ผมสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเพลงในระบบเสียงเครือข่ายของหมู่บ้านครับ
สวัสดีชาวเด็กดีทุกคนนะครับ อาจเป็นไม่กี่ครั้งที่ผมตั้งกระทู้ หากมีข้อผิดพลาดยังไงต้องขออภัย
ต้องขอแนะนำตัวคร่าวๆ ก่อน ผมเป็นนักศึกษามหาลัยครับ เพราะช่วงกักตัว + ต้องเรียนออนไลน์จากทางมหาลัย จึงกลับมาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของคนทางบ้านครับ นี่ก็ปาไปเดือนที่สี่แล้ว แต่ผมรู้สึกสงสัยกับระบบการเดินเสียงกระจายข่าวของหมู่บ้านไม่หายซักที
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่เข้าใจระบบเทศบาลดีนัก ไม่เข้าใจว่าตัวเองใช้คำถูกไหม
ถ้าเข้าใจง่ายๆ ก็คือ "การใช้ลำโพงทั่วหมู่บ้านในการกระจายข่าวต่างๆ" ครับ
ต่อจากนี้จะเป็นข้อสงสัยของผมครับ
ธรรมดาแล้วก่อนที่จะมีการประกาศ ก็จะมีการเปิด INTRO เพื่อเรียกความสนใจของคนในชุมชนใช่ไหมครับ ธรรมดาเขาเลือกเพลงแบบไหนกันหรือ?
ถ้าพูดถึงสังคมในโรงเรียนทั่วไปก็จะเป็นสัญญาณระฆัง ไม่ก็สัญญาณสั้นๆ (แบบ ตื้อดึง ตื๊อดึ่ง ตึงตึงตึ้งตึง ประกาศค่ะ พบกระเป๋าเงินหล่นหายอยู่หน้าเสาธง...) อะไรประมาณนี้ใช่ไหมครับ?
แล้วประเด็นที่ผมสงสัยมันก็อยู่ตรงนี้ล่ะ
เพราะว่าชุมชนที่ผมอยู่เค้าเอา "เพลงๆ หนึ่งมา" ซึ่งผมก็คิดว่ามันค่อนไปทางเอาเพลงรสนิยมส่วนตัวมาเปิดในที่สาธารณะเกินไปรึเปล่านะ?
เพราะนอกจะเป็นแนวที่ไม่น่าจะเข้าถึงทุกคนซักนิด ขออนุญาตไม่บอกชื่อเพลงนะครับ แต่เป็นแนวความเศร้าจากรักแตกหัก ซึ่ง เนื้อความของเพลงเกี่ยวกับชีวิตคู่และมือที่สาม ส่วนคนร้องแทนตัวเองในฝั่งของผู้หญิงที่รำพึงระพันว่าตัวเองเป็นคนยากจน ด้อยกว่าใครเขาแต่ต้อง กัดฟันลำบากสู้ แต่เพราะความรักล เลยก็ต้องข่มใจรับชะตากรรม
ผมอาจจะพูดเหมือนนิยายนิดหน่อยแต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ครับ ฟังมาจะสี่เดือนแล้ว ไม่หลุดประเด็นแน่นอน
มีหลายครั้งที่ผมถามกับคนที่บ้านอยู่หลายครั้ง ว่ารับกันได้เหรอ? แต่ก็เพราะเป็นเรื่องของเทศบาลที่บ้านเลยตอบว่า "อย่ามีปัญหาให้มากเถอะหนู แค่นี้เอง"
ใช่ครับ แค่นี้เองของคนที่บ้านอาจเป็นเพราะพวกเขาฟังผ่านๆ แต่ของผมคือเรียนไม่รู้ความเลยล่ะ (T-T)
ผมเองก็พยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองอยู่บ้าง อัดหูฟังก็แล้ว แต่จะไปสู้ลำโพงหมู่บ้านที่ติดทุกสารทิศได้ยังไงกัน? ทุกวันนี้นอกจากจะนั่งเครียดว่าปีนี้จะเอฟไหมหน้อ ปีหน้าจะหางานได้ไหมนะ? นี่ยังต้องมาเครียดว่าเมื่อไหร่เขาจะเปลี่ยนเพลง? ทำไมต้องเป็นเพลงมือที่สาม? เอาเพลงจรรโลงใจกว่านี้ไม่ได้หรือ? แล้วนี่ผมจะต้องฟังไปจนถึงเมื่อไหร่ !!!?
(แน่นอนว่าผมไม่ได้บอกใครครับ เก็บอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำเสมอมา..)
ถึงมันดูจะเป็นเรื่องเล็กๆ พอข้ามปัญหาส่วนตัวของผมไป ผมก็คิดว่ามันส่งผลกับสุขภาพจิตคนทั้งหมู่บ้านทางหนึ่งเหมือนกันนะ ถ้าเกิดมีประกาศอะไรสำคัญขึ้นมา การเปิดอะไรแบบนี้แล้วพวกเขาจะสนใจฟังประกาศมั้ยเนี่ย? ซึ่งผมเองก็ไม่พูดปากเปล่านะครับ ก็มีคนไม่โอเคเหมือนกัน แม้ผมจะไม่ได้มีเวลาไปถามคนทั้งหมู่บ้าน แต่วิธีการที่คนหลายๆ คนแก้ปัญหาคือก็เลือกจะฟังผ่านๆ ถึงแม้วิธีวิธีนี้จะทำให้ได้รับเนื้อหาจากการประกาศได้ไม่ครบถ้วนก็ตาม (พูดง่ายๆ ก็คือ หมดอารมณ์ฟังแล้ว นั่นล่ะครับ..)
ผมมั่นใจว่าการเปิดแต่อะไรแบบนี้มีผลต่อสังคมในชุมชนอยู่ระดังหนึ่งเชียวล่ะ
ตัวอย่างที่ให้เห็นได้ชัดก็เช่น
ตอนผมไปทำบุญที่วัดทุกวันพระ (ถึงหน้าตาผมอาจจะดูไม่เหมือนคนเข้าวัดก็ตาม) แต่ประเด็นที่มักจะได้ยินก็เป็นเรื่องของครอบครัวแตกแยกเพราะมือที่สาม แล้วก็ความจน.. (ย้ำ กำลังทำบุญที่วัด ยังไม่ทันจะนะโมสามจบด้วยซ้ำครับ) ส่วนตอนจ่ายตลาดสดกับไปตรวจสุขภาพที่ศูนย์อนามัย ก็มีประเด็นนี้ให้ได้ยินอยู่ประปราย แต่รู้สึกได้เลยว่าสุขภาพจิตของทุกคนไม่ได้เบิกบานซักนิด ล่าสุดมีโครงการโคกหนองนาเข้ามาเพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกร ญาติของผมที่เข้าโครงการด้วยยังบ่นรำไรว่าไม่ได้มีความจริงจังเท่าที่ควร ผิดกับช่วงหวยใกล้ออกทุกคนจะวุ่นวายเอามากๆ (ระดับความจริงจังถือว่าห่างชั้นกันเลยทีเดียว)
ผมคิดว่าช่วงนี้หลายๆ อย่างในประเทศเราก็สร้างความเครียดให้กับทุกคนกันอยู่แล้ว ทั้งโควิดระรอกต่อไป เศรษกิจ และปัญหาการว่างงาน (ซึ่งผมจะต้องเผชิญแน่ๆ หลังเรียนจบ) แต่การนำเพลงแนวนี้มาเปิดในที่สาธารณะทุกๆ เย็น บางครั้งก็เปิดตอนเช้าด้วยถ้ามีเหตุด่วนอะไร จนมันจะเปิดบ่อยสู้กับเพลงชาติแล้วล่ะ
หากมีใครได้อ่านถึงตรงนี้แล้ว ผมอยากรู้ว่าทุกคนคิดเห็นกันอย่างไรครับ
ทุกคนคิดว่าเรื่องที่ผมว่ามานี้ เป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขหรือเปล่าครับ? หรือเป็นเพราะผมมีปัญหาแล้วคิดไปเองกันแน่?
ความสำคัญของการประกาศข่าวในหมู่บ้าน มีผลต่อจิตใจคนในชุมชนหรือเปล่า?
สุดท้ายนี้ ผมขอยอมรับว่าสาเหตุที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้นมีต้นเหตุจากปัญหาส่วนตัว รวมถึงใช้มุมมองของตัวเองตัดสิน รวมถึงพูดคุยกับผู้คนที่ยังไม่หลากหลายมากพอ แต่เพราะไม่อยากนั่งคิดคนเดียวและเห็นปัญหาที่กระจายเป็นวงกว้างในสังคมตอนนี้ก็มืดแปดด้านครับ อยากไขกระจ่างความคิดนี้ซักนิดก็ยังดี
ขอบคุณมากๆ ครับ
แสดงความคิดเห็น