วิธีเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น 10 เท่า โดยใช้ “ความรู้”

พัฒนาตัวเอง วิธีเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น 10 เท่า โดยใช้ “ความรู้”
 

v

v

หลาย ๆ คนคงเข้าใจอยู่แล้วว่า “ความรู้” คือ สิ่งที่ทำให้คนเข้าใจ แล้วนำความเข้าใจนั้นมาปฏิบัติหรือประยุกต์ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น แต่คุณรู้อะไรไม่ครับ ว่าที่จริงแล้วคุณสามารถเปลี่ยนชีวิตให้ประสบความสำเร็จและรวยได้ขึ้น 10 เท่า ถ้าคุณเรียนรู้ให้ถูกวิธีและเรียนรู้ให้ถูกคน วันนี้เราจะมาดูกันครับว่าต้องเรียนรู้แบบไหนให้คุณสามารถพัฒนาตัวเองให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็ว และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณในปัจจุบัน

นั่นก็คือ การเรียนรู้นอกเหนือ ความรู้ทางทฤษฎี (Theory)  เพราะบางครั้งความรู้ที่เป็นทฤษฎีไม่สามารถนำมาใช้กับการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป แต่สามารถนำไปใช้กับนักวิทยาศาสตร์ หรืองานที่เป็นอาชีพเฉพาะทางเท่านั้น ฉะนั้น ความรู้ที่จะช่วยให้คุณก้าวกระโดดให้ดีขึ้นเป็น 10 เท่า ก็คือ ต้องเป็นความรู้ในแบบปฏิบัติ (Practical  Section) เพราะความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติมาแล้วสามารถทำให้คุณเข้าใจง่ายและมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเอง ยกตัวอย่าง ความรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จหลาย ๆ ท่าน ที่ออกมาเล่าประสบการณ์ให้คุณฟัง เพื่อไม่ให้คุณต้องล้มเหลวแบบคนสำเร็จที่เขาได้พบเจอมา หรือแม้แต่วิธีการหาเงินหรือการทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จได้ จากหนังสือชีวประวัติหรือตามสื่อต่าง ๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อความรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของคนสำเร็จมาโดยเฉพาะ

ในบางครั้ง คุณอาจสงสัยว่า ความรู้ในแบบปฏิบัติ (Practical  Section) จะสามารถมารถนำมาใช้กับคุณได้หรือไม่?! ผมตอบเลยครับว่าได้ ถ้าคุณนำความรู้เหล่านี้มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวคุณเอง เพราะความรู้ในแบบปฏิบัติล้วนเป็นความรู้ที่เกิดมาจากประสบการณ์จริงทั้งนั้น เช่น อย่างตัวผมเองมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจทั้งในไทยและจีน กว่าจะสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่ผมหวังไว้ และนำมาถ่ายทอดเพื่อให้เกิดความรู้และแนวคิดใหม่ ๆ ให้ใครหลาย ๆ คนได้ ก็ต้องใช้ความรู้จากประสบการณ์มี่ผ่านมาเช่นเดียวกัน

และการเรียนรู้ในยุคสมัยนี้ นอกจากการอ่านหนังสือชีวประวัติขอคนสำเร็จแล้ว เชื่อว่าใครหลาย ๆคน คงติดตามหรือเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณต้องการในรูปแบบออนไลน์ได้ เพราะในยุคสมัยนี้มีคนประสบความสำเร็จให้คุณเห็นเยอะแยะมากมาย จนมีโอกาสได้เปิดสถาบันหรือคอร์สต่าง ๆ ให้กับคนที่อยากจะประสบความสำเร็จให้ได้เท่ากับคนที่สอน โดยอาจจะมีการเรียนแบบเวิร์คช้อปหรือเปิดสอนตามสถาบันต่าง ๆ หากคนที่อยู่ในตัวเมืองหรืออย่างกรุงเทพมหานครก็คงไม่มีปัญหา แล้วถ้าเป็นคนต่างพื้นที่ละครับ?! หรือคนที่มีคำถามที่ไม่เข้าใจอยู่ตลอดเวลาจะแก้ไขยังไง?!!  ซึ่งสำหรับผมแล้วคิดว่ายังมีสิ่งที่ทำให้คุณสามารถเรียนรู้ได้สะดวกสบาย นั้นก็คือ เรียนรู้จากคอร์สออนไลน์ ที่ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางและเป็นความรู้ที่คุณสามารถกลับมาทบทวนได้ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากการเรียนคอร์สแบบ
เวิร์คช้อปไปโดยสิ้นเชิง
 

เพราะฉะนั้น ความรู้ในแบบปฏิบัติ (Practical  Section) จะสามารถทำให้คุณดีขึ้น 10 เท่า ได้อย่างไร?! อยากให้คุณลองคิดดูนะครับ การที่คุณจะคิดและหาวิธีเพื่อให้คุณสามารถประสบความสำเร็จได้อาจจะต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปี กว่าที่คุณจะรู้กว่าที่คุณจะชำนาญ ซึ่งแตกต่างจากการที่คุณไปเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์มาแล้ว 10-20 ปี แล้วให้เขาช่วยแนะนำ หรือสอนคุณให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วและไม่ต้องล้มเหลวแบบเขา ซึ่งคุณจะสามารถย่นเวลาในการลองผิดลองถูกได้ถึง 10 ปี เพราะคุณเรียนกับคนเหล่านี้เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ คุณพอจะเข้าใจวิธีเรียนรู้อย่างไรให้ดีขึ้นได้ 10 เท่ากันแล้วใช่ไหมครับ แล้วคุณคิดว่าการเรียน แบบความรู้ทางทฤษฎี (Theory)  หรือ ความรู้ในแบบปฏิบัติ (Practical  Section) แบบไหนสามารถตอบโจทย์ในการทำงานของคุณได้และเพราะอะไร สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 
 

======================================