วิธีเก็บเงินผ่อนบ้าน สำหรับคนรายได้น้อย
ตั้งกระทู้ใหม่
ปกติคนที่มีรายได้น้อย หรือ พนักงานประจำ คงสงสัยว่ามีเงินอยู่จำกัดจะผ่อนบ้านได้ไหม
ถ้าหากผ่อนบ้านไป แล้วจะมีเงินเก็บได้หรือเปล่า ต้องจัดการกับเรื่องการเงินอย่างไร
ให้ราบรื่น รู้สึกกังวลไปหมด…
ทุกคน ไม่ว่าใครก็ตามคงเคยใฝ่ฝันว่าอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองไว้สักหลังเพื่อเป็นที่พักพิงไว้ยามเกษียณของตัวเองใช่ไหมครับแต่ปัญหาหลัก ๆ คงไม่พ้น “เรื่องของเงิน” บางคนก็ต้องไปกู้เงินกับธนาคารก่อน เพื่อมาสร้างบ้านหรือซื้อบ้านแล้วค่อยผ่อนจ่ายระยะยาว แต่ถ้าคนที่มีรายได้น้อยล่ะจะเก็บเงินอย่างไร ดังนั้น ผมจะมาแนะนำวิธีการออมเงินแบบไหน เพื่อให้คุณสามารถเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งวิธีนี้ คุณจะต้องใช้ความอดทนสูง และรู้จักวินัยการใช้เงินให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะลำบากได้
ดังนั้นหากคุณยังเป็นพนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนอยู่ วิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือการกู้เงินธนาคาร และหลักของการกู้ของธนาคารทั่วไปมีอยู่ว่า “ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น”
สมมุติว่า ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้ 15,000 x 40% = 6,000 บาท หรือมีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ก็จะมีประสิทธิภาพในการผ่อน 20,000 x 40% = 8,000 บาทซึ่งธนาคารจะดูว่าคุณมีความสามารถในการจ่ายได้ในระดับไหน โดยที่ไม่รวมกับหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือแม้แต่หนี้นอกระบบ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากจะผ่อนบ้านได้อย่างราบรื่น สิ่งที่คุณควรจะคำนึงคือการไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่น ๆ หากคุณมีหนี้สินอยู่เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,000 บาท คุณมีเงินเดือน 20,000 ก็ทำให้คุณเหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง (8,000 – 5,000) คุณก็จะเหลือเงินใช้เพียง 7,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นหากคุณยังมีรายได้ที่น้อยอยู่ คุณไม่ควรจะมีหนี้เพิ่ม เพราะคุณอาจจะสะดุดระหว่างทาง และหากคุณไม่สามารถแก้ไขได้ความเสี่ยงในการถูกยึดทรัพย์สินของคุณก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน
แต่ถ้าหากคุณยังอยากจะได้ทรัพย์สินเพิ่ม สิ่งที่คุณควรจะต้องทำ นั่นก็คือ หารายได้เพิ่มหรืออาชีพเสริม เพราะเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะได้ทุกอย่างในเงินเดือนแค่ 15,000 หรือ 20,000 บาทแน่นอน เพราะฉะนั้นเราจะมาดูกันต่อ ว่าเทคนิคการออมเงินเก็บเงิน ในขณะที่คุณกำลังผ่อนบ้านจะสามารถทำได้อย่างไร
สมมุติว่า คุณมีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน คุณอาจแบ่งบัญชีออกเป็น 3 บัญชี เพื่อจะได้แยกและสามารถจัดการกับรายการจ่ายและเก็บได้สะดวก
โดยบัญชีที่ 1 คุณต้องเก็บ 10,000 บาท สำหรับไว้ผ่อนบ้าน 8,000 บาท และเก็บฉุกเฉิน 2,000 บาท เพื่อในอนาคตคุณไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ เช่น ตกงาน หากคุณเก็บให้ได้ 1 ปี คุณก็จะมีเงินเก็บ 24,000 บาท แสดงว่าระหว่างที่คุณตกงาน คุณจะยังสามารถมีเงินผ่อนบ้านได้อีก 3 เดือนนั่นเองส่วนบัญชีที่ 2 เป็นเงินที่คุณไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาจจะแบ่งออกเป็น 8,000 บาท หรือแบ่งเป็นรายวันวันละ 270 บาท และจัดการบริหารให้อยู่ในขอบเขตที่คุณได้จัดระบบไว้และบัญชีที่ 3 เก็บเงินฉุกเฉินส่วนตัวไว้ 2,000 บาท เพราะเงินในส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำออกไปใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น คุณป่วย หรือ มีปัญหาในเรื่องต่าง เช่น ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ หรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ
ดังนั้น อาจเห็นได้ว่าการแบ่งเงินโดยการ มีเงินเก็บฉุกเฉิน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องทำให้ได้ หากคุณทำไม่ได้เมื่อคุณเจอปัญหาคุณจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในตอนนั้น กลับกลายเป็นว่าคุณก็จะสะดุดในเรื่องการเงิน เลวร้ายไปกว่านั้นคือคุณอาจจะมีความคิดที่จะไปกู้เงินนอกระบบก็เป็นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรจะทำ…
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับคนที่มีรายได้น้อยที่อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะการมีบ้านนั้น ที่จริงคุณสามารถทำได้และมีเงินเก็บได้ด้วย เพียงคุณจัดการและบริหารให้เป็น หรือคุณมีไอเดียในการเก็บเงินระหว่างผ่อนบ้านให้มีเงินเก็บได้มากกว่า สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ
============วรัทภพ รชตนามวงษ์
วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB
30 ส.ค. 64 เวลา 00:05 น.
322
views
1 ความคิดเห็น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?