Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คนโสดตัวคนเดียวเตรียมตัวที่อยู่อย่างไรในอนาคตครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าคงไม่ได้มีครอบครัวไม่มีคู่ชีวิตและไม่มีลูกหลาน อยากทราบว่าเก็บเงินกันอย่างไรหรือเปิดบัญชีธนาคารฝากเงินเป็นเดือนหรือครั้งกันละเท่าไหร่ครับ

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

เงินใครเงินมัน 4 ต.ค. 66 เวลา 14:18 น. 1

ก็ต้องเยอะที่สุดที่พอใช้ รู้ค่าใช้จ่ายรายเดือนตัวเองอยู่แล้วนี่ บวกค่าจางคนดูแลเข้าไป โชคดีก็เจอคนดูแลปกติ โชคร้ายอาจเจอพวกวิปลาศ

1
Canyonlox 4 ต.ค. 66 เวลา 22:08 น. 2

เรื่องความรู้ทางด้านการเงินในกลุ่มเฟสบุ๊คหรือพันทิปน่าจะเหมาะมากกว่าเว็บไซต์วัยรุ่นนะคะ ถ้าคุณอยู่ในวัยเริ่มทำงานพยายามวางแผนเส้นทางอาชีพดูค่ะ เงินเก็บส่วนมากจะนำไปลงทุนค่ะเพื่อเพิ่มผลผลิตตามกำลัง ไม่เน้นเสี่ยงมาก แต่ควรศึกษาค่ะ อย่างน้อย20-30%ของเงินเดือนควรเป็นเงินเก็บค่ะ แต่เก็บแบบลงทุนหรือเงินนอนก็ว่ากันไป อย่าลืมคำนวณถึงตอนเกษียณว่าจะใช้เดือนละเท่าไหร่และคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อด้วยค่ะ

1
White Frangipani 6 ต.ค. 66 เวลา 04:17 น. 3


คนโสดตัวคนเดียวเตรียมตัวที่อยู่อย่างไรในอนาคตครับ


สวัสดีค่ะ


เป็นประเด็นที่ดี ๆ ค่ะ


ตามที่เห็น ๆ มา มีโอกาสเห็น ๆ ผู้ที่ตัดสินใจมีชีวิตเป็นโสด คืออยู่คนเดียว ก็มีมากมายจริงด้วยสิในวันนี้


ช่วยออกความคิดเห็นนะคะ


ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าคงไม่ได้มีครอบครัวไม่มีคู่ชีวิตและไม่มีลูกหลาน


ตอบคุณว่า แม้ไม่อยากมีสามี หรือไม่อยากมีภรรยาก็มีลูกหลานได้ค่ะ


คือก็ขอเด็กมาเลี้ยงไงคะ ขอจากสถานเลี้ยงเด็กก็ได้ ก็ดี เพราะเด็กเขาต้องการผู้ปรกครองอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ดีทั้งผู้ขอเป็นผู้อุปการะ และดีต่อเด็กด้วย ที่เขาจะมีผู้อุปการะ


ซึ่งเด็ก ๆ นะ เมื่อเขาโตมา เขาก็น่ารัก น่าชัง น่าเอ็นดู เขามีค่า มีความหมายดี ๆ ต่อความรู้สึก ต่อจิตใจของผู้ที่เป็นพ่อ หรือแม่ที่ขอมาเลี้ยงอย่างแน่นอนค่ะ

(ความรักที่มีต่อเด็กนะ จะทำให้เราเห็นได้ว่าเด็กเขาน่ารัก น่าชัง เป็นสิ่งที่ชื่นอกชื่นใจ มีค่าต่อจิตใจของผู้เลี้ยงดู คนที่เลี้ยงดูมาจะรู้สึกได้ว่าเขาดี เขาเก่งตามที่เราเฝ้าอบรม ปลูกฝังสิ่งที่ดี ๆ แก่เขานะ จะทำให้ผู้เป็นพ่อ หรือผู้เป็นแม่มีความสุขได้ ไม่ต่างพ่อแม่ลูกโดยสายเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลดีของทั้งเด็ก และผู้เป็นพ่อ หรือผู้เป็นแม่ ผู้ที่ขอมาเลี้ยง คือจริงแล้วนะคนที่เป็นโสด ก็สามารถมีลูกได้ ถ้าอยากจะมีค่ะ)


และเดี๋ยวนะลูกที่ขอมาเลี้ยงเมื่อเขาโต เขาก็จะแต่งงาน และเขาก็จะมีหลานให้ ในที่สุดคนโสดก็มีลูก มีหลานได้ค่ะ ความรัก ความเมตตา ปรานีที่คนโสดมีให้กับเด็กที่ขอเขามาเลี้ยงนะคะ สามารถช่วยให้คนโสดมีลูก มีหลาน และมีความสุขในการมีลูกหลานได้ค่ะ


หรือในกรณีคนโสดที่ไม่ต้องการมีลูกหลาน ก็ได้นะ แต่น่ากลัวเหงามากนะ

แต่นะ คนเราต่างกันได้ บางคนโสด เพราะชอบอยู่คนเดียวจริง ๆ ลูกหลานไม่อยากมี แบบนี้ก็เป็นอีกทางเลือก


อยากทราบว่าเก็บเงินกันอย่างไรหรือเปิดบัญชีธนาคารฝากเงินเป็นเดือนหรือครั้งกันละเท่าไหร่ครับ


จะให้ดีที่สุดนะคะ คือการเก็บออม สะสมเพื่ออนาคตที่แน่นอน จะให้ดีนะ เงินส่วนหนึ่งที่เป็นรายได้ประจำ(บางคนอาาจะทำงานประจำ มีรายได้ประจำเดือน คือเงินเดือน)ที่เราต้องตั้งใจเก็บ และควรที่จะต้องตั้งใจเพื่อการเก็บออมจริงจัง ด้วยการตั้งฟังก์ชั่นสั่งระบบในเน็ตแบ็งค์ของเราโอนเงินจำนวนนั้นผ่านเข้าอีกบัญชีเก็บสะสมไปเลยค่ะ


คือโอนไปบัญชีเพื่อการสะสมเก็บไปเลยในทุกเดือนน่าจะดีที่สุด คือจะเป็นการสั่งเก็บสะสมแบบอัตโนมัติทุกเดือน ทั้งนี้เพื่อความแน่นอน เพื่อความมั่นคงในการเก็บสะสมที่แท้จริง


และอีกส่วนก็ซื้อหุ้นไป จะซื้อเพิ่มทุกเดือนยิ่งดี เพื่อได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องมีการศึกษาระบบดอกเบี้ย และกำไรให้ดีนะคะ และต้องตรวจสอบ คือต้องตรวจเช็คตลอดเวลา และที่สำคัญต้องซื้อหุ้นจากธนาคารน่าจะแน่นอนกว่า และมั่นคงเป็นที่สุด และมีความปลอดภัยด้วย เพราะธนาคารเขาเอาเงินของเราไปลงทุน เอาไปหมุน จะทำให้เงินเรามีความมั่นคง เช่นการซื้อหุ้นในรูปแบบ(การลุงทุน กองทุน หรือ ฟ้อนด์ - Fund) ซึ่งการลงทุน หรือ การซื้อหุ้นในแบบนี้ มีความปลอดภัยสูง และเป็นเงินสะสมมีกำไรดี และเป็นที่แน่นอน


และหากยังมีเงินเหลือ เป็นจำนวนเงินที่สามารถนำไปใช้หมุนได้ ก็ซื้อที่ดิน หรือซื้อบ้าน ซื้อแฟลต ซื้ออพาร์ทเม้นต์ หรือตึกพานิชย์ คือซื้อตามอัตราเงินที่เราจะซื้อได้ แบบนั้นนะคะ

และปล่อยให้เช่า การลงทุนเพื่อความแน่นอนในจุดนี้ จะมีรายได้เข้าบัญชีธนาคารซึ่งเป็นเงินเก็บสะสม เพื่อการใช้สอยยามแก่เฒ่าได้เป็นอย่างดี และที่ดิน บ้านเรือน ตึกต่าง ๆ นั้น ยังจะมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ไม่สูญหายไปไหน และเมื่อเราแก่เฒ่า หรือตายไป ลูกเลี้ยง ลูกบุญธรรม และหลาน ๆ เขาได้มีทรัพย์สมบัติที่มีค่า เพื่อใช้ดำรงชีวิตของเขาต่อไปได้อีกด้วย


คือวิธีนี้ดูจะเป็นการลงทุนที่แน่นอน และปลอดภัยสำหรับคนที่ต้องการเป็นโสดตลอดชีวิตแน่นอนค่ะ


และเมื่อมีเงินเก็บ มีเงินสะสม มีรายได้จากค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าตึก ค่าเช่าที่ดินนี้ หลั่งใหลเข้าบัญชีตลอดทุกเดือน ก็จะมีเงินเก็บที่เป็นปึกแผ่น ยามที่เจ็บป่วยเพราะแก่เฒ่าทำงานไม่ได้แล้ว ก็ไม่น่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะจะมีเงินค่ายา ค่าหมอ ค่าคนดูแล โดยที่ไม่เดือดร้อนลูกหลานอีกด้วยค่ะ

(คือไม่ต้องให้ลูกที่เราขอมาเลี้ยงต้องรับภาระอีกด้วยนะ แต่กลับที่จะมีทรัพย์สมบัติทิ้งไว้ให้เขาอีกด้วย)


และถ้าเรา(หรือผู้ที่...)รับราชการนะ เมื่อถึงวัยเกษียณ เรายังมีบำเหน็ด หรือบำนาญเพิ่มเข้ามาอีกเป็นรายรับมากมาย สรุปถ้าเราเก็บสะสมได้ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ เราก็จะมีเงินใช้จ่ายเหลือเฟือ และเมื่อยามแก่เฒ่า และในวาระที่เรายังคงแข็งแรงดี เราก็จะมีเงินพอเพียง ที่จะเดินทางท่องเที่ยวไป หรือการที่จะไปพักผ่อน หาความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต ณ.ที่ไหน ๆ ก็ไปได้ตามใจเลย เพราะเรามีเงิน และเรายังจะมีเงินเหลือเพื่อทำการบุญ ทำทาน เพื่อความสุขทางใจได้อีกด้วยค่ะ


คือตราบที่มีงานทำ มีเงินเดือน แม้จะเลือกเป็นโสด คือเลือกที่จะไม่มีคู่ชีวิต ก็สามารถทำได้ดีในวันนี้ ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดนะ แต่ต้องคิดจัดการความพร้อมเรื่องเงิน เพื่อความพร้อมเพื่อยามแก่เฒ่า เมื่อยามที่เราทำงานไม่ได้ นั้นดูจะเป็นสำคัญ และไม่ต้องตกเป็นภาระของใคร ๆ อีกด้วยค่ะ


คือคนที่เลือกจะเป็นโสดตลอดชีวิต ก็สามารถเป็นสุข และมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ ตามที่ต้องการ...จะเป็นค่ะ


คนโสดตัวคนเดียวเตรียมตัวที่อยู่อย่างไรในอนาคตครับ


ก็ตามที่ตอบมาทั้งหมดนี้ค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้เหล่าคนรักการเป็น อยู่ ในแบบโสดตลอดชีวิตทุกคนค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png

3
คุมะ 6 ต.ค. 66 เวลา 19:10 น. 3-2

ถ้าจะรับเด็กมาเลี้ยง รับหลานตัวเองมาเลี้ยงน่าจะดีกว่าค่ะ (ขอโทษค่ะแต่ลองย้อนอ่านข่าวอาชญากรรมบ้างจะดีเลย)

0
White Frangipani 6 ต.ค. 66 เวลา 21:03 น. 3-3

สวัสดีค่ะ คุณคุมะ


ถ้าจะรับเด็กมาเลี้ยง รับหลานตัวเองมาเลี้ยงน่าจะดีกว่าค่ะ


การจะรับหลานของตนเองมาเลี้ยงก็เป็นเรื่องดี ๆ จริงค่ะ


เห็นด้วยกับคุณค่ะ


แต่นะ บางครั้ง บางครอบครัวก็คล้ายมีกรรมค่ะ เพราะบางครอบครัวนะ สามารถมีลูกได้น้อยคนมาก อาจจะเพราะกรรมพันธ์ หรือว่าอาจจะเพราะพี่-น้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชาย หรือฝ่ายหญิง ที่เป็นพี่ของเราก็ตามทีนะ เมื่อเขาแต่งงานไปแล้ว เขาทั้งหลายก็ทำแต่งาน พากันทำงาน ไม่มีเวลาได้พบเจอกันบ่อย ๆ มั้ง จึงมีลูกได้น้อยคน(ดังคำที่หลาย ๆ คนเคยกล่าวขึ้นในเหตุการณ์ที่ว่า คนมีงาน คนมีเงินนะ เพราะอะไรจึงมีลูกน้อยคน หรือในบางรายไม่สามารถมีได้เลยด้วย ซึ่งเหตุเช่นนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ในบางครอบครัว)


ซึ่งแท้จริงแล้วนะ สาเหตุที่แท้จริงอาจจะเป็นเพราะกรรมพันธ์ หรืออาจจะเพราะเขาสามีภรรยาคู่ในแบบดังกล่าวนี้ มัวทำแต่งาน ทำให้ไม่มีเวลาพบเจอกันบ่อยนัก


ยิ่งในคู่ที่มีธุระกิจในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือในต่างประเทศนะ เขาทั้งหลายยิ่งไม่มีเวลาพบเจอกัน คล้ายต่างคนต่างทำงงาน ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุทำให้มีลูกน้อยคนโดยปริยาย และลูกที่เขามีอยู่น้อยคนนะ เขาก็ไม่ให้ใครแน่ ๆ ค่ะ เพราะเขาก็รักของเขาเนาะ


ลูกแบบนี้นะ พ่อแม่ของเขายิ่งรักมาก ตามใจมาก เพราะเขามีน้อยคน ยิ่งเขามีทุกอย่าง คือมีเงินทองด้วยเขาก็คิดว่าเขาเลี้ยงเองดีที่สุดค่ะ คือคล้ายเป็นดวงตา แก้วใจของเขาด้วยเช่นกันเนาะ การที่เราจะไปขอเขามา เขาก็คงไม่ให้ค่ะ


แต่นะ เด็ก ๆ ลูกของพี่สาว หรือลูกของชาย หรือของน้องสาว หรือไม่ว่าจะเป็นลูกของน้องชายของเราก็ตามทีนะ เขาก็เป็นหลานเราอยู่แล้วเนาะ


(ขอโทษค่ะแต่ลองย้อนอ่านข่าวอาชญากรรมบ้างจะดีเลย)


เมื่อตอนที่เจ้าเม้นต์เป็นวัยรุ่น อายุราว ๆ 14 -15 ปีเท่านั้น และเคยอยากจะขอเด็กมาเลี้ยง(ด้วยความที่ เป็นคนรักเด็กมาก ๆ ค่ะ อยากขอมาเลี้ยงแทนตุ๊กกตานะ ฮ่า ฮ่า คือเป็นความคิดของคนที่รักเด็กค่ะ และด้วยที่เรากลัวเขาจะโตไม่ทัน จึงอยากขอเด็กมาเลี้ยงตั้งแต่เราเองยังเป็นวัยรุ่นเลย อยากเป็นคุณแม่ยังสาวแบบนั้นมั้ง รู้สึกว่าเท่ดีนะ ไปไหน ๆ ก็เอาไปด้วยเขาใส่เป้เด็กไว้ที่หน้าอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นความคิดของวัยรุ่น วัยฮอร์โมนมันทำงาน วัยที่มีความคิดที่แปลก ๆ นะ ฮ่า ฮ่า และขอให้พ่อแม่เราเองช่วยเลี้ยงเขาให้เราด้วย ในฐานะคุณตา คุณยายของเขานะ ในช่วงที่เราต้องไปโรงเรียนนะ)


อยากจะทำแบบนี้ ตามที่กล่าวมานี้ และเพื่อน ๆ ก็เคยตักเตือนเช่นกันค่ะว่า ระวังนะ เดี๋ยวเด็กเขาโตมานะ เขาจะเชือดคอเรานะ เพราะเห็นมีข่าวออกมาบ่อย ๆ


ซึ่งเจ้าของเม้นต์คิดว่าจริงแล้วนะ น่าจะขึ้นอยู่ที่การอบรม การปลูกฝังมากกว่า ที่ว่า เด็กเขาจะเป็นสุข สงบ สันติ เป็นคนดีได้หรือไม่ หรือว่าเขาจะเป็นคนดุร้าย เอาแต่ใจ ฆ่าแกงได้แม้ผู้ที่เลี้ยงเขามา เข้าใจแบบนั้นค่ะ


ยังเข้าใจด้วยว่า หากเรารักเขาด้วยความบริสุทธิ์ เลี้ยงดูเขาด้วยการให้ความรัก ความอบอุ่น ห่วงใย ใส่ใจ เอื้ออาทรตลอดเวลา อยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลา บอกเขาบ่อย ๆ ว่าเรารักเขานะ รักมาก ๆ ด้วย เขาคือแก้วตา เขาคือดวงใจ กอดเขา จูบเขาบ่อย ๆ เขาจะรู้ได้ เขาจะสัมผัสได้ว่าเรารักเขาจริงจากใจ เขาจะสัมผัสได้ถึงความรัก ความเมตตาที่แท้จริง ที่เราให้เขา เขาจะเชื่อ เขาจะศรัทธา เขาจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เขาจะเป็นคนมีความสุข มีความสันติ และเป็นคนมีเหตุผล มีความร่มเย็นในจิตใจ


คือเขาจะเป็นคนดีได้ เพราะพลังแห่งความรักนะ สามารถให้ผลดีได้มากมาย ดังที่กล่าวมานี้ได้จริงค่ะ


ความรัก และการเลี้ยงดูในแบบนี้ จะทำให้คนเป็นคนดีได้ ในเปรอร์เซ็นต์ที่สูงมาก


และหลายสิ่ง หลายอย่างที่เป็นสิ่งที่ดี ๆ เราทำให้เขาเห็นเป็นแบบอย่าง เรานำพาเขาทำ การอบรมปลูกฝังให้เขารู้ได้ว่าผิด ถูก ชอบ ชอบ ชั่วดีนั้นเป็นเช่นไร เราแนะนำ เราชี้แนะเขา ทั้งหมดนี้นะคะ เขาจะซึมซับ เขาจะรู้ได้ ไม่จะต่างลูกคนอื่น ๆ ของพ่อแม่ที่แท้จริง ที่ได้เลี้ยงดูเขามาอย่างแน่นอนค่ะ

(หรือว่า ในเหตุการณ์ที่หลาย ๆ คน ที่โชคร้ายขอเด็กมาเลี้ยง เลี้ยงอย่างดีด้วย แต่เด็กนั้นก็ดีไม่ได้ นั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีอยู่เเป็นแก่นสารได้ในร้อยเปรอเซ้นต์ นั้นเป็นความจริงที่เกิดขึ้นได้ ด้วยเช่นกัน)


แต่นะ ความโชคดีอาจจะเข้าข้างคนส่วนใหญ่ที่ตั้งใจดี คืออาจะโชคดีที่มีลูกบุญธรรมที่ดี น่ารัก น่าชัง เป็นคนดี มีจิตใจดี มีศีลธรรม มีคุณธรรมได้ เป็นได้ดั่งดวงใจ แก้วตาของพ่อ และแม่บุญธรรม ที่ตั้งใจอบรมสั่งสอน ปลูกฝังเขามา เหตุเช่นนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ


คือในกรณีคนโสดที่อยากมีหลาน และอยากมีลูกนะคะ ดูจะเป็นอะไรที่อาจจะไม่ง่ายที่จะเลือก แต่นะ ไม่ตั้งใจ ไม่เสี่ยง ก็ไม่รู้เนาะ


แต่หากอยากมีลูกจริง ๆ ก็ต้องเสี่ยงค่ะ หากแต่ต้องเลี้ยงเขาด้วยใจรัก ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ นะ อาจจะเป็นผลดี ตามที่เราต้องการก็ได้ค่ะ เพราะโดยธรรมชาติในคนแล้วนะ หากไม่เป็นวาระกรรมเวรที่เขามีติดตัวมาจริง ๆ เด็ก ๆ เขาก็จะดีได้ ตามที่เราอบรม ปลูกฝังเขาได้ เพราะคนเรานะมีธรรมชาติในการปรับตัวตามสิ่งแวดล้อมได้ดีอยู่แล้ว


คือถ้าเลี้ยงเขามาอย่างดี คือดีจริง ๆ อย่างตั้งใจนะคะ เขาก็จะเป็นเด็กดีได้ค่ะ


ซึ่งทั้งหมดนี้ คนโสดสามารถนำมาพิจารณาได้ค่ะ ในการที่ว่าเป็นโสดนะ จะสามารถมีลูก-หลาน ด้วยการขอเด็กมาเลี้ยงได้ และจะดีหรือไม่?...ค่ะ


ขอขอบคุณข้อคิด...ของคุณคุมะ ที่ส่งเข้ามาให้ได้พิจารณา ในการขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกนะ ต้องคิด ต้องดูข่าวสาร และคงต้องชั่งใจ ตรึกตรองไว้ค่ะ(แบบนั้นนะคะ)


ซึ่งต้องเป็นข้อคิดที่ต้องคิดรวมไปด้วย ในการขอเด็กมาเลี้ยง ที่ต้องคิดด้วยเช่นกัน คือการคิด การวิเคราะห์ การตัดสินใจในกระทำทุกอย่างนั้น เป็นเรื่องดีนะคะ ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png

0
ถถถ 7 ต.ค. 66 เวลา 13:26 น. 4

บริจาคร่าง ตั้งใจว่าตายแล้วต้องไม่เป็นภาระใคร, กับเขียนโน้ตบอกตำรวจ/ มูลนิธิไว้ กรณีที่ป๊อกไปดื้อๆ คาบ้าน

1