แม่คะหนูอยากเป็นแอร์!! รีวิวสมัครแอร์แขกยุคโควิดหลังจากเรียนจบไปไม่ถึงปี ! (สนามแรก)
สวัสดีค่า สมาชิกเว็ปบอร์ด dek-d ทุกท่าน วันนี้ตัดสินใจจะมาเขียนกระทู้รีวิวการสมัครแอร์แขกแบบพลีชีพกันโดยไม่กักเลยค่ะ !
ก่อนอื่นเลยเราก็เป็นคนนึงที่อยากเป็นแอร์ตั้งแต่เด็ก ชอบมากเวลาไปสนามบินแล้วเห็นแอร์สวย ๆ เดินลากกระเป๋าไปมา เรายอมรับเลยว่าเพื่อนหลายคนของเราก็อยากเป็นแอร์ เรียกได้ว่าแอร์กับเด็กไทยเป็นของคู่กันไปเลยก็ว่าได้เพราะการแข่งขันสูงเหลือเกิน ;-; (ขออนุญาตแบ่งกระทู้เป็น 3 พาร์ทนะคะ)
หลายคนคิดว่าแอร์ต้องสวยหวาน เรียบร้อย ตัวสูง แต่พอมาสมัครจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียวค่ะ เราคนนึงที่อยากเป็นแอร์มาตั้งแต่เด็ก เลยทำให้ช่วงมัธยมเราก็ติดตามสายการบินที่มาเปิดรับตลอดไม่ว่าจะเป็นสายการบินแห่งชาติ แอร์เอเชีย นกแอร์ บางกอกแอร์เวย์ คือฉันอยากใส่ชุดพวกนั้นมาก อยากได้ ร้องไห้จะเอา จนกระทั่งได้มารู้จักกับสายการบินตะวันออกกลางค่ะ ซึ่งสายการบินตะวันออกกลางช่วงนั้นที่ฟีเวอร์ในหมู่เพื่อนสาวชาวมัธยมมากที่สุดก็คือสายการบินเอมิเรต สายการบินสีแดงที่มีชุดเป็นเอกลักษณ์พูดเลยว่าอยากได้ สวยมาก อยากไปอยู่ตรงนั้น และประกอบกับว่าตอนนั้นเราเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวนิดนึง ทำให้เรามองข้ามสายไทยไปเลย ;-;
แต่ทว่าพอมาศึกษาดี ๆ ก็มีสายการบินอื่นอย่างสายการบินกาต้าร์ เป็นสายการบินตะวันออกกลางที่ตอนนี้เป็นสายการบินระดับโลก เราก็ว้าวมาก อยากเป็นแอร์แขก และเป้าหมายก็มีไว้พุ่งชนอะค่ะ หลังจากนั้นเราก็เริ่มศึกษาทันทีว่าคุณสมบัติที่แอร์สายการบินที่เราอยากเข้ามีอะไรบ้าง และสรุปได้ประมาณนี้นะคะ
1. สูง 160 cm. ขึ้นไปสำหรับผู้หญิง
2. สามาระเอื้อมแตะได้ 212 cm.
3. จบการศึกษาขึ้นต่ำมัธยมศึกษาตอนปลาย
4. สามารถสื่อสารพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้ในระดับดีมาก
5. มีบุคลิกภาพและทักษะการแก้ปัญหาได้ดี
6. อายุ 21 ปีขึ้นไป
และนี่ก็คือคุณสมบัติคร่าว ๆ ของสายการบินเอมิเรตนะคะ เพราะเชื่อว่ามีน้อง ๆ หรือ เพื่อน ๆ หลายคนก็ยังอยากล่าปีกอยู่แม้ว่าในช่วงโควิดก็ตาม แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงสายการบินกาต้าร์กันค่ะ เป็นสายการบินที่เราได้ไปลองมาแล้วถึง 3 สนามเลยทีเดียว ซึ่งสายการบินกาต้าร์มีคุณสมบัติที่ไม่ได้ต่างจากเอมิเรตมากค่ะ แค่ว่าไม่จำกัดส่วนสูงแค่นี้เอง!!
เข้าเรื่องเลยนะคะ สนามแรกที่เราสมัครไปทางออนไลน์ช่วงเดือน Dec. 2021 สนามกรุงเทพ ขั้นตอนแรกที่เราจะต้องทำคือ
1. ยื่น CV
ขั้นตอนนี้แค่ยื่น CV ทั่วไปเข้าระบบและกรอกแบบฟอร์มการสมัครออนไลน์ ซึ่งคำถามก็เป็นคำถามทั่วไปเลยค่ะ และเราก็จะได้เลข Applicant ID ซึ่งเป็นเลขประจำตัว ส่งมาทางอีเมลล์ และหลังจากนั้นก็ตื่นเต้นมากไม่รู้ว่าเขาจะสัมภาษณ์เราเมื่อไร
2. Online interview
ซึ่งเป็นระบบอัดวิดีโอส่งไปนะคะ เขาจะมีคำถามมาให้เราตอบผ่านกล้อง ขั้นตอนนี้แค่แต่งหน้าแต่งตัวสวย ๆ ตอบคำถามดี ๆ มองกล้อง และกดส่งได้เลยค่ะ (ขั้นตอนนี้ถูกยกเลิกไปในสนามอื่น ๆ หลังจากนี้ค่ะ มีแค่รอบนี้ที่โดน Online interview)
3. Pre screen (3วิ วัดใจ!!)
รอบนี้เป็นรอบพรีสกรีนค่ะ หรือที่ชอบเรียกกันว่ารอบ 3 วิ วัดใจ เพราะว่าเป็นรอบที่เราต้องเข้าไปยื่น CV ให้กรรมการอีกรอบ ซึ่งรอบนี้เสื้อผ้า หน้า ผมก็ต้องพร้อมนะคะ เอาให้เป๊ะที่สุดค่ะ ซึ่งพูดเลยว่ารอบนี้มันใหม่มากสำหรับเราและอีกหลายคนเพราะโควิดที่ทำให้เราไม่ได้ลองสนามเลยมาสักสนาม ตอนนั้นเราก็อาศัยหาข้อมูลในFacebook มาตลอดเลยค่ะ เห็นเพื่อน ๆ ที่ไปสมัครส่วนใหญ่ใส่สูทแอร์สีแดง เบอกันดี ครีม น้ำเงิน ชมพู คือทุกคนจัดเต็มจริง ๆ ซึ่งพอเราไปถึงที่โรงแรมที่นัดหมาย เปิดประตูเข้าไปคือ ทุกคนใส่สีแดงเยอะมาก เราเองก็เช่นกัน นาทีนั้นไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรค่ะ ก็รอสัมภาษณ์ ซึ่งคนเยอะมาก วัดจากสายตาวันนั้นก็ราว ๆ 800 คนเห็นจะได้ (หรืออาจมากกว่านั้น) เราก็ไม่มั่นใจเลยจนกระทั่ง มาถึงคิวที่เราสัมภาษณ์ เข้าไปมันจะเป็นห้องแล้วมีกรรมการอยู่สามโต๊ะ ซึ่งแล้วแต่ดวงเลยค่ะว่าเราจะได้สัมภาษณ์กับใคร
กรรมการจะถามคำถามทั่วไปจาก CV ของเราเลยค่ะ ซึ่งแค่มั่นใจ ยิ้มแย้มตอนตอบไปก็พอ แต่ว่าด้วยความเหนื่อยล้าที่รอคิวเนื่องจากคนเยอะ ทำให้เราได้สัมภาษณ์ 4 ทุ่ม ซึ่งพูดเลยว่าพลังงานหมดจริง ๆ รู้ตัวเลยว่าทำได้ไม่ดี และก็ไม่ผ่าน
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราเชื่อว่ามันต้องมีสักวันที่เป็นของเรา เราเลยเดินหน้าสมัครสนามที่ 2 ทันที!!
อันนี้ขออนุญาตพลีชีพตัวเองเอารูปวันที่ไป Pre screen ของสายการบินมาลงนะคะเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
ปล. ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศไว้เลย ขอโทษด้วยนะคะ ;-;
แสดงความคิดเห็น