#ความรู้จากข่าว เครื่องบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส 'ตกหลุมอากาศ' ถ้าเจอแบบนี้ควรทำยังไง?
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา เครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ321 ลอนดอน-สิงคโปร์ ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเกิดเหตุตกหลุมอากาศ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 104 คน เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายชาวอังกฤษ วัย 73 ปี สาเหตุคาดว่าเกิดภาวะหัวใจวาย ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
โดยจากข่าวระบุว่า เครื่องบินดังกล่าว ตกจากเพดานบิน 3.7 หมื่นฟุต ลงมาที่ 3.1 หมื่นฟุต คิดเป็นระยะทาง 1.8 กม. ในเวลาเพียง 1 นาที ซึ่งต้องชมนักบินที่แก้สถานการณ์ได้ดี และลูกเรือที่คอยดูแลผู้โดยสารบนเครื่อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิทุกฝ่ายที่ช่วยลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็วด้วยค่ะ
และวันนี้มาดูกันว่า เครื่องบินตกหลุมอากาศได้อย่างไร เกิดจากอะไร เส้นทางไหนเกิดเหตุบ่อย และเราควรทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
1. การที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ เกิดได้ทั้งจาก Jet Stream ทั้งที่สภาพอากาศปกติดี หรือจากเมฆฝน จากลมพัดผ่านภูเขา หรือ Wake turbulence ที่เกิดจากเครื่องบินลำอื่น สรุปคือเกิดได้จากหลายสาเหตุ
2. ในปี 2565 องค์การบริหารการบินแห่งชาติ หรือ Federal Aviation Administration (FAA) ได้รับรายงานว่า มีผู้โดยสาร 4 คนและลูกเรือ 13 คน รวมทั้งหมด 17 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เครื่องบินตกหลุมอากาศ
3. ในขณะที่ตั้งแต่ปี 2552-2565 มีผู้โดยสารทั้งหมด 34 คนและลูกเรือ 129 คน หรือในช่วง 13 ปีมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการตกหลุมอากาศ 163 คน หรือประมาณ 13 คน/ปี
4. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินยืนยันว่า การตกหลุมอากาศไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น เครื่องบินก็จะเกิดเหตุตกหลุมอากาศบ่อยและรุนแรงขึ้น เนื่องจากโลกร้อน
5. โลกร้อน ทำให้ลมกรด (Jet Stream) ซึ่งเป็นลมที่มีกำลังแรงพัดอยู่ในชั้นบรรยากาศแปรปรวน ช่วงที่ความเร็วของลมกรดลดลง ทำให้ความหนาแน่นของมวลอากาศในบริเวณนั้นบางคน ทำให้เกิด "หลุมอากาศ"
6. นักวิจัยชี้ว่าอัตราการเกิดหลุมอากาศจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าภายในปี 2050 และอาจมีเครื่องบินต้องเผชิญกับหลุมอากาศที่รุนแรงมากขึ้นถึง 40% แม้ในขณะที่บินผ่านในบรรยากาศที่ปลอดโปร่งก็ตาม
7. "สภาพอากาศแปรปรวน หรือ หลุมอากาศ" เป็นปัญหาด้านความปลอดภัยในที่ทำงานที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับนักบิน เนื่องจากมองไม่เห็น เทคโนโลยีปัจจุบันตรวจไม่พอ วินาทีหนึ่งเราอาจกำลังนั่งสบายๆ แต่วินาทีต่อมาทุกอย่างอาจถูกโยนไปรอบๆ ห้องโดยสารก็ได้
8. ข้อมูลจาก Turbli ระบุว่าเส้นทางที่มีสภาพอากาศแปรปรวนเฉลี่ยมากที่สุดของโลกในปี 2566 คือเส้นทางระหว่างซานติอาโก ชิลี และซานตาครูซ เด ลา เซียร์รา ประเทศโบลิเวีย ซึ่งมีระยะทางยาวถึง 1,905 กิโลเมตร อันดับที่ 2 คือ อัลมาตี คาซัคสถาน และ บิชเคก คีร์กีซสถาน และอันดับ 3 คือเส้นทางหลานโจวและเฉิงตูในประเทศจีน
9. ผู้โดยสารที่เคยประสบเหตุให้คำแนะนำว่า เมื่อเครื่องบินเริ่มเอียงขึ้นและสั่น เราควรนั่งกับที่และรัดเข็มขัดทันที
10. แต่ถ้าเวลานั้นเรากำลังอยู่ในห้องน้ำบนเครื่องบินละก็... ให้รีบนจับที่มือจับในห้องน้ำ ใช้เท้าและมืออีกข้างดันหรือยึดผนังให้ตัวเราอยู่นิ่งที่สุด ถ้ายืนอยู่ในห้องน้ำให้รีบปิดฝาที่นั่งของโถชำระแล้วนั่งบนโถ แล้วนั่งตามที่บอกไป และความจริงแล้วห้องน้ำปลอดภัยกว่าในห้องโดยสารด้วยซ้ำ เพราะพื้นที่แคบ เพียงจับยึดให้แน่นก็จะช่วยให้บาดเจ็บน้อยลงได้
11. สุดท้าย องค์การบริหารการบินแห่งชาติ หรือ Federal Aviation Administration (FAA) ย้ำสุดๆ เรื่องการให้ความสนใจกับการสาธิตการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย ทำความคุ้นเคยกับคู่มือความปลอดภัยที่อยู่ในกระเป๋าที่นั่ง เชื่อฟังนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และคาดเข็มขัดที่นั่งไว้ตลอดเวลา
ที่มา
- กัปตัน Sopon Phikanesuan
- อาจารย์ Sonthi Kotchawat
- เพจบินแหลก
- ThaiPBS
- เรื่องวิทย์จี๊ดสุดๆ
- ภาพประกอบ freepik
1 ความคิดเห็น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?