึง พฤติกรรมทางเพศระหว่างชายต่อชายเท่านั้น แต่รวมทั้งพฤติกรรมทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิงด้วย ส่วนคำว่า “เลสเบี้ยน ” หมายถึง ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิงเท่านั้น ซึ่งคำนี้มาจากชื่อเกาะโบราณเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศกรีซ ชื่อ “เลสบอส ” สาเหตุสืบเนื่องมาจากหญิงคนหนึ่งบนเกาะนี้ได้เปิดโรงเรียนสตรีขึ้น ต่อมาไม่นานหญิงผู้นี้ก็ได้หลงรักนักเรีนรหญิงบางคน เธอจึงได้เขียนบทประพันธ์ที่เป็นร้อยกรองบรรยาย ถึงพฤติกรรมความสัมพันธ์ทางเพศ ระหว่างเธอกับนักเรียนของเธอบทหนึ่ง และบทกลอนนี้เองทำให้เกิดเสียงลือกันในเวลาต่อมาว่า หญิงทุกคนบนเกาะนี้มีพฤติกรรมทางเพศต่อกัน ดังนั้นคำว่า “เลสเบี้ยน” ซึ่งหมายถึงหญิงชาวเกาะเลสเบี้ยนก็นำมาใช้เรียกหญิงที่มีพฤติกรรมทางรักร่วมเพศตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ในเวลาต่อมาพวกรักร่วมเพศนี้ จะเรียกตนเองว่า “เกย์ ” ซึ่งแปลว่าสนุสนานร่าเริง สดชื่นแจ่มใส เหตุที่เขาเรียกตนเองเองเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการคัดค้านผลสรุปของบรรดาผูเชี่ยวฃาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าผู้ที่มีความรู้สึก หรืออารมณ์รักร่วมเพศนี้เป็นคนผิดปกติ

สาเหตุของรักร่วมเพศ

ความจริงเกี่ยวกับสาเหตุในเรื่องรักร่วมเพศนี้ เป็นที่รู้กันแล้วว่าไม่ได้เกิดจากกรรมพันธ์ แต่เกิดจากเรียนรู้จากสิ่งวดล้อมภายนอกทั้งสิ้น ที่นี้เราจะหยิบยกสาเหตุที่สำคัญ ๆ บางประการขึ้นมาชี้แจง เพื่อประยชน์ในการแก้ไข และป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดของเรา

ประการแรกเกี่ยวกับ ความผิดปกติของครอบครัว คือ ในครอบครัวที่พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่ ทำให้การฝึกฝนเด็กไปในทางใดทางหนึ่งเท่านั้น ทำให้เด็กขาดแบบอย่างที่สมบรูณ์จากพ่อ-แม่ ในการสร้างลักษณะชีวิตที่เป็นหญิงหรือชายได้ กรณีนี้รวมทั้งพ่อแม่ที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้เอาใจใส่ในการอบรมสั่งสอนเด็กเท่าที่ควรด้วย

ประการที่สอง เกิดจากพ่อ-แม่ในครอบครัวที่อยากได้เด็ก เพศใดเพศหนึ่ง แต่ไม่สมหวังก็จึงพยายามที่จะอบรมลูกในแนวทางตามเพศที่ตนต้องการ เช่นแต่งตัวลูกชายให้เป็นแบบเด็กหญิง หรือหัดให้ทำการงานต่าง ๆ แบบเด็กหญิง เป็นต้น การกระทำเช่นนี้ทำให้เด็กเกิดความสับสนในการวางตัว เนื่องจากไม่มั่นใจว่าเพศที่ตนเป็นอยู่นั้นดีจริงหรือไม่เพราะเห็นว่าพ่อแม่ที่ตนรักก็ยังปฎิเสธเพศของตนเอง

ประการที่สาม เกิดจากเด็กที่มีประสบการณ์ทางเพศที่ไม่ถูกต้อง เช่นประสบการณ์ในทางไม่ดีกับเพศตรงข้าม ทำให้เกิดความเกลียดชังเพศตรงข้าม หรือได้รับคำแนะนำและชักชวนให้มีพฤติกรรมทางเพศที่ผิด เช่นการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง หรือมีเพศสัมผัสกับเพศเดียวกัน

จากสาเหตุที่สำคัญดังกล่าวนี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้คน ๆ นั้นไปยืนอยู่ในตำแหน่งของพวกรักรวมเพศ และถ้าหากว่าเขาเกิดไปมีประสบการณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และเกิดความสุขความพอใจกับประสบการณ์ครั้งนั้น ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ทำอีก และเมื่อได้รับความสุขมากขึ้น เขาก็จะมุ่งความสนใจสู่เพศเดียวกันเท่านั้น ในระยะนี้เขาควรได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะไม่เป็นคนรักร่วมเพศโดยสมบูรณ์

รักร่วมเพศผิดปกติหรือไม่

ลักษณะจิตใจโดยทั่วไปของผู้รักร่วมเพศ

คนรักร่วมเพศบางคนจะไม่มีความแน่นอนทางด้านจิตใจ ไม่สามารถที่จะตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดขาดได้ เนื่องจากพวกเขาไม่มั่นใจว่าพื้นฐานที่ใช้ในการตัดสินใจนั้นถูกต้องอย่างแน่นอนหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีความหวาดระแวงอยู่เสมอ มักจะสนใจว่าคนอื่นเขามองตนเองว่าปกติหรือไม่ และมีส่วนไหนที่เป็นสาเหตุให้เขาเห็นว่าตนเองเป็นคนผิดปกติ ดังนั้นคนพวกนี้จึงไม่มีความไว้ใจคนอื่นเลย และไม่มีความเชื่อมั่นในตนเองเท่าที่ควร ความรุ้สึกอีกอย่างหนึ่ง คือ ความiรู้สึกไม่มั่นคงในเสถียรภาพของตนเองทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ส่วนใหญ่จะมีความใฝ่ฝันอนาคตของตนเองอย่างผิด ๆ เช่นชายที่มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงก็จะจิตนาการไปว่าตนเองเป็นผู้หญิง และสามารถที่จะแต่งงานมีครอบครัว และมีลูกเหมือนหญิงทั่ว ๆ ไปได้ คนบางคนที่มีฐานะก็จะพยายามแต่งเสริมอวันยะบงส่วนให้ใกล้เคียงเพศหญิงมากที่สุด เช่นผ่าตัดอวัยวะเพศ และการเสริมหน้าอกเป็นต้น

คนรักร่วมเพศบางคนมีลักษณะจิตใจที่อ่อนไหวและรุนแรง มักจะระงับอารมณ์ไว้ไม่ค่อยได้ดีเท่าที่ควร เกี่ยวกับด้านการพัฒนาการทางจิตใจก็เป็นไปอย่างช้า ๆ จนผิดปกติ ซึ่งทำให้ลักษณะจิตใจต่างจากวัยที่เป็นอยู่มาก

รักร่วมเพศผิดปกติหรือไม่

การรักร่วมเพศถือว่าเป็นความผิดปกติทั้งด้านอารมณ์ และด้านจิตใจ ประเทศบางประเทสถึงกับออกกฎหมายประหารชีวิตผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ส่วนด้านศีลธรรมถือว่าเป็นความบาปร้ายแรง บรรดาจิตแพทย์ก็หาได้นิ่งนอนไม่ เขาได้พยายามหาช่องทางที่จะแก้ไข หรือรักษาคนที่มีปัญหาเหล่านี้ แต่ก็ยังไม่พบวิธีการหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดช่วยคนประเภทนี้ได้อย่างแท้จริง ในที่สุดบรรดาจิตแพทย์เชียวชาญทางด้านนี้ก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่า คนที่เป็นเกย์ หรือเลสเบี้ยนนั้นเป็นคนปกติทั่วไป ถึงกระนั้นก็ตามทางด้านศีลธรรมก็ยังถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ผิดปกติไม่สมควรกระทำ

ความจริงจากพระคัมภีร์เรื่องรักร่วมเพศ 

ในพระธรรม มท.19:4-8 มีข้อความที่พระเยซูทรงกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเพศตามปกติของชาติ และหญิงไว้ดังนี้ ” พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์แต่เดิม ได้ทรงสร้างให้เป็นชาย และหญิง ..เพราะเหตุนั้นบุรุษจึงต้องละบิดามมารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน เหตุฉะนั้นซึ่งพระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย ” จากพระธรรมนี้จะเห็นว่าความสัมพนธ์ทางเพศที่ปกติ นั้น จะต้องเกิดขึ้นระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ดังนั้นพระองค์จึงสร้างมนุษย์ให้ทีมีสองเพศ ในพระคัมภีร์การรักร่วมเพศจึงถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ต้องพินาศ ก็เพราะความบาปในเรื่องรักร่วมเพศนี้ (ปฐก.19) นอกจากนี้ในพระบัญญัติของโมเสสยังกำหนดโทษของผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนี้ถึงตาย (ลนต. 20:12,รม. 1: 26,27 ,28 )และใน 1 โครินธ์ 6: 9 กล่าวไว้ว่า ” ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมไม่มีส่วนในแผ่นดินของพะรเจ้า อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวผิดเมีย ลูกสวาทหรือชายเล่นลูกสวาท”

คำตอบสำหรับเรื่องนี้

คำตอบสำหรับปัญหาในเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองด้าน คือด้านป้องกัน และด้านรักษา

ด้านป้องกัน ด้านนี้เป็นด้านที่ดีกว่าด้านการรักษา เมื่อเราได้พบความจริงว่าอาการรักร่วมเพศนี้มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็เป็นการง่ายที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา โดยให้ความสนใจในการอบรมสั่งสอนเด็กอย่างถูกต้อง ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองเด็กจึงควรจะสร้างสิ่งแวดล้อมในครอบครัวให้ดี ให้เด็กมีโอกาสคบกับคนเพศเดียวกันโดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่เป็นเพศเดียวกัน และสอนให้เด็กเชื่อฟังพระเจ้า และทำตนให้เป็นที่พอพระทัยพระองค์

อีกด้านหนึ่งก็คือ รักษา เราต้องเข้าใจว่าผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้จะมีทางรักษาให้หายขาดได้ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยากก็ตามแต่ไม่มีเรื่องใดที่เกินความสามารถของพระเจ้าได้ ดังขั้นตอนต่อไปนี้

1. ควรมีความปราถนาที่จะเลิกจากพฤติกรรมรักร่วมเพศอย่างแท้จริง
2. ความเชื่อว่าพระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชาย และหญิง และผู้ทรงรักเรา พร้อมที่จะช่วยเรา
3. ควรพยายามดำเนินชีวิตภายใต้การควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ร่วมกับพระวจนะของพระเจ้า
4. ควรเรียนรู้จักที่จะควบคุมความคิดของตนเอง โดยอาศัยกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
5. ควรหลีกเลี่ยงจากทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรักร่วมเพศอย่างสิ้เชิงโดยไม่มีข้อยกเว้น
6. ควรร่วมสามัคคีธรรม และกระทำกิจกรรมของคริสตจักรกับพี่น้องคริสเตียนอื่น ๆ
7. ควรขอบคุณพระเจ้าในเพศที่พระองค์ประทานให้ และเรียนรู้ที่จะรัก และใช้มันอย่างถูกต้อง
8. ควรรู้จักที่จะอธิษฐาน และคิดถึงชีวิตครอบครัวที่ถูกต้องในอนาคต โดยฝากความหวังดังกล่าวไว้ในการทรงนำของพระเจ้า
9. ควรเรียนรู้จักอุทิศร่างกายของตนให้แก่องค์พระผู้เป็นเจ้าและอธิษฐานขอให้พระองค์ทรงช่วยท่านในการช่วยเหลือคนอื่นให้หลุดพ้นจากการตกเป็นทาสของความบาปดังกล่าว

เราแน่ใจว่าพระเจ้าจะทรงช่วยผู้ที่รักพระองค์ให้มีชีวิตที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์

บทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี

Facebook https://www.facebook.com/prayoon.limahutaseranee


Cr. http://jaisamarnchurch.org/media/articles/homosexuality/

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

เกย์อักษรฯเอกปรัชญา 16 ธ.ค. 61 เวลา 09:01 น. 2

เห็นด้วยกับคุณ Shalnark T Diabolus ฮะ

และถึงคุณ connor1 ผู้ตั้งกระทู้...


สิ่งที่คุณนำมาเสนอไม่ได้แสดงอะไรดีงามเลย นอกเสียจากความเกลียดชังที่มีต่อคนรักร่วมเพศ การบิดเบือนและความโง่เขลาในพระคัมภีร์


จากเนื้อความท่อนนี้

"ในพระธรรม มท.19:4-8 มีข้อความที่พระเยซูทรงกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเพศตามปกติของชาติ และหญิงไว้ดังนี้ ” พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์แต่เดิม ได้ทรงสร้างให้เป็นชาย และหญิง ..เพราะเหตุนั้นบุรุษจึงต้องละบิดามมารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน เหตุฉะนั้นซึ่งพระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย ” จากพระธรรมนี้จะเห็นว่าความสัมพนธ์ทางเพศที่ปกติ นั้น จะต้องเกิดขึ้นระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ดังนั้นพระองค์จึงสร้างมนุษย์ให้ทีมีสองเพศ ในพระคัมภีร์การรักร่วมเพศจึงถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ"


ตอบ เพียงแค่การที่พระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าสร้างชายและหญิงและกล่าวถึงความรักต่างเพศ

ไม่ได้หมายความว่า พวกรักร่วมเพศผิดปกติ และก็ไม่ได้หมายความว่าเพศอื่นๆผิดปกติแต่ประการใด


"เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ต้องพินาศ ก็เพราะความบาปในเรื่องรักร่วมเพศนี้ (ปฐก.19) นอกจากนี้ในพระบัญญัติของโมเสสยังกำหนดโทษของผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนี้ถึงตาย (ลนต. 20:12,รม. 1: 26,27 ,28 )และใน 1 โครินธ์ 6: 9 กล่าวไว้ว่า ” ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมไม่มีส่วนในแผ่นดินของพะรเจ้า อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวผิดเมีย ลูกสวาทหรือชายเล่นลูกสวาท”"


ตอบ ตรงนี้แหละคนเขียนบทความผิดอย่างจัง คนเขียนไม่ได้ศึกษาบริบทพระคัมภีร์ดีพอ ไม่รู้เรื่องราวของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ เรื่องราวซึ่งอ้างอิงจากซิสเตอร์คริสติน เซย์เลอร์(Kristin Saylor)จากรายการ TEDx

TALKS: What the Bible says about homosexuality Kristin Saylor & Jim O'Hanlon http://www.youtube.com/watch?v=XGNZQ64xiqo&t=6m33s


มีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งมีเมืองชื่อโสโดมและมีนักเดินทางชายสองคนมองหาที่พักในเขตเมืองนี้ พวกเขาโชคไม่ดีเลยและเกือบจะยอมแพ้แล้วไปนอนที่ลานกว้างของเมือง แต่มีชายชื่อลอทนึกสงสารจึงยอมให้ที่พัก ไม่ทันห้านาทีผ่านไป กลุ่มม็อบชาวเมืองมาเคาะประตู บอกให้ลอทนำชายทั้งสองออกมาเพื่อที่จะได้"รู้จัก"พวกเขา "รู้จัก"ในบริบทนี้มิใช่ด้วยไมตรีจิตที่ดี แต่มันหมายถึงการข่มขืนกระทำชำเรา ลอทจึงขอร้องไม่ให้กลุ่มม็อบกระทำการเหี้ยมโหดเยี่ยงนั้นเลยและถึงขนาดเสนอสองลูกสาวบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เรื่องนี้ทำให้พระเจ้าพิโรธและทำลายเมืองจนพินาศเสียเพราะบาปชาวเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มม็อบรุมข่มขืนนี่แหละ ไม่ทราบว่าเรื่องราวนี้มันเกี่ยวอะไรกับโฮโมเซ็กชวลล่ะ ในเมื่อเนื้อเรื่องคือม็อบชาวเมืองจะมารุมข่มขืนคนสองคน


ส่วนที่บทความหยิบยก ลนต. 20:12,รม. 1: 26,27 ,28 และ 1 โครินธ์ 6: 9 เหล่านั้นมา ก็ไม่ได้สื่อความถึงโฮโมเซ็กช่วลตามนิยามปัจจุบันซึ่งมีองค์ประกอบคือ 1)ความยินยอม 2)ความดึงดูดทางเพศ 3) ระหว่างคนสองคน และ 4) เพศเดียวกัน เมื่อตรวจสอบช่วงเวลาของคำว่าโฮโมเซ็กช่วลตามนิยามปัจจุบันและอายุของ

ไบเบิ้ลตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นด้วยภาษากรีกพบว่า คำว่าโฮโมเซ็กช่วลที่มีความหมายว่าเกย์ในปัจจุบันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นที่ศตวรรษที่ 19 อ้างอิงจากบรรทัดแรกของสารานุกรมมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หนึ่งในสิบอันดับแรกแห่งมหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลก https://plato.stanford.edu/entries/homosexuality/

และในพระคัมภีร์ภาษากรีกต้นตำรับใช้คำว่า ARSENOKOITES ซึ่งเป็นคำประสมเกิดจาก ARSEN แปลว่าผู้ชายและ KOITES เป็นพหูพจน์แปลว่าเตียงนอนหลายๆเตียง โดยอรรถนัยรมณ์แล้วคำกรีกนี้หมายถึงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆครั้ง ไม่ได้หมายถึงเกย์ คนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแปลผิดเป็น homosexual สาเหตุอาจจะเพราะเขามีอคติหรือเพราะโง่ ก็ไม่มีใครทราบได้ แต่ที่แน่ๆเขาแปลผิด!!(ถึงขนาดต้องรู้ภาษากรีก รู้ประวัติศาสตร์เลยนะเนี่ยตรู ถึงจะสามารถคัดง้างมาได้ขนาดนี้ นี่แหละเห็นไหมว่าทำไมคนเราต้องเรียนอักษรศาสตร์)


"ความจริงเกี่ยวกับสาเหตุในเรื่องรักร่วมเพศนี้ เป็นที่รู้กันแล้วว่าไม่ได้เกิดจากกรรมพันธ์"

ตอบ ผิดถนัดเลย คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ากรรมพันธุ์มีส่วนหรือไม่ มีนักชีววิทยาชาวฝรั่งเศสชื่อ Jacques Balthazart ได้นำเสนอวิจัยในหัวข้อ

Biologie de l'Homosexualité; Conférence l'Encephale, Paris https://www.youtube.com/watch?v=c9hA5ZhoSOI ซึ่งมีใจความว่าโฮโมเซ็กช่วลเกิดจากระยะในครรภ์มารดาที่ตัวอ่อนซึ่งอยู่ในระยะจุดยอดฮอร์โมนพัฒนาขนาดบางชิ้นส่วนของสมองที่มีขนาดเล็ก เขาทดลองฉีดฮอร์โมนให้ตัวอ่อนหนูเพศผู้ในห้องแล็บแล้วพบว่าเขาสามารถควบคุมรสนิยมทางเพศของหนูตัวผู้ได้!!

อธิบายให้ง่ายโดยคุณMaxBird เป็นภาษาฝรั่งเศส http://www.youtube.com/watch?v=Ad5Lxf_kKRU&t=4m5s


และที่บทความกล่าวว่าคนรักร่วมเพศขาดความมั่นใจ ก็เพราะมีคนอย่างคนเขียนบทความนี้ในสังคมไง พวกเราชาวรักร่วมเพศถึงได้กลัวหวาดระแวงเพราะพวกคุณเป็นภยันตรายไง


คำตอบสำหรับปัญหาในเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองด้าน คือด้านป้องกัน

ป้องกันบทความและอคติต่อโฮโมเซ็กช่วลไม่ให้แพร่กระจายไป

และด้านรักษา คือให้ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของเพศมนุษย์ ขนาดสรรพสัตว์ยังมีโฮโมเซ็กช่วลและไม่ได้ผัวเดียวเมียเดียว รักษาพวกโฮโมโฟเบียให้หายจากอาการกลัว

0