ไม่อยากเป็นสิวใช่ไหม?! มาคลีนผิวง่ายๆ ให้หน้าใสห่างไกลสิว ด้วย 5 ไอเท็มราคาหลักร้อยกัน

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่าหนุ่มสาวชาวเด็กดี กระทู้นี้เราจะชวนเพื่อนๆ มาคลีนผิวหน้าให้สะอาดใสไร้สิวกวนใจกัน เราเชื่อว่าปัญหาผิวหน้าที่วัยรุ่นแทบทุกคนต้องเผชิญคือเรื่องสิว! ทั้งสิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวอะไรก็ไม่รู้ผุดขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ถ้าให้พูดตามตรงก็คงห้ามไม่ให้มันขึ้นไม่ได้โดยเฉพาะสิวฮอร์โมน แต่ที่พอจะทำได้ก็คือการป้องกันและบรรเทาไม่ให้มันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง 
 

อย่างการทำความสะอาดผิวหน้าเนี่ยเป็นวิธีช่วยลดปัญหาสิวแบบเบสิคเลยนะ ทำไมน่ะหรอ?...ก็เพราะทั้งวันเราเจอมลภาวะ ฝุ่นละอองสิ่งสกปรกที่ปะปนมากับอากาศมากมาย บางคนที่แต่งหน้าไม่ว่าจะแต่งเยอะหรือน้อย แค่ทาครีมกันแดดหรือแม้กระทั่งแป้งฝุ่น ก็ถือว่าบนผิวหน้าเราหมักหมมไปด้วยสารต่างๆ แล้ว แถมบางทีมือเราไปหยิบจับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้แล้วเอามาโดนหน้าอีก เท่ากับว่าวันๆ หนึ่งผิวหน้าของเราต้องเจอกับสิ่งสกปรกมากมาย เพราะอย่างนี้ไงการทำความสะอาดผิวหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด วันนี้เราจึงมาแชร์ไอเท็มและสเต็ปในการทำความสะอาดผิวหน้าของเราให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ว่าแล้วก็ตามไปล้างหน้าพร้อมๆ กันเลยจ้า 
 

(การเขียนในกระทู้นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและความเหมาะสมของสภาพผิวหน้าแต่ละคนด้วยนะจ้ะ)
 

มาเริ่มกันที่ STEP 1 เช็ดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ควรจะใช้คลีนซิ่งเป็นอันดับแรกในการทำความสะอาดผิว เพราะเป็นเหมือนการเช็ดสิ่งสกปรกที่ปกคลุมอยู่บนผิวหน้า

ไอเท็มชิ้นแรก ตัวที่เราใช้คือ “Bifesta Cleansing Lotion”   

ไอเท็มชิ้นที่ 2 “Maybelline Eye+Lip Make up Remover” 

ใช้ดี ใช้มาหลายขวดนับไม่ถ้วน เช็ดออกง่ายคราบสลายในพริบตา (เดี๋ยวๆ นี่เราพูดเมคอัพรีมูฟเวอร์กันอยู่ใช่ไหม ฮ่าๆ) ราคาไม่แพง เวลามีโปรโมชั่นนี่แทบจะโกยมาเลย มันจะมีหลายราคาหลายขนาด อย่างที่เราใช้  150 ml 299 บาท แต่เราซื้อตอนมีโปรโมชั่น เหลือแค่ 169 บาทเอง อู้ยยย คุ้มสุดๆ

วิธีการใช้ ต้องเขย่าให้ส่วนของน้ำมันและน้ำผสมเข้าด้วยกันก่อนแล้วค่อยหยดลงบนสำลี เราจะหยดให้มันมีขนาดเท่ากับดวงตา เวลาแปะลงบนเปลือกตามันจะครอบคลุมพื้นที่ที่เราลงอายแชโดว์ไว้พอดี แปะไว้สัก 10 วินาที เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่มันกันน้ำอย่างมาสคาร่าหรืออายไลเนอร์หลุดออกมาง่ายขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ รูดลงในแนวดิ่ง หลีกเลี่ยงการถูไปมาถ้าไม่อยากมีรอยตีนกาก่อนวัยอันควร ฮ่าๆ ถ้ายังออกไม่หมดก็ทำเหมือนเดิมแต่หยดน้อยลง แล้วก็แปะเน้นตรงจุดที่ยังเหลือคราบ 
 

เช็ดตาแล้วก็อย่าลืมเช็ดคิ้วด้วยล่ะ ผลิตภัณฑ์คิ้วสมัยนี้แสนจะติดทนซะด้วยสิ ถ้าเช็ดล้างไม่เกลี้ยงมีสิ่งตกค้าง สิวขึ้นที่คิ้วไม่รู้ด้วย ลำบากเวลาเขียนคิ้วต้องระวังไม่ให้โดนเจ้าสิวตัวการอีก
 

สุดท้ายคือการเช็ดลิปสติกที่ริมฝีปาก ถึงแม้จะไม่ได้ทาลิปสติกสีจัดจ้าน แต่ถ้าทาลิปมันที่มีสีหรือทินท์ก็ต้องเช็ดล้างทำความสะอาดนะจ้ะ 
 

ไอเท็มชิ้นที่ 3 ชิ้นนี้สามารถใช้แทนตัวที่ 1 และ 2 ได้เลยเพราะมันคือ “Biore Perfect Cleansing Cotton” แผ่นเช็ดเครื่องสำอาง 

ไอเท็มชิ้นที่ 4 “Shisedo Perfect Whip Foam” (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Senka แล้ว แต่ของเก่าเรายังใช้ไม่หมดอ่ะ)
 

วิปโฟมตัวดังจากญี่ปุ่น เนื้อโฟมนุ่มละเอียด ทำความสะอาดผิวหมดจด ล้างหน้าเสร็จผิวไม่แห้งเอี๊ยด (ไม่ใช่เสียงรถเบรคเนอะ ฮ่าๆ) วิปโฟมตัวนี้ถ้าใช้กับที่ตีฟองจะทำให้ได้ฟองที่ฟูฟ่องละเอียดยิ่งขึ้น แต่เราไม่มีก็เลยสร้างฟองจากมือน้อยๆ นี่แหละ ฟองอาจจะไม่ฟูเท่าแต่ก็ยังนุ่มอยู่ดี เวลาล้างเราจะใช้นิ้วค่อยๆ วนไปทีละจุดไล่ตั้งแต่หน้าผากลงมาจนถึงคาง เพื่อช่วยให้ฟองของโฟมเข้าทำความสะอาดรูขุมขนได้เต็มที่ พอวนจนครบทั่วทั้งหน้าก็ล้างด้วยน้ำสะอาดตาม ราคา 290 บาท แต่เห็น eveandboy ขาย 159 บาทนะ เจ้า Senka อ่ะ 
 

แค่ 2 สเต็ปง่ายๆ ก็ช่วยให้ผิวสะอาดห่างไกลสิวได้ในระดับนึงแล้ว แต่เรายังมีอีก 1 ไอเท็มที่อยากแนะนำ ซึ่งไม่ได้จัดอยู่ใน 2 สเต็ปแรกก็เลยขอจัดอยู่ในสเต็ปเสริมแทนแล้วกัน 
 

- - - - - - - - - - - - - -

 

ตัวนี้เพิ่งลองใช้ได้ไม่นาน แต่ชอบเลยแหละ เป็นมาส์คแบบพอกทิ้งไว้ เนื้อครีมสีเขียวมีกลิ่นมิ้นท์ (คล้ายๆ กลิ่นยาสีฟัน ฮ่าๆ)
วิธีการใช้ ทาบนผิวจนทั่วหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปากไว้ รอจนมาส์คแห้งก็ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่น ช่วงที่มาส์คมันจะเย็นๆ ผิว ตรงนี้บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่เราชอบนะ ฮ่าๆ หลังจากมาส์ค ผิวสะอาดสดชื่นเรียบเนียนขึ้นนิดนึง เหมือนมันช่วยดูดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขนอ่ะ ต้องลองใช้ไปสักพัก อยากรู้ว่ารูขุมขนจะกระชับขึ้นไหม ราคา 165 บาท หลอดนึงน่าจะใช้ได้นานเลยทีเดียว



หมดแล้ว 5 ไอเท็มทำความสะอาดผิวหน้าราคาหลักร้อยของเรา อาจจะไม่ได้ถูกเวอร์แต่เราว่ามันก็ไม่แพงนะเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ ปริมาณและความคุ้มค่า เรามีหน้าเดียวก็ต้องลงทุนดูแลรักษากันหน่อย ดีกว่าปล่อยให้ผิวพังแล้วค่อยกลับมาแก้ อันนั้นน่าจะงบประมาณบานปลายกว่าอีกนะ หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกผลิตภัณฑ์ไปใช้ได้ตรงกับความต้องการกันเนอะ เจอกันใหม่กระทู้หน้า ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ