Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อคุณร้องไห้ไม่อยากกลับไทย ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น #แชร์ประสบการณ์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
#เหตุการณ์ต่อไปนี้สาบานว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการไม่มีเฟค  
สืบเนื่องจากวันที่ 10 ก.พ. เราเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น (ถือว่าโชคดีที่กลับมาเร็ว ไม่งั้นคงโดนกักตัว) แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น  ที่อยากเล่าคือนั่งร้องไห้บนเครื่องค่ะ  แบบยังไม่อยากกลับนะ แต่ตอนขึ้นไปนั่งบนเครื่องยังไม่ได้รู้สึกอะไร พอเครื่องบินเริ่มออกตัวแล้วหันไปยกมือบ๊ายบายเมืองโตเกียวเท่านั้นแหละ น้ำตาไหลออกมาทันที  มันรู้สึกแบบอาลัยอ่ะ กลัวไม่ได้กลับมาอีก ยังมีอะไรอีกตั้งเยอะที่ไม่ได้ทำ แล้วก็มีคำพูดมากมายผุดขึ้นมาในใจเหมือนคนบ้า พูดเองเออเองคนเดียวง่ะ เหมือนจากญี่ปุ่นคือจากคนที่รักมากๆ
//ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงซีรีย์ที่พระนางสัญญาว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง  ปกติไม่อินแต่ฟีลตอนนั้นใช่มากค่ะ
ก็นั่งน้ำตาไหลแหมะๆ เช็ดแล้วเช็ดอีกก็ไม่หยุด ยิ่งหันไปมองนอกหน้าต่างยังเห็นพื้นดินยิ่งร้องหนัก พอเครื่องขึ้นไปได้สักพักเลยรีบดึงหน้าต่างเครื่องบินลงมาปิด จากนั้นก็ร้องไห้ต่อแปบนึงก็หยุด สรุปล่อไปครึ่งชั่วโมง  
  แล้วไม่ใช่ครั้งแรกอ่ะที่เรามานั่งร้องไห้แบบนี้ (ดีนะคนที่นั่งข้างๆ คือลูกพี่ลูกน้องตัวเล็กๆ ไม่งั้นอายคนเเย่
+4-5 ปีก่อนที่ไปเหยียบโตเกียวครั้งแรก ตอนขึ้นเครื่องกลับไทยก็น้ำตาซึม กลับมาก็เป็นอาการแบบโฮมซิคเกือบ 2 อาทิตย์  ขอให้ได้ไปอีก
+เมื่อ 2 ปีก่อนก็มีโอกาสได้ไปคาวากูจิโกะค่ะ  ขากลับไทยก็ร้องไห้หนักกว่ารอบแรกอีก
แต่รอบสามนี่ร้องไห้หนักสุดตามที่เล่าเลย อยากรู้ว่ามีใครเคยมีอาการทำนองนี้เหมือนกันมั้ย

#ถ้าว่างจะมาร่ายเป็นไดอารี่ค่ะว่ารอบที่แล้วไปทำอะไรมาบ้าง
#ถามว่าทำไมเพิ่งมาเล่าเพิ่งว่างละเพิ่งเห็นข่าวโคโรน่าก็เลยรู้สึกแบบ.. คงอีกนานกว่าจะได้กลับไป ;-;

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 16:51 น. 1-1

รอบแรก=สัญญาว่าจะกลับมาอีก

รอบสอง=สัญญาว่าจะกลับมาอีกรอด้วย

รอบสามก็เหมือนกันงับ

แต่คิดว่าไม่น่าใช่เรื่องชาติที่แล้ว เพราะไม่มีความทรงจำอัลไรเลย~ ภาษาบ้านเขาก็พูดได้ไม่กี่คำ55555

0
atiswriter 19 ก.พ. 63 เวลา 19:13 น. 2

เป็นครับ แต่ที่ไทยนะครับ ส่วนญี่ปุ่นยังไม่มีปัญญาเรื่องเงินไปครับ แค่เชียงใหม่เชียงราย ผมยังเฝ้าคิดถึงทุกวันเลย อยากไปอีก ส่วนญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในความฝัน แต่อ่านจากคุณเขียนแล้ว ดีใจด้วยนะครับ คุณกำลังหลงรักญี่ปุ่น

1
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 16:57 น. 2-1

ขอให้ได้ไปอีกนะคะ ทางนี้เคยไปแล้วก็ชอบเหมือนกัน แต่อาการยังไม่หนักเข้าขั้นญี่ปุ่น

0
สมเหมียว ดุจพยัคฆ์ 19 ก.พ. 63 เวลา 20:17 น. 3
ควรจะหาเวลาว่างๆ ไปเทคคอร์สที่นู้นดูนะ

ไปแบบเดือนเดียวก็มีแหล่ะ


เวลาไปแนะนำให้หาโรงเรียนที่ เรียนแค่ครึ่งวันเช้า ตอนบ่ายจะได้ไปเที่ยว

1
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 16:58 น. 3-1

ใช่ค่ะ อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ครอบครัวไม่อนุมัติ

0
llkawaiill 19 ก.พ. 63 เวลา 20:54 น. 4

เวลาไปเที่ยวรู้สึกสนุกก็จะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ ครั้งแรกๆ เราก็ประมาณนั้นแหละน้า~


แล้วพอได้เป็นพนักงานประจำที่ญี่ปุ่น เราว่าคุณอาจจะทำตรงข้ามกัน...หึๆ

2
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 17:01 น. 4-1

จริงค่ะ พอรู้มาบ้างว่าถ้าไปอยู่กินเป็นพลเมือง ทำงานที่นั่นจะเป็นยังไง คงร้องอยากกลับไทยตั้งแต่วันแรก55เลยตัดความคิดนี้ออกไปแล้ว เปลี่ยนเป็นวางแผนว่าจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ แล้วไปอยู่ในฐานะนักท่องเที่ยวสัก 1-2 เดือน


0
llkawaiill 20 ก.พ. 63 เวลา 20:23 น. 4-2

ถ้าเล่าคร่าวๆ ก็

-ภาษีเยอะและแพง จริงอยู่ว่าการบริการสาธารณะนั้นดีตามภาษีที่จ่าย แต่มันทำให้การทำงานส่วนใหญ่นั้นหมดไปกับการจ่ายภาษี อีกทั้งเงินบำนาญนั้นไม่พอกินอยู่อย่างสบาย เหมือนตอนอายุยังน้อยคุณทำงานอดออม ประหยัดเพื่อเก็บเงิน แล้วเงินส่วนนั้นแหละที่มาช่วยจ่ายให้คุณอยู่แบบประหยัดต่อไปหลังเกษียณ สรุปว่าไม่มีช่วงไหนที่คุณจะได้หรูหรานอกจากระหว่างที่ทำงานในช่วงวัยกลางคน(ซึ่งก็ไม่มีเวลาใช้เงินอีกไง) -เงินในญี่ปุ่นค่อนข้างฝืด เทียบกันจริงๆ คือฝืดกว่าไทย และเป็นแบบนี้มานานตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจเมื่อ1997 ทุกองค์กรอยู่บนดุลของความกลัว สะสมเงินสดเอาไว้แต่ไม่เอาออกมาใช้ เพิ่งมีข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าธนาคารแห่งหนึ่งสำรองเงินสดไว้สามล้านล้านล้าน(trillion)เยน (แบบเอาธนบัตรมาแพ็คห่อพลาสติกแล้วเก็บในห้องเฉยๆ)เพื่อใช้เป็นตัวประกันว่าองค์กรจะไม่ล่ม ซึ่งเมื่อเงินนี้ถูกเก็บไว้เฉยๆ เงินในระบบก็น้อยลง ตามมาด้วยเงินฝืดต่อเนื่องมายี่สิบปี

-การทำงานล้าสมัย ถ้าไม่ได้อยู่องค์กรจำพวกสตาร์ทอัพหรือองค์กรที่เพิ่งตั้งใหม่ คุณจะเจอระบบเหนื่อยเพลียคล้ายๆ ข้าราชการบ้านเรา หากจะมาเก็บเงินที่นี่ วางแผนดีๆ ถ้าโชคดีได้เข้ามาตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ บริษัทจ่ายหนัก กรณีนี้สบาย แต่คำนวนเงินเกษียณให้ดี แต่กรณีที่เราเป็นพนักงานทั่วไป มาตามระบบ จบใหม่ เข้าทำงาน เงินเดือนขึ้นไม่ถึงหมื่นเยน กรณีนี้ให้เน้นไปที่เก็บเงินส่งกลับไทย เพราะเราจะเก็บเงินได้มากกว่าเรทอยู่ไทยสามเท่า เมื่อลาออกก็ทำเรื่องขอเงินบำนาญคืน(เพราะเราไม่ได้เกษียณที่ญี่ปุ่น)

-ดูเหมือนจะเยอะไปแล้ว เราแนะนำเรื่องเที่ยวแล้วกัน

หากต้องการไปเที่ยวนานในเจแปน เราแนะนำ Wwoof อาจจะเคยได้ยินมาแล้วมั้ง? ไปโฮมสเตย์ทำงานเกษตร มีเวลาว่างก็ออกไปเที่ยวได้ แต่แนะนำให้หาเพื่อนไปด้วย เกิดอะไรจะได้ช่วยกันได้ แต่เวลาขอวีซ่าอย่าบอกเขาว่าไปโครงการนี้นะ โดนปฏิเสธทันที


เท่านี้แหละ เนื้อหาอาจจะหนักหน่อยก็ขออภัยด้วย

0
P.S.HOPE 19 ก.พ. 63 เวลา 21:14 น. 5

เรียกว่าอาการซึมเศร้าหลังเที่ยว Post-Travel Depression (PTD)

ปกติอาจกินเวลายาวนานถึง 2 อาทิตย์ มักเกิดขึ้นกับคนที่ใช้ชีวิตปกติจำเจมาก ๆ

พอกลับจากความสนุกสนานจะรู้สึกว่าฉันยังอยากเที่ยวอยู่


อาการนี้จะเป็นชั่วคราว แต่ถ้าถึงขั้นร้องไห้น่าจะเป็นเพราะปกติเป็นคนพวกเซนซิทีฟควบคุมอารมณ์เศร้าลำบาก ถ้าเป็นมาก ๆ ให้ไปหาหมอ

ไม่เกี่ยวกับบาปกรรมครั้งเก่าจากชาติที่แล้วอะไรทั้งนั้น


ถ้าไม่อยากไปหาหมอ ทางแก้คือตั้งใจทำงานเก็บเงินแล้วซื้อตั๋วไปเที่ยวใหม่ แต่อาการนี้ถ้าน้องเจ้าของกระทู้ยังเด็กอยู่ก็ไม่แปลก

เพราะไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกเมื่อไหร่ถ้าที่บ้านไม่พาไป เลยรู้สึกเศร้า

1
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 17:03 น. 5-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ น่าจะ

แบบที่จข.เม้นท์ว่าเลย เพราะปกติไม่ร้องไห้กะอะไรง่ายๆ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ไกด์สาวต่างแดน 20 ก.พ. 63 เวลา 02:37 น. 7

เป็นเหมือนกันค่ะตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งเเรก เเต่หลังจากได้มาทำงานที่ญี่ปุ่น ดิฉันถึงกับร้องอยากกลับไทยเลยค่ะ T^T

1
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 17:05 น. 7-1

ตอนไปครั้งแรกก็คิดอยากเป็นไกด์พาทัวร์ไปที่นั่นนะคะ แถมอยากย้ายไปอยู่ด้วย แต่พอเห็นระหว่างความแตกต่างของนักท่องเที่ยวกับคนทำงานแล้ว..

//เก็บเงินไปอยู่ในฐานะนักท่องเที่ยวสัก1-2เดือนดีกว่า

0
InaeO 20 ก.พ. 63 เวลา 08:53 น. 8

เรายังไม่เคยไปญี่ปุ่น

แต่เคยไปตุรกี รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับบ้าน TT_TT แบบว่าพอวันท้ายๆเริ่มโหยหาอาหารไทยแล้ว คิดถึงอาหารไทยมากแบบว่า "กลับไปช้านจะไปกินส้มตำ" (ไปเกือบสิบวัน)


กับตอนไปจีนที่แบบว่า เอ๋อมาก (ไปทำงาน) คือทุกคนพูดภาษาที่เราไม่รู้เรื่องเลยอะ แบบอยู่ท่ามกลางภาษาอะไรก็ไม่รู้อยู่เกือบอาทิตย์ ฮือออ หนูอยากกลับบ้านนนนน พอขึ้นเครื่อง (การบินไทย) แล้วเจอคนไทยเท่านั้นแหละ แบบว่า ฮืออ พี่แอร์มากอดหน่อย


ส่วนตอนไปประเทศอื่นๆก็ปกตินะ (ส่วนใหญ่ไปโซนเอเชียที่อาหารคล้ายๆไทย) สรุปคือไ่ม่เคยรู้สึกไม่อยากกลับเลย (ฮา) อยากกลับตลอด แบบว่า บ้านจ๋า ไทยแลนด์จ๋าาาาา

3
For everyone 20 ก.พ. 63 เวลา 17:06 น. 8-1

ตอนกลับมาถึงไทยก็รีบแจ้นไปร้านส้มตำเหมือนกัยค่ะ55555 แต่ตอนอยู่นั่นอาการไม่ออกเลย

//ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์น้าคะ><

0
For everyone 21 ก.พ. 63 เวลา 16:43 น. 8-3

อาหารอะไรก็ไม่สู้มะละกอที่ถูกเอามาตำใส่พริก มะเขือเทศ น้ำปลา ปลาร้า บีบมะนาว ของบ้านเรา

0
คะน้าตัวน้อยตัวนิดน่าดูยูฮูวู้ฮู 21 ก.พ. 63 เวลา 14:49 น. 11

ตอนเราไปจีนก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นไปแค่เรียนวัฒนธรรมจีนสองอาทิตย์ แบบโอ้ยไม่อยากกลับไทย ชอบมาก

บรรยากาศจีนที่กวางตุ้งเหมือนบ้านเราจริงๆ เลยไม่รู้สึกโฮมซิกเลย คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นแกเอ็นดูเรากัน โดยเฉพาะแม่ครัวที่ทำอาหาร แกชอบขนขนมมาให้เรา

1
For everyone 21 ก.พ. 63 เวลา 16:45 น. 11-1

เก็ทฟีลค่ะ >< ปล.คนพื้นถิ่นที่จขม.ไปน่ารักจังเลยค่ะ

0