Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หนัง "ร่างทรง" รีวิวแบบคริสเตียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นการรีวิวหนังในทัศนคติของคริสเตียนคนหนึ่ง ซึ่งบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้มีความชัดเจนมากในหลักคำสอนของพระเยซูเจ้า เป็นหนังที่คริสเตียนควรดูและนำกลับไปใคร่ครวญนะคะ
ร่างทรงเป็นเรื่องของการสืบทอดร่างทรงวิญญาณตามความเชื่อของคนไทยภาคอีสาน แล้วมันเกี่ยวกับคริสเตียนยังไงเรามาดูกันค่ะ
ในฐานะคริสเตียนฉันมองว่าหนังเรื่องร่างทรงเป็นการเปรียบเทียบดิน 4 ชนิด ก็คือ คน 4 ประเภทในเรื่องของความเชื่อ
ในฉากเริ่มต้น “นิ่ม” ซึ่งเป็นร่างทรงย่าบาหยันซึ่งเป็นคนแรกที่ถูกสัมภาษณ์ในหนังนั้น เอ่ยถึงเรื่องความเชื่อของชาวอีสานเป็นฉากเปิดของเรื่องราว


งันเรามาลองติ๊ต่างว่า กลุ่มคนทั้งหมดในหนังเป็นคริสเตียน และสิ่งที่เขาต้องเชื่อก็คือพระเจ้า
ก่อนอื่นจะขออ้างพระคัมในพระคัมภีร์ก่อน เพื่อทุกคนที่ฟังอยู่จะได้เข้าใจว่าฉันไม่ได้เอ่ยอ้างอย่างเลื่อนลอย

"ในลูกาบทที่8ข้อ4-7 เล่าถึงสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้ว่า
มีชาวบ้านมากมายจากเมืองต่างๆ มาหาพระเยซู พระองค์เล่าเรื่องเปรียบเทียบให้พวกเขาฟังว่า
เมื่อมิ้งหายไปน้อยก็ไขว้เขว และยอมรับพระทุกองค์ จะองค์ไหนก็ได้ขอให้ช่วยเธอ นี่คือสิ่งที่น้อยบอกตากล้อง
ในหนังนั้น ไม่มีฉากที่น้อยไปหาเพื่อนคริตชน และร่วมอธิษฐาน หรืออ้อนวอนพระเจ้าเลย น้อยแทบไม่ได้ดำเนินตามความเป็นคริสตชนในชีวิตจริง น้อยเป็นคริสต์แค่ตอนไปโบสถ์เท่านั้น 




น้อยทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่อาจให้อภัยได้ ก็คือการบูชารูปเคารพ และการไม่ไว้วางใจพระองค์ น้อยหลงหายจากพระเจ้า และไม่ยอมพึ่งพาพระองค์ น้อยไม่เชื่อในพระเจ้าที่เคยช่วยเธออีกต่อไป เธอพามิ้งที่กำลังจมอยู่ในอำนาจวิญญาณร้าย (เปรียบเทียบก็คือความบาปที่มนุษย์รับอามานั่นแหละค่ะ) ไปรับเชื่อสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า 



แถมไม่พอ ตัวเองยังไปรับขันและไปขอย่าบาหยันช่วยอีก นอกจากจะไม่เป็นหลักในความเชื่อให้กับลูกสาวแล้ว น้อยพาตัวเองกับลูกจมดิ่มไปในทางแห่งบาปไม่หยุดยั้ง 



นิ่ม ตัวแทนดินประเภทที่ 3 ก็คือเมล็ดพืชที่ตกอยู่กลางพงหนาม
**ซึ่งเราจะเปรียบเทียบความเชื่อของนิ่มที่มีต่อย่าบาหยันให้เหมือนกับคนที่เชื่อในพระเจ้ามายาวนาน
ก็คือคนที่ฟังถ้อยคำของพระเจ้าและรับไว้ แต่เพราะความกังวลใจ หรือการเห็นแก่ความร่ำรวย หรือความสนุกสนานในชีวิต ทำให้ไม่เกิดผล พงหนามอาจจะไม่ใช่บาป แต่เป็นสิ่งที่คนนั้นสนใจมากกว่าพระเจ้า หรือเป็นเพราะความกลัวในสิ่งที่จะเผชิญอยู่ สิ่งเหล่านี้เข้ามาบดบังพระคำของพระเจ้า ความเชื่อในอำนาจของพระเจ้าทำให้ชีวิตของคนคนนั้นไม่เกิดผล

พวกเขาจะเชื่อ แต่... มีสิ่งอื่นมาก่อนพระเจ้าตลอด สองจิตสองใจ จับปลาสองมือ ในกรณีนิ่มคือความเย่อหยิ่งในคุณไสย อาคมที่เธอมี
สรุปก็คือพวกเขาให้ความคิด และความต้องการของตนเองมาก่อนพระเจ้าเสมอ



นิ่มได้รับความสามารถรักษามาจากสิ่งที่เธอเชื่อ ถ้าในทางคริสต์เราจะเรียกว่าได้รับการเจิม
เธอมีความมั่นใจในความเป็นตัวแทนของสิ่งที่เธอเชื่อ  เพราะมันสำเร็จผลและนำความชื่นชมยินดีมาสู่ชีวิตเธอ

แต่เมื่อปัญหาไม่ใช่ของคนไกลตัวแต่เป็นคนที่เธอรัก ก็คือหลานสาวเธอและน้องสาวที่เธอรัก นิ่มเกิดความกังวล

เธอรีบเร่งใช้ความสามารถที่เธอได้รับจากสิ่งที่เธอเชื่อ แม้ต้องรอและอดทนต่อสิ่งกดดันรอบด้านเธอก็ยังเชื่อ เพราะเธอไม่เคยพลาดมาก่อน เธอยังมั่นใจในสิ่งที่เธอเชื่อ
แต่เมื่อปัญหามันหนักเกินกว่าที่เธอจะแก้ได้ด้วยความสามารถของเธอก็เลือกที่จะพึ่งพาคนที่มีความเชื่อเดียวกับเธอ ก็คือหมอผีอีกคน

แต่ว่าสิ่งต่างๆยากขึ้น ยากขึ้น และเธอเพียงลำพังไม่สามารถรับมือเองได้ นิ่มเองก็เริ่มไม่แน่ใจ

เพราะรูปเคารพของสิ่งที่เธอเชื่อถูกทำลาย เธอก็คิดว่าแม้แต่รูปเคารพยังถูกทำลาย หรือสิ่งที่เธอเชื่ออาจจะไม่เคยมีจริง ไม่แน่ว่านิ่มอาจจะคิดว่าสิ่งที่ผ่านมาเธอทำได้เพราะตัวเธอเองมีญานวิเศษ ไม่ได้เกิดจากสิ่งที่เธอเชื่อ
ถ้าในทางคริสต์เราจะใช้อารมณ์นี้เรียกว่า “การสัมผัสการคงอยู่ของพระเจ้า” หายไป
นิ่มสารภาพ กับตากล้องก่อนวันทำพิธีหนึ่งวัน ว่าเธอเองก็สงสัยว่าย่าบาหยันมีอยู่จริงหรือไม่
นิ่มไร้ซึ่งความเชื่ออีกต่อไป

ดินประเภทสุดท้าย ก็คือเมล็ดพืชที่ตกในดินดี ก็คือคนที่มีจิตใจดีและซื่อสัตย์ เมื่อได้ยินถ้อยคำของพระเจ้า ก็เก็บรักษาไว้ และเกิดผลมากด้วยความมานะอดทน คนประเภทนี้ไม่ได้แค่เชื่ออย่างเดียว พวกเขาทำตามคำสอนของพระองค์ด้วย ตั้งใจทำอย่างมีความมานะอดทน ดังคำที่พระเยซูบอกไว้ว่า ถ้าพวกคุณรักเรา คุณก็จะทำตามคำสั่งของเรา... คนที่รู้จักคำสั่งสอนของเรา และทำตาม ก็เป็นคนที่รักเรา ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า องค์เจ้าชีวิต องค์เจ้าชีวิต แล้วจะได้เข้ามาในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่คนที่ทำตามความต้องการของพระบิดาที่อยู่บนสวรรค์เท่านั้น ถึงจะเข้าไปได้
ซึ่งดินชนิดนี้ในหนังไม่ได้ระบุชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่เราคริสเตียนจะเข้าใจได้ ว่าในเรื่องเน้นดิน 3 ประเภทแรกมากกว่า
ขอแทรกตรงนี้ว่าที่ฉันค่อนข้างจะมั่นใจว่าหนังเรื่องนี้ที่ฉันอยากให้คุณที่เป็นคริสเตียนดูเพราะเรื่องนี้มี “ผีกอง” ที่ปรากฎในพระคัมภีร์เป็นปีศาจหลักในเรื่อง

หมอผีบอกว่าเขาบอกไม่ได้ว่าผีที่สิงนิ้งอยู่นั้นเป็นใคร เพราะมีเยอะแยะมากมายเหลือเกิน นับไม่หวาดไม่ไหว ตัวไหนอยากแผลงฤทธิ์ก็จะแสดงออกมา เป็นที่มาของพฤติกรรมแปลกๆของมิ้ง

สำหรับในพระคัมภีร์

ในมาระโกบทที่ 5 ข้อที่ 9 เล่าถึง ผีกองที่พระเยซูขับไล่ว่า
พระเยซู​ถาม​มัน​ว่า “เอ็ง​ชื่อ​อะไร” มัน​ตอบ​ว่า “ชื่อ​กอง” เพราะ​เรา​มี​กัน​หลาย​ตน​อยู่​ใน​ร่างนี้”

ผีกองคือผีที่ตายด้วยความแค้นในอดีต มีมากกว่าสามพันตัวเลยทีเดียว พวกมันถูกระบุไว้ในพระคัมภีร์ว่าทำให้คนเสียสติ และชอบไปอยู่ในสุสานฝังศพ ก็เหมือนกับมิ้งที่ชอบไปอยู่ในตึกร้างที่มีคดีไฟไหม้นั่นเอง

ซึ่งในหนังเรื่องนี้ฉันเชื่อว่าต้องการสื่อถึงบาปที่มนุษย์เรานั้นได้ทำตามสันดานเนื้อหนังของตน
ไม่ว่าจะทำตัวเยี่ยงสัตย์ การทรมานคนอื่น การลักขโมย การล่วงประเวณี ความหยาบคาย และอื่นๆมากมาย


.......................................................

มิ้งคือดินประเภทที่ 1 เมื่อเธอไม่มีความเชื่อในยามที่วิญญาณร้าย หรือ บาปเข้าครอบงำ เธอไม่อาจต่อต้านได้เลย เธอได้แต่ปล่อยให้บาปบงการเธอ จนทำร้าย ตัวเองและคนรอบข้าง ไม่มีสันติสุข มีแต่ความกลัวและหวาดระแวงเสมอ ความบาปนั้นพาคุณไปได้ไกลแค่ไหน ก็ลองอ่านข่าวบนหน้าเว็บทุกวันนี้ดูก็แล้วกัน ลูกฆ่าแม่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แล้ว ในสมัยที่สังคมเสื่อมทรามถึงที่สุดเช่นนี้
................................................................

น้อย ดินประเภทที่ 2 เมื่อเปลี่ยนความเชื่อ พระองค์ไหนก็ได้ เธอรับหมด เธอพามิ้งไปรับขันธ์ ที่เธอคิดว่าจะช่วยได้ แม้นิ่มจะเตือนก็ตาม
แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเลวร้ายลง
แม้เรื่องจะแย่ลงเธอก็ไม่คิดจะกลับไปพึ่งพระเจ้าที่เคยช่วยเธอ เธอจมดิ่งลงไปในทางที่ไม่อาจถอยกลับเรื่อยๆ
น้อยไปทำพิธีไล่ผีแทนนิ้งที่ถูกขังอยู่ในบ้าน
สุดท้ายเธอเสียสติ คิดว่าตัวเองเป็นในสิ่งที่เธอควรเป็นตามทางโลก ไม่ใช่ลูกขอพระเจ้าอีกต่อไป


สุดท้ายก็เชื่อว่าตัวเองเป็นย่าบาหยัน และทำพิธีเรียกผีกลับมาสิงทุกคนในพิธี

ความบาปครอบงำเธอ ทำร้ายคนรอบข้างอย่างไม่สนใจว่าจะเกิดผลใดตามมา ทำร้ายแม้แต่น้องชายตัวเอง และเธอก็ตายด้วยผีกองในตอนสุดท้าย
..........................................................

นิ่ม ดินประเภทที่ 3 เมื่อเธอสับสนในความเชื่อ เธอไม่ขอต่อสิ่งที่เชื่อ เธอเลือกที่จะขอให้คนอื่นมาช่วยแทน
เมื่อไม่มีความเชื่อ สิ่งที่เธอเชื่อก็ไม่อยู่กับเธออีกต่อไป
จุดจบของนิ่มก็ไม่ต่างจากคนอื่นก็คือตายด้วยอำนาจของภูติผี ที่เป็นตัวแทนของบาปในเรื่อง


หลายคนสงสัยฉากจบ แต่ฉันไม่สงสัยเลย นี่คือฉากจบที่ควรเป็นของเหล่าผู้หมดความเชื่อ
ในทางคริสต์เมื่อคุณเชื่อในสิ่งใด วิญญาณคุณจะตกเป็นทาสของสิ่งนั้น ซอมบี้ในเรื่องแต่ละคน คือสัญลักษณ์ความบาปต่างๆที่มนุษย์ในสมัยนี้ทำ ทำตัวเยี่ยงสัตว์ ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น ปล่อยให้บาปครอบงำ จนยอมแม้แต่ให้สิ่งที่ครอบงำทำร้ายตนเองถึงตาย
เราจะจบการสปอยหนังแบบคริสเตียนไว้สั้นๆว่า
ผีที่สิงมิ้งในเรื่องและอาละวาดทำร้ายครอื่น ก็คือบาป  ลองดูเรื่องนี้และลองทบทวนตัวเอง ทบทวนใจตัวเองว่าเราเป็นดินประเภทไหน
จุดจบความบาปคือความตาย ตายอย่างภูติผีจากนรก ในหนังสื่อชัดมาก อาจจะดูรุนแรง แต่คุณลองคิดดู ว่าวันที่พระเจ้าพิพากษาโลก คุณอาจจะโดนยิ่งกว่าตัวละครในหนังโดนเพราะความบาปที่ครอบงำคุณก็ได้

ดังนั้น จงกลับใจเถอะค่ะ ขอพระเจ้าอวยพร อาเมนค่ะ
 

แสดงความคิดเห็น