น้ำเต้าหู้กับนมวัวอะไรให้สารอาหารมากกว่ากัน
ตั้งกระทู้ใหม่
น้ำเต้าหู้และนมวัวต่างก็มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ก็มีความแตกต่างบางประการ ดังนี้
น้ำเต้าหู้
- โปรตีน : น้ำเต้าหู้มีโปรตีนประมาณ 6-10 กรัมต่อแก้ว โปรตีนในน้ำเต้าหู้เป็นโปรตีนจากพืชที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย
- แคลเซียม : น้ำเต้าหู้มีแคลเซียมประมาณ 200-300 มิลลิกรัมต่อแก้ว แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน
- ไอโซฟลาโวน : น้ำเต้าหู้มีไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งบางชนิด และภาวะกระดูกพรุน
นมวัว
- โปรตีน : นมวัวมีโปรตีนประมาณ 8-10 กรัมต่อแก้ว โปรตีนในนมวัวเป็นโปรตีนจากสัตว์ที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย
- แคลเซียม : นมวัวมีแคลเซียมประมาณ 300-350 มิลลิกรัมต่อแก้ว แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน
- วิตามินดี : นมวัวมีวิตามินดี ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
- ไขมัน : นมวัวมีไขมันประมาณ 3-8 กรัมต่อแก้ว ไขมันในนมวัวมีทั้งไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัว
สรุป
น้ำเต้าหู้และนมวัวต่างก็มีโปรตีนและแคลเซียมสูง แต่นมวัวมีแคลเซียมสูงกว่าน้ำเต้าหู้เล็กน้อย นอกจากนี้ นมวัวยังมีวิตามินดีและไขมันมากกว่าน้ำเต้าหู้
ข้อดีของน้ำเต้าหู้
- ย่อยง่ายกว่านมวัว
- มีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่านมวัว
- มีไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งบางชนิด และภาวะกระดูกพรุน
ข้อดีของนมวัว
- มีแคลเซียมสูงกว่าน้ำเต้าหู้
- มีวิตามินดี ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
- มีไขมันที่หลากหลาย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
การเลือกดื่มน้ำเต้าหู้หรือนมวัว
ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล ผู้ที่แพ้นมวัวหรือต้องการลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวอาจเลือกดื่มน้ำเต้าหู้แทนนมวัว ในขณะที่ผู้ที่ต้องการได้รับแคลเซียม วิตามินดี และไขมันที่หลากหลายอาจเลือกดื่มนมวัวแทนน้ำเต้าหู้
แสดงความคิดเห็น