เด็กบ้านนอกไม่เก่งอยากติดหมอ

เริ่มช้าไปนิด แต่พอไหว เปิดเทอมอ่านทบทวนทุกวัน วันละสองชั่วโมง ปิดเทอมอ่านวันละหกชั่วโมงทุกวัน แบ่งเวลานอน ออกกำลังกาย นั่งสมาธิให้ดี จุดสำคัญคือการบันทึกและทบทวน ม.5อ่านให้จบ ม.6 ลุยโจทย์ ทำได้ตามนี้โอกาสติดราวๆแปดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้น จุดสำคัญคือความต่อเนื่อง ร่างกายแข็งแรง สมองแข็งแรง ความจำจะดี ความฉลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมึนัยสำคัญ

การขยันอย่างโง่ๆจะทำให้พัฒนาช้ากว่าที่เป็น ซึ่งหลายคนมักจะติดหล่มตรงนี้ เช่น การอดนอนนานๆดึกๆเพื่ออ่านหนังสือ ประสิทธิภาพน้อย ความจำสั้น

อืมมม งั้นแนะนำรอบ 1 ไม่ก็ 2 ค่ะ ถ้ารอบ 1 อาจใช้เงินเยอะหน่อยเพราะต้องสอบทั้ง bmat ielts ซึ่งก็หมื่นกว่าเลย 2 ตัวนี้ แต่จะได้เปรียบกว่าคือคู่แข่งน้อย โอกาสติดสูงถ้าผลงานดีค่ะ ส่วนรอบ 2 หรือรอบโควต้าก็คู่แข่งน้อยกว่าเหมือนกันค่ะ มันจะมีพวกโครงการผลิตหมอต่างๆอย่างCPIRD ODOD ก็ไปศึกษาดูค่ะว่าจังหวัดที่อยู่มีมหาลัยไหนรับบ้าง หรือถ้าพุ่งเป้าไปที่ รอบ 3 เลย ม.4 ยังไม่สายค่ะ เราคิดว่ามีเวลาเยอะด้วย 3 ปี แต่ถ้าเริ่มจากไม่เก่งไม่ถนัดเลยคงต้องฝึกให้ชินมือก่อน ทำโจทย์ ทบทวนเนื้อหา ปูพื้นฐาน อย่างแรกเลยตัวเองลองไปลิสต์ว่าควรจัดลำดับการอ่านยังไงก่อนก็ได้ค่ะ เนื้อหานี้ๆต้องจบภายในนี้ๆ จะช่วยให้เราวางแผนการอ่านง่ายขึ้น ส่วนเรื่องเรียนพิเศษไม่อยากให้ซีเรียสเพราะหลายคนก็ติดทั้งๆที่ไม่ได้เรียนพิเศษ ลองอ่านด้วยตัวเองก่อนก็ได้ค่ะค่อยพิจรณาอีกทีว่าจะเรียนมั้ย เอาใจช่วยนะคะะะ ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ถ้าเราเริ่มทำ

เห็นที่น้องพิมพ์แล้วเห็นตัวเองในอดีต เดียวจะเล่าให้ฟังแล้วกัน จะบอกว่า น้องเริ่มตอนนี้อะดีแล้ว ไม่ต้องสนหรอกว่าจะช้าไปไหม แค่เริ่มก็ดีที่สุดแล้วล่ะ เมื่อก่อนตอนพี่อยู่ ม ปลาย พี่ก็แบบน้อง เชื่อไหมว่าสอบฟิสิกส์กลางภาค ม4 คะแนนพี่แบบว่าผ่านคาบเส้น ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะพอดีใจอยู่หรอก แต่พี่ไม่ไง วิชาอื่นคะแนนก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น พี่เด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน ไม่เรียนพิเศษเหมือนกัน แต่เรียนคอร์สเอนตอน ม6 อย่างเดียวแค่บางวิชา หลังจากได้คะแนนแค่นั้นพี่ก็กลับมาทบทวนตัวเองว่า จบ ม6 เราจะสอบที่ไหน สุดท้ายพี่ก็ตั้งใจจะสอบหมอ ตอนแรกพี่ตั้งใจจะอ่านแค่ฟิสิกส์ก่อนเพราะพี่ทำคะแนนได้ไม่ดีเนอะ พี่ทำโจทย์เยอะมากของแค่วิชาฟิสิกส์อย่างเดียว พอปลายภาคเทอม1คะแนนออกมา พี่ทำได้ดีขึ้นมาก พี่ก็เลยตั้งใจจะอ่านหนังสือจากเดิมอ่านแต่ฟิสิกส์ ก็เริ่มมาอ่านเลข ตอนปิดเทอม แล้วอ่านเลขจบ ม5 ตอน ม4 เทอม 2 หลังจากนั้นพอขึ้น ม5 เนื่องจากโควิดทำให้โรงเรียนเลื่อนเปิดเทอมไปนานมากๆ ก็คือเรียนออนไลน์ พี่ใช้เวลาว่างอ่าน ฟิสิกส์ ชีวะ เคมี ตามลำดับ และเก็บเนื้อหาหมดตอนใกล้ๆเรียนออนไซต์พอดี แต่ว่ามันก็ดีเนอะถ้าเราจำเนื้อหาทั้งหมดที่เราเรียนได้ ใช่ พี่จำไม่ได้55555555 พี่แบบเรียนไปงั้นๆให้มันจบเร็วๆ อ่านหนังสือติดต่อกันนานๆ นอนดึกๆ ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพเลย สุดท้ายคือจำได้ไม่ทั้งหมด หลังจากเรียนเนื้อหาเสร็จพี่ก็ทำโจทย์แยกบท บอกเลยว่าตอน ม4 ฟิตมาก พอมา ม5 แรงเริ่มหมดแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เราจะเหนื่อยนะ ให้พักบ้างแล้วค่อยกลับมาอ่านหนังสือ ทำโจทย์ไม่จับเวลาไปเรื่อยๆ ลืมก็กลับมาทวน พี่สอบ สอวน เหมือนกันแต่ว่าไม่ติดตั้งแต่ค่ายแรก พอขึ้น ม6 ก็ต้องเริ่มจริงจังเนอะเพราะว่าใกล้สอบแล้ว แต่พี่กลับใช้ชีวิตเหมือนนักเรียน มปลาย ธรรมดา ไม่ได้รีบร้อนอะไร จะคิดว่ากราฟการขยันของพี่มันสวนทางกับคนอื่นก็ได้ ปีพี่เขาบอกว่าเปลี่ยนแนวข้อสอบ จะยึดตามหนังสือ สสวท มากขึ้น ม6 ต้นเทอมพี่เลยเน้นอ่านพวกหนังสือ สสวท ของทุกวิชา ทำโจทย์ให้ครบ เก็บหมดทุกหน้า พี่มีลงคอร์สเอนบ้างเป็นบางวิชาที่ยากๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ยอมเรียนพิเศษ ปีพี่เป็นสอบ 4 รอบเนอะ กสพท สอบเดือน มีค เนอะมเป็นวิชาสุดท้ายที่ได้สอบ พี่ก็อ่านหนังสือบ้าง เล่นบ้าง พักบ้าง เหนื่อยก็พักแล้วกลับมาอ่านต่อ ถามว่าเครียดไหม ก็เครียด กลัวว่าจะสอบไม่ติด ใกล้ๆสอบสักสามเดือน ตอนนั้นพี่เริ่มลังเลว่าจะสอบหมอจริงๆไหม ตอนแรกว่าจะสอบวิศวะแทนด้วยซ้ำ แต่พอมองย้อนไปถึงความพยายามของเรา พี่เลยไม่ได้สมัครสอบความถนัดวิศวะ บอกตามตรงตอนนั้นเครียดมาก หนังสือคือไม่ค่อยได้อ่านแล้ว ทำแต่โจทย์ ทำทุกวัน ทั้งเชื่อมโยง แกทอิ้ง 9 วิชา ทำวนไปในทุกๆวัน ช่วง2เดือนสุดท้ายก่อนสอบเป็นช่วงที่พี่ทำข้อสอบจับเวลา พี่เอาข้อสอบเก่ามาทำ วันนึงทำข้อสอบของแต่ละปี คละวิชากันคือวันนึงจะทำประมาณ 5 วิชา แล้วจับเวลาต่ำกว่าเวลาจริง เช่น 90 นาทีจะจับแค่ 75 นาที ปริ้นกระดาษคำตอบมาฝน ปริ้นแผ่นจริงๆมาทำเลยคือไม่ได้ทำในไอแพด เดือนสุดท้ายคือเครียดมาก พี่เริ่มอ่าน pat1 pat2 เดือนสุดท้าย ตอนอาทิตย?ก่อนสอบ ที่พี่ตัดสินใจแบบนี้เพราะปีพี่สอบหมอไม่ได้ใช้ pat เนอะมแต่พี่แค่สอบเผื่อไว้เฉยๆ แล้วเราก็ฝึก 7 วิชามาดี พี่ว่าไม่น่าจะมีอะไร สุดท้าย การสอบรอบแรกผ่านไป gatpat ผ่านไปแล้ว ถามว่ารู้สึกยังไง ถ้าถามพี่พี่โอเคนะ ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ได้เยอะมาก แต่พี่ทำได้ แต่ก็นั่นแหละ อาทิตย์ต่อไปพี่ต้องสอบ 7 วิชา หลังสอบ 7 วิชาพี่ถึงกับเครียดแทบนอนไม่หลับ เพราะออกมาจากห้องสอบคือทำเลขไม่ได้เลย ทั้งๆที่ฝึกมาดีแล้ว พี่มั่นใจ แต่พอเข้าไปพี่ข้ามไปเยอะมากๆ อังกฤษก็ทำได้ไม่ดี เคมีก็ทำไม่ได้ พี่ทำพลาดเยอะมาก ถึงกับออกมาคุยกับเพื่อนนอกห้องสอบว่าคงไม่ได้เป็นหมอแล้วล่ะ แต่ตอนนั้นยังเหลือ กสพท เป็นด่านสุดท้าย ตอนแรกพี่กะจะไม่ไปสอบแล้วด้วยซ้ำ ด้วยคะแนน 7 วิชาที่พี่มโนขึ้นมาเองว่าได้น้อย สุดท้ายพี่ก็ไปสอบถึง มบู ชลบุรี นั่นทำให้พี่ยังมีหวัง เพราะว่าหลังจากทำข้อสอบแล้วพี่ทำใันได้ดีซะงั้น พี่ตั้งตารอวันประกาศคะแนนมาก กสพท จะประกาศก่อน พี่เปิดเว็บเข้าไปดูแล้วก็ดีใจมากๆ คิดกับตัวเองว่า ถึงแม้7วิชาเราจะได้น้อย แต่ว่า กสพท เราทำได้ดีมากๆนะ วันก่อนคะแนนออกคือนอนไม่หลับ พอคะแนนออกมา จากที่ตัวเองมโนไปว่าได้น้อย กลับได้เยอะกว่าที่มโนไว้อีก พี่ดีใจมาก แล้วก็ถึงวันจัดอันดับ พี่เลือกแพทย์ไปแค่อันดับเดียวที่พี่อยากเข้า อันดับสองและสามเป็นเภสัจ อันดับสี่พี่เลือกครู สุดท้ายพอประกาศผลพี่ก็ติดอันดับ1 ได้ตามที่หวังไว้เลย ถ้าน้องได้อ่านมาถึงตรงนี้พี่อยากให้น้องตั้งใจนะ สม่ำเสมอไว้ตลอด ไม่ต้องอ่านติดกันสิบ ชม แบบพี่ตอนแรกๆ แค่อ่านให้เราพัฒนาในแต่ละวัน แบ่งเวลาให้ดีเพราะพี่แทบไม่ได้ใช้เวลาใน มปลาย เลย รักษาสุขภาพด้วย สุดท้ายถ้าน้องทำดีที่สุดแล้วน้องไม่ต้องกังวลนะ เชื่อมั่นในตัวเอง หวังว่าที่พี่พิมพ์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้น้องมีแรงใจอ่านหนังสือต่อไปได้ พี่ไปเรียนต่อล่ะ

พยายามจบเนื้อหา(เฉพาะที่สอบ)ม.6 ให้ได้ตอนจบ ม.5

เวลาที่เหลือเตรียมสอบเข้าแพทย์อย่างเดียว

ใช้วิธีนี้กับลูกสาวที่พึ่งติดแพทย์ศิริราชครับ