Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวประสบการณ์พบนักจิตวิทยา ครั้งแรก!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ปัจจุบันนี้ปัญหาต่าง ๆ บนโลกมีมากขึ้น ผู้เขียนเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องมีปัญหาบางอย่างที่เก็บไว้ใจใจและไม่สามารถหาทางออกได้ การไปพบนักจิตวิทยาการปรึกษาจึงเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งในการรักษาสุขภาพจิตของเราให้ดีขึ้น

สวัสดีนักอ่านทุกคนนะคะ นี่เป็นบล็อกแรกของเรา จึงอยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟัง อยากให้ทุกคนได้อ่าน ทั้งคนที่ผ่านเข้ามาหรือคนที่กำลังลังเลว่าจะเข้าไปพบกับนักจิตดีไหม

ก่อนอื่น นักอ่านหลาย ๆ คนคงเข้าใจในอาชีพนี้ก็พอสมควรแล้ว หากใครเข้าใจว่า การไปพบนักจิตวิทยา = เป็นบ้า หยุดค่ะ!! คุณต้องหยุดดดต




นักจิตวิทยาคืออะไร?

ทุกคนคงรู้แล้วว่านักจิตวิทยาเป็นงานแบบไหนจากเว็บไซต์อื่น ผู้เขียนจึงจะไม่ขออธิบายมาก

อาชีพนักจิตวิทยาสามารถทำงานได้หลากหลายกว่าที่คุณคิด แต่หลักๆ ที่เห็นกันก็คือ

•นักจิตวิทยาที่ทำงานร่วมกับจิตแพทย์ (สองอาชีพนี้ใช้วิธีรักษาแตกต่างกันนะคะ)

•นักจิตวิทยาที่ทำงานให้กับบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะทำงานในแผนกทรัพยากรณ์บุคคล(หรือที่เรียกว่า HR นั่นแหละค่ะ)

•นักจิตวิทยาการปรึกษา เป็นบุคคลที่เราเข้าไปใช้บริการและจะนำมาเล่าในวันนี้ค่ะ


ปัญหาหนักอก —> สู่การพบนักจิตวิทยา

ก่อนอื่นเราต้องขอเล่าถึงเรื่องของตัวเองให้ทุก ๆ คนฟังก่อน หากใครอยากจะข้ามสามารถข้ามย่อหัวข้อนี้ไปได้เลยค่ะ

เราเป็นเด็กมัธยมปลายปีสุดท้าย ช่วงนี้อยู่ในระหว่างเตรียมตัวสอบ แน่นอนว่าการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกับการใช้ชีวิตและสุขภาพจิตของเรามาก เรายุ่งมากขึ้น เครียดมากขึ้น แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่ชนวนเหตุที่ทำให้เราต้องไปพบนักจิต

เราเป็นเด็กเงียบ ๆ คนหนึ่ง พูดน้อย ไม่ค่อยมีเพื่อน และเป็น introvert… ความย้อนแย้งในตัวเราก็คือเรายังต้องการเป็นที่รู้จัก เราจึงใช้โลกออนไลน์ในการสร้างตัวตนด้วยผลงานของตัวเอง

เราเขียนนิยายกับวาดรูปค่ะ เริ่มแรกก็ทำสองอย่างนั้นเป็นงานอดิเรก จนกระทั่งเราเริ่มลงผลงานของตัวเองบนโลกออนไลน์ เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดความคาดหวังกับผลงาน และสุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็ทำลายสุขภาพจิตของเราจนแย่ลง

โชคดีที่แม่เรารับรู้และเข้าใจ เขาจึงพาเราไปพบกับนักจิตวิทยา…


ครั้งแรก…

เราไม่รู้ว่าจังหวัดอื่นมีคลินิกสำหรับในคำปรึกษาทางจิตหรือไม่ แต่โชคดีที่จังหวัดที่เรามีและไม่ไกลจากบ้านเรามาก ในวันแรกที่ไป เราจำได้ว่าช่วงนั้นเรามีปัญหาเรื่องเพื่อนอยู่จนดิ่งทุกวันเก็อบตลอดเวลา คลินิกที่เราไปเป็นห้องโล่งกว้าง ไม่ได้มีคนเยอะอย่างที่คิด

การเข้าพบนักจิตวิทยา เราจะเดินไปคลินิกแล้วแจ้งขอพบไม่ได้นะคะ(หรือที่อื่นได้เราก็ไม่ทราบ) เพราะนักจิตวิทยาจะจำกัดชั่วโมงที่เราจะเข้าไปคุยด้วย และในทุกครั้งที่ไป เขาจะต้องตั้งใจฟังเรา จะไม่มีการทำอย่างอื่นไปพูดไปด้วยฟังไปด้วย ดังนั้นจึงมีการจองเวลานัดพบก่อน เมื่ออยู่ในห้องกับนักจิตวิทยา คุณสามารถพูดได้ทุกอย่างที่อยากพูด ระบายได้ทุกอย่างที่อยากระบาย หรือบอกปัญหาให้นักจิตรับรู้ได้ ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเขาจะเอาเรื่องของเราไปพูดให้ใครฟังต่อ เพราะตามจรรยาบรรณแล้วข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับค่ะ

นักจิตวิทยาที่เราไปพบเป็นผู้หญิง วัยประมาณยี่สิบกลาง เขาใจดีมากและพยายามจะทำให้เราผ่อนคลายเวลาคุยกับเขามากที่สุด ก่อนเราจะเข้าไปคุยกับเขา พี่เขาได้เรียกแม่เราเข้าไปคุยด้วยก่อน เป็นการถามเรื่องปัญหาที่เรามี พอเราเข้าไปเขาไม่ได้ซักไซร้ทันทีที่เจอหน้ากันนะคะ แต่เริ่มต้นด้วยการ ‘แนะนำตัว’ และ ‘ถาม’ เราว่า เรามีเรื่องอะไรจะพูดหรือเปล่า เวลาพูดเขาจะนั่งฟังเฉย ๆ ฟังจนเราพูดจบจึงค่อยพูด อาจจะเป็นการถามย้ำ หรือถามความรู้สึกของเราหลังจากพูดออกไป บางครั้งเราพูดแล้วรู้สึกจุกอกเหมือนจะร้องไห้ เขาเหมือนมองออกว่าเรากำลังแย่ เขาก็จะพูดถามเราขึ้นมาทันที

มันเหมือนเป็นคุณกำลังอยากจะร้องไห้แล้วมีเพื่อนถามว่า ‘เป็นอะไรมั้ย’ กับคุณ และใช่ค่ะ…เราร้องไห้หนักมาก มากจนทิชชู่ตรงหน้าเราหมดไปสามสี่แผ่น5555

หลังจากพูดออกไป เรารู้สึกว่าพี่เขาพยายามที่จะทำความเข้าใจเรามาก มันทำให้เรารู้สึกดีแหละ พี่เขาไม่ได้รู้เรื่องทุกอย่างที่จะคุยด้วยได้ [อย่างว่า เราวาดรูปเขียนนิยาย เป็นเด็กติดโลก 2D คนหนึ่ง ศัพทแปลกที่เรารู้แต่พี่เขาไม่รู้ก็เยอะ555] แต่พี่เขาก็รับฟังที่เราเล่าทุกอย่าง การให้คำแนะนำกับเรา เขาไม่ได้แนะนำว่า นี่ ต้องทำแบบนี้นะ คือไม่เคยมีการบังคับโน้มน้าวแบบนั่นเลย พี่เขาจะทำให้เรารู้ปัญหาของตัวเองแล้วค่อยเสนอวิธีแก้ ซึ่งจะถามเราทุกครั้งว่า ‘แบบนี้ดีมั้ย’ เวลา 1 ชั่วโมงที่พูดคุยด้วยกันไหลผ่านไปจนรู้ตัวอีกทีก็หมดเวลาไปแล้ว

นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของเราค่ะ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปพบกับนักจิตวิทยาอีกหลายรอบ เพราะปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่มันเกิดจากตัวเราเอง และต้องการเวลาในการแก้ ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา พี่เราบอกเรา รวมทั้งเราเองก็สังเกตเห็นว่า ตัวเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย

นี่เป็นการเขียนบล็อกครั้งแรกของเรา อาจจะเรียบเรียงคำพูดไม่ดีนักก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ หวังว่าการบอกเล่าครั้งนี้ของเราจะช่วยให้หลาย ๆ คนตัดสินใจเรื่องการไปพบนักจิตวิทยาได้

การเข้าพบนักจิตวิทยาไม่มีอะไรน่ากลัวเลย



ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย

สำหรับเรื่องค่าใช้จ่าย เราไม่ทราบเรทราคาของที่อื่นนะคะ แต่ที่เราไปราคาอยู่ที่ 900 บาท ซึ่งค่อนข้างสูง แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม? เราว่าคุ้มค่านะคะ สำหรับหนึ่งชั่วโมงที่เราสามารถพูดอะไรก็ได้ที่เราเก็บกดไว้อยู่ หากใครมีปัญหาเรื่องของการเงินก็อาจจะไปใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิตก่อนก็ได้นะคะ

รักษาสุขภาพจิตใจของตัวเองให้ดี คุณก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขนะคะ

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

Lionman-none 21 ก.ค. 63 เวลา 09:36 น. 1

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ให้เราฟังนะ เราจะคอยช่วยให้คุณผ่านมันไปได้ง่ายขึ้น คุณเก่งอยู่แล้ว เราเชื่อว่าคุณทำได้ ผ่านมันไปด้วยกันนะ

0