จัดฟันเพราะมันน่าดัด

ตั้งกระทู้ใหม่

เรื่องฟันๆ ที่เกี่ยวกับการจัดฟัน ก่อนตัดสินใจดัดฟันควรเล็งให้ดีก่อนว่าฟันแย่ขนาดไหนที่ทำให้เรายิ้มแล้วไม่ฟัน ฟันไม่สบกัน ฟันซ้อนเก ยากกับการทำความสะอาดช่องปาก ปัญหาที่ตามมาคือฟันผุ และสูญเสียฟันในเวลาอันควร

เมื่อตัดสินใจจัดฟัน เรายิ้มโชว์เหล็กดัดฟันเมื่อโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก และเราต้องพร้อมยิ้มสู้กับปัญหาเหล็กดัดฟันในช่องปาก(ที่รู้ๆ กัน) ดึงลวด ปวดเหงือก เหล็กหลุด จ่าย 300 และอื่นๆ แต่ทันตแพทย์ใจดีครับ เหล็กหลุดครั้งแรกฟรี แต่ถ้าจะให้ดีอย่าหลุดบ่อย

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน(แบบผ่อนจ่าย)

เราสามารถเซฟค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ด้วยการเลือกคลินิก(สอบถามราคาที่เคาเตอร์)เลือกคลินิกจนกว่าเราจะโอเคกับราคา เซฟกว่าเมื่อเราเคลียร์ช่องปากกับโรงพยาบาลรัฐ สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง(อันนี้ค่อนข้างรวยครับ)

จัดฟันด้านนอกแบบโลหะ(Metal Braces)เป็นที่นิยมที่สุด และที่ผมเลือกการจัดฟันแบบลวดเหล็ก เพราะราคาถูกกว่า เหมาะกับคนที่ฟันมีปัญหามาก

เคลียร์ช่องปาก : ผมขูดหินปูน และถอนฟัน 6 ซี่(เลข 6 มีอิทธิพลต่อชีวิต)ฟันทั้งหมดที่ถูกถอน ทุกซี่เป็นฟันปกติ ไม่ใช่ฟันผุ 2 ใน 6 ซี่ คือเขี้ยวของฟันล่างที่ถอนยากมาก และเจ็บสุด(ไปถอนทุกวัน ทั้งๆ ที่หมอฟันห้าม แต่ไม่ฟัง คือมีความอยากจัดฟันมาก) เริ่มจัดฟันปลายปี 2016 จนถึงปัจจุบัน

เมื่อติดเครื่องมือจัดฟันจนครบระยะเวลาที่สามารถถอดเครื่องมือ เพื่อไม่ให้ต้องกลับไปจัดฟันใหม่อีกรอบ เราต้องใส่รีเทนเนอร์ นั่นก็คือเครื่องมือคงสภาพฟัน และยังคงต้องไปพบทันตแพทย์

สภาพฟันก่อนจัดฟัน
สภาพหลังจัดฟันใหม่ๆ ซึ่งฟันหน้ายังเบี้ยว(โดนน้องสาวแซวว่า พี่ๆ นั่นเหล็กดัดฟันหรือผักติดฟัน)
ฟันซี่เล็ก(ฟันน้องสาว)เสี่ยงกับการกรอฟันเมื่อจัดฟัน แต่ถ้าอยากจัดฟันจริงๆ ก็ไม่เกินความสามารถของทันตแพทย์ (น้องสาวพอใจกับสภาพฟันของตัวเอง และจะไม่จัดฟัน)
สภาพฟันที่เริ่มดีขึ้น หลังจากปลายปี 2016 ที่เริ่มจัดฟัน ภาพนี้เดาว่าปี 2017
(ภาพมุมข้าง-ยิ้มสยามควบยิ้มสยอง)ตอนนี้ผมจัดฟันมาประมาณจะ 3 ปีละครับ และยังคงต่อไปอีกเรื่อยๆ (ถ้าอยากถอดเหล็กดัดฟันเร็วๆ ห้ามเบี้ยวนัดหมอฟัน)
ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังจัดฟันที่เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
จากที่ตอนแรกเคยฟันๆ กับการเลือกสียางไม่ถูกเลยเพราะมันโดนทุกสี แต่ตอนนี้คือไม่ต้องเลือกละเพราะยังไงก็โดนใช้ครบทุกสี//ขอให้ชิลกับการจัดฟันครับ