รีวิวทริปวางแผนเอง 5 วันในอังกฤษ
สวัสดีค่ะ การรีวิวทริปนี้ สถานที่ต่างๆไม่เชิงสถานที่ห้ามพลาดแต่เป็นสถานที่ที่วางแผนกับพี่ชายไว้ว่าอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวตามความสนใจของพ่อกับแม่ point หลักๆของการไปอังกฤษครั้งนี้เป็นการไปเยี่ยมพี่ชายที่เรียนอยู่เป็นหลักค่ะ
Day1 10/04/65
หลักจากนั่งเครื่องบินมายาวนานถึง 12 ชม.ก็ได้ landing ถึงสนามบินที่ลอนดอนเรียบร้อย ตอนตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ที่สนามบินจะถามคำถามเล็กน้อย เช่น มาทำอะไร จะอยู่ที่นี่กี่วันเราก็ตอบไปตามนั้นเลยค่ะ มาเยี่ยมพี่ชายที่เรียนอยู่ที่นี่ จะอยู่เป็นเวลา 5 วัน
หลังจากรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว ให้ไปยืนรอตรงที่นัดกับคนขับรถชาวต่างชาติไว้ โดยคนขับรถเค้าจะถือป้ายชื่อเราไว้ค่ะ ต้องพยายามมองหาชื่อตัวเองไว้
หลังจากขึ้นรถเรียบร้อยเราก็โทรหา นัดเจอกับพี่ชายที่โรงแรม เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยก็พร้อมเที่ยวในวันแรกแล้วค่ะ
ที่แรกที่ไปเลยคือร้าน burger&lopster ค่ะ เนื่องจากคุณพ่อชอบกินกุ้ง lobster มาก พนักงานเป็นกันเองมากๆ ทั้งมาแนะนำเมนูอาหารและสอนแกะกุ้ง
หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จก็เดินช็อปปิ้งมาเรื่อยๆจนถึง covent garden ค่ะ เป็นศูนย์รวมทั้งอาหาร ของหวานหลายๆอย่าง โดยร้านที่ plan ว่าจะแวะไปคือ milk train ค่ะ เป็นร้านไอติมขึ้นชื่อในระแวกนั้น ไอติมที่เราสั่งเป็น strawberry sunday ค่ะ รสชาติถือว่าโอเคเลย คนเยอะมากแต่ถือว่าคุ้มค่ะ
หลังจากเดินเหนื่อยๆก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับโรงแรมพักผ่อน โดยให้พี่ชายสั่งข้าวเย็นง่ายๆมากินด้วยกันที่โรงแรมค่ะ
Day2 11/04/65
plan ในตอนเช้าที่วางไว้คือจะไปกินข้าวเช้าที่ร้าน breakfast club เป็นร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของอังกฤษที่มีหลายสาขามากๆในลอนดอนค่ะ อาหารรสชาติดี แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่น cinnamon ไม่แนะนำมากๆค่ะเพราะกลิ่นแรงมาก
หลักจากกินอาหารเช้าเสร็จก็นั่งรถไฟไปจนถึงไฮไลท์ของลอนดอนหรือ london eyes ค่ะ แต่เนื่องจากคนเยอะมากๆและสถานการณ์โควิดจึงไม่ได้ขึ้นไปนั่ง
หลังจากกินอาหารเที่ยงง่ายๆก็เดินทางไปถึงที่ไฮไลท์อีกที่นึงคือ british museum ค่ะ ก่อนไปจะต้องจองล่วงหน้าไว้ก่อนถึงจะเข้าได้นะคะ ต่อแถวนานประมาณครึ่ง ชม.ก็ได้เข้าไปแล้วค่ะ ด้านในกว้างมากๆ และมีให้เลือกชมประวัติศาสตร์ของหลากหลายวัฒนธรรมมากๆ ไฮไลท์หลักๆที่ชอบคืออียิปต์เลยค่ะ มีต้นกำเนิดของมัมมี่และซากอารยธรรมเก่าๆอีกเยอะแยะเลยค่ะ
เนื่องจากเดินในพิพิธภัณฑ์นานมากๆ ทุกคนหมดแรงกันหมดเลยกลับไปพักที่โรงแรม เก็บแรงไว้เดินชม london eyes ตอนกลางคืนและ buckingham palace ค่ะ
เวลา 2 ทุ่ม 44 นาทีได้เดินทางผ่านรถไฟใต้ดินมาถึง london eyes คนยังเยอะเหมือนเดิมแต่ไม่เท่าตอนเช้าค่ะ อากาศดีมากๆ วิวตอนกลางคืนแตกต่างจากตอนกลางวันมากๆค่ะ
แวะถ่ายรูปกันสักพักก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อไปถึงพระราชวัง buckingham ก่อนไปถึงพระราชวังต้องเดินผ่านสวนสาธารณะไปนิดหน่อย บรรยากาศน่ากลัวนิดๆเพราะเค้าไม่ได้เปิดไฟเลยแทบมองไม่เห็นทางเลย
แวะถ่ายรูปเสร็จก็กลับโรงแรม พักผ่อน เตรียมตัวเที่ยวต่อวันถัดไปค่ะ
Day3 12/04/65
ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อนั่งรถไฟไปเยี่ยมชมมหาลัยที่พี่ชายเรียนอยู่ที่ guildford ค่ะ นั่งรถไฟประมาณครึ่ง ชม.แล้วนั่งรถเมล์ต่อไปมหาลัยของพี่ชาย แวะชมหอพักและตึกเรียนต่างๆก็นั่งรถเมล์มาจนถึงตัวเมืองของ guildford พักกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารกรีกชื่อว่า theion ใครมาคือแนะนำมากๆค่ะ อาหารอร่อยมาก เป็น 1 ในมื้อที่ชอบที่สุดในทริปนี้เลย
หลังจากพักกินมื้อเที่ยงเสร็จก็นั่งรถไฟกลับลอนดอน เตรียมไปห้างขึ้นชื่อคือห้าง harrods ค่ะ ระหว่างทางไปได้แวะคาเฟ่ที่พี่ชายแนะนำมากคือ anya cafe ค่ะ พนักงานบริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ขนมกับชาคือดีมากๆค่ะ เค้กอร่อย ชากับกาแฟหอมมากๆ
เดินต่อไปยังที่หลักอีกที่คือห้าง harrods ในห้างคือตกแต่งหรู สวยงามขึ้นชื่อมากค่ะ แต่ในห้างเหมือนเขาวงกต หลงแล้วหลงอีก เดินช็อปปิ้งจนตกเย็นก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมตามเดิมค่ะ
Day4 13/04/65
ตื่น 7 โมงเช้าเตรียมตัวไปร้านอาหารที่จองไว้ตั้งแต่ก่อนไปอังกฤษคือร้าน coppa ค่ะ โดยจองไว้ 9 โมง
เดินทางถึง tower bridge ตอน 8 โมงกว่าๆเดินแวะถ่ายรูปบริเวณนั้นจนร้านอาหารเปิด ถึงเข้าไปแวะกินอาหารเช้าค่ะ
ร้าน coppa ถ้าเป็นมื้อเช้าจะไม่กำหนดราคาขั้นต่ำว่าต้องสั่งอาหารถึงเท่าไหร่ค่ะ แต่เมนูอาหารจะมีจำกัด เนื่องจากครอบครัวกินกันไม่ค่อยเก่ง จึงเลือกมามื้อเช้าค่ะ สั่งอาหารเบสิกๆมากิน บอกตามตรงว่ารสชาติอาหารไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะ มานั่งกินบรรยากาศก็คุ้มแล้ว เพราะร้านตกแต่งสวยมากๆค่ะ
หลังจากกินมื้อเช้า ซื้อของฝากแถวนั้นเสร็จก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อไปที่โบสต์ st.paul ค่ะ แวะชมโบสต์จนพอใจก็เดินข้ามสะพาน millenium bridge ไปเพื่อที่จะไปสถานที่ต่อไปคือ borough market ค่ะ เมื่อเดินจนสุดสะพานแล้ว หันหลังกลับมาถ่ายรูปจะได้วิวสวยๆจากทั้ง millemnium bridge และ st.paul ค่ะ
plan ต่อไปคือไปแวะทานอาหารเที่ยงที่ borough market ค่ะ หลักๆเลยคืออยากไปกินหอย oyster ค่ะ
กินอาหารเที่ยงเสร็จก็ถึงไฮไลท์ของวันคือ natural museum ค่ะ ที่ขึ้นชื่อเลยคือกระดูกปลาวาฬที่โถงใหญ่ค่ะ ด้านในมีจัดแสดงเกี่ยวสัตว์หลากหลายชนิดมากๆรวมทั้งการกำเนิดของโลกด้วยค่ะ ถ้าจะเดินให้ทั่วจริงๆคงต้องใช้เวลาหลายวันเลย
หลังจากเดินเที่ยวจนตกเย็นก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน ก่อนกลับได้แวะร้านเค้กชื่อ Feya พนักงานเป็นชาวเอเชีย บริการดีมากๆ ของหวานอร่อย ชาหอม ตกดึกออกมาแวะหาของกินที่ chinatown ที่ชอบมากๆคือไทยากิ หรือขนมปังรูปปลา อร่อยมาก ราคาไม่แพง
Day5 14/04/65
ได้จ้างคนขับรถชาวไทยมาพาเที่ยวนอกเมืองบ้างในวันสุดท้าย พี่คนขับรถใจดีมากๆ ที่แรกที่ไปเลยคือมหาลัยชื่อดังของอังกฤษหรือ oxford university มหาลัยที่เหมือนไม่ใช่มหาลัย แต่เป็นเหมือนเมืองเมืองนึงเลยมากกว่า สถานที่ ตึกต่างๆสวยมากๆ
หลังจากเดินเที่ยวมหาลัยเสร็จ คนขับรถก็พาไปเที่ยวหมูบ้านต่างๆอย่าง bibury , the slaughter และสุดท้ายก็เดินทางมาที่ถึงที่ช็อปปิ้งอย่าง bigester village เป็น outlets ที่มีแบรนด์เนมหลายร้านให้เลือกช็อปและเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้
สรุปแล้วทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนกันแบบงงๆและเร่งด่วนมาก แต่ทุกคนก็มีความสุขกันดี หลังแยกกับพี่ชายที่หน้าโรงแรม ก็เดินทางไปสนามบินเพื่อกลับประเทศไทยค่ะ หลังจากลงถึงประเทศไทยในหน้าร้อนด้วยเสื้อคอเต่าแล้วแทบเป็นลม พอเครื่องลงจอดที่สนามบิน ตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระก็เดินหาป้ายโรงแรมที่จะต้องไปกักตัว โรงแรมจะให้รถตู้พาไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาล พอตรวจเสร็จก็กลับไปรอผลที่โรงแรม ระหว่างที่ผลยังไม่ออก ห้ามออกจากห้องเลยไม่งั้นจะมีค่าปรับค่ะ หลังผลตรวจโควิดออก ถ้าไม่ติดก็สามารถกลับบ้านได้ตามปกติค่ะ
แสดงความคิดเห็น