Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

MU routine หน้าใส ห่างไกลปรอท

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา มมศท100 (MUGE 100) โดยกลุ่มโครงงาน 62-253 : MU routine หน้าใส ห่างไกลปรอท

แน่นอนว่าความขาวใสไร้ริ้วรอยเป็นเรื่องที่สำคัญของทุกเพศทุกวัยก็ว่าได้ เพราะอากาศของไทยนั้นแผดเผาผิวของเราจนเกิดผิวคล้ำ รวมถึงปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งทุกคนคงอยากที่จะกำจัดมันออกไป หลายคนคงนึกถึงครีมหน้าขาวหลากยี่ห้อที่ตนเคยเลือกใช้ แต่รู้หรือไม่ว่าครีมพวกนั้นอาจมีสารอันตรายผสมอยู่!!! ซึ่งอาจก่อนให้เกิดอาการแพ้ จากผลสำรวจพบว่ามีผู้ที่เคยใช้เครื่องสำอางชนิดทาบริเวณใบหน้าแล้วเกิดอาการแพ้มีมากถึง 49.4% แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีสารตัวไหนในครีมที่อันตรายบ้าง แล้วมันอันตรายยังไงในเมื่อทาแล้วมันก็หน้าขาวเร็วดีนี่นา??? และเรามีวิธีเลือกครีมอย่างไรให้ปลอดภัย ต่อจากนี้มีคำตอบให้ค่ะ <3


สารที่ อย. ประกาศห้ามใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เช่น สารปรอท สารไฮโดรควิโนน สเตียรอยด์ และกรดเรติโนอิก เป็นต้น มาดูที่สารแต่ละตัวกันเลย

>>> สารปรอท (Mercury) <<<

สารปรอทเป็นสารโลหะหนักมีพิษ โดยสารปรอทที่ใช้อยู่ในรูปของไดวาเลนซ์แคทไอออน [mercuric (II) ion, Hg2+] จะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ทำให้มีการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ลดลง จึงช่วยให้สีผิวขาวขึ้น นอกจากนี้ปรอทยัง มี ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ชนิด staphylococcus จึงป้องกันสิวได้ด้วย

- สารปรอทอันตรายอย่างไร??? -
1. ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีผื่นแดง
2. ทำให้ผิวของเราไวต่อแสง หรือพูดง่ายๆคือผิวบาง เราจะรู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง
3. เกิดจุดดำ มีรอยคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดฝ้าถาวร
4. เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
5. ส่งผลต่อทารกในครรภ์ ทำให้เด็กสมองพิการและปัญญาอ่อน

- วิธีในการทดสอบว่าครีมนั้นอาจมีสารปรอทปนเปื้อน -
1. “ขาวไว!!” ถ้าเห็นคำนี้ในโฆษณาระวังไว้เลย ครีมนั้นอาจมีส่วนผสมของสารปรอทได้ ซึ่งอาจจะทำให้หน้าขาวไวในช่วงแรกก็จริง แต่จะส่งผลเสียตามมาแน่นอน!!
2. ถ้าอยากลองทดสอบดูง่ายๆ ก็มีวิธีเหมือนกันนะ เช่น ใช้ Mercury Test Kit-Cosmetics ที่สามารตรจหาสารปรอทได้ง่ายๆในขั้นตอนเดียว ซึ่งคิดค้นโดย รศ.ดร.พลังพล คงเสรี อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพียงแค่ตักครีมใส่ในช้อนตัวอย่าง และหยดน้ำยาทดสอบลงไป รอแปปเดียว ดูผลที่ตามมาถ้าเกิดเป็นสีชมพูแสดงว่ามีสารปรอทอยู่ในครีมนั้น


>>> สารไฮโดรควิโนน <<<

สารไฮโดรควิโนนเป็นสารเคมีที่นิยมนำมาทำเครื่องสำอางชนิดทาหน้า เนื่องจากเห็นได้เร็ว ไฮโดรควิโนนออกฤทธิ์โดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง หรือที่เรียกอีกว่า เมลานิน จึงทำให้ผิวหน้าขาวขึ้น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชนิดทาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนนั้นควรใช้กับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า การใช้เครื่องสำอางชนิดทาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เนื่องจากสารไฮโดรควิโนนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางชนิดทาที่วางจำหน่ายทั่วไป

- สารไฮโดรควิโนนอันตรายอย่างไร??? -
1.ผิวอ่อนแอ ผิวแดง ลอก เกิดอาการระคายเคืองง่าย
2.เมื่อหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไฮโดรควิโนนอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดภาวะ Rebound melisma มีผลทำให้ฝ้ามีสีคล้ำกว่าเดิม
3.เกิดฝ้าเส้นเลือด (Telangiectatic Melasma) เส้นเลือดใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว การโดนความร้อนส่งผลให้หน้าแดงมากขึ้น ช่วงบ่ายหน้าจะคล้ำลง การเกิดฝ้าเส้นเลือดยังพบได้ในผู้ใช้เครื่องสำอางชนิดทาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ และสเตียรอยด์
4.หน้าด่างถาวร
5.เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

- ใส่เท่าไหร่ถึงอันตราย -
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ผสมสารไฮโดรควิโนนในการรักษาฝ้าได้ไม่เกิน 2 % ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชนิดทาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนในปริมาณสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดจะเป็นอันตรายต่อผิวหน้า คือ 3-5%

- จะรู้ได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์มีสารนี้อยู่ -
สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้โดย
การใช้ผงซักฟอกเข้มข้น โดยใช้ผงซักฟอกละลายในน้ำปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ได้ผงซักฟอกเข้มข้น นำน้ำผงซักฟอกที่ได้มาหยด ลงบนเครื่องสำอางชนิดทาที่ป้ายบนกระดาษทิชชู รอเวลาสักครู่หากสีเครื่องสำอางเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เครื่องสำอางที่นำมาทดสอบอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน
การทดสอบไฮโดรควิโนนด้วยน้ำผงซักฟอก เป็นการทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อความแม่นยำและถูกต้อง ควรใช้Test kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทดลองซ้ำหากยังพบผลบวก ควรเก็บตัวอย่างการทดสอบส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อให้ตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือที่จำเพราะ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง กระทรวงสาธารณสุข โทร 02-590-7441


>>> วิธีการเลือกเครื่องสำอางอย่างปลอดภัย <<<

1.ซื้อเครื่องสำอางจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน เชื่อถือได้ เพราะหากเกิดปัญหาสามารถติดต่อผู้รับผิดชอบได้
2.ซื้อเครื่องสำอางที่มีฉลากภาษาไทย โดยฉลากของเครื่องสำอางต้องใช้ข้อความภาษาไทยที่มองเห็นและอ่านได้ชัดเจน โดยอย่างน้อยต้องระบุข้อความอันจำเป็น ดังนี้
2.1.ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้าของเครื่องสำอาง
2.2.ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง
2.3.ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต เครื่องสำอาง เรียงลำดับตามปริมาณของสาร
จากมากไปหาน้อย
2.4.วิธีใช้เครื่องสำอาง
2.5.ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต กรณีเป็นเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศ / ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และ
ชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต กรณีเป็นเครื่องสำอางนำเข้า
2.6.ปริมาณสุทธิ
2.7.เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต
2.8.เดือน ปีที่ผลิต หรือ ปี เดือน ที่ผลิต
3.ซื้อเครื่องสำอางที่มีภาชนะบรรจุหีบห่ออยู่ในสภาพดี ไม่แตกรั่ว และมีการเก็บรักษาอย่างดี ไม่อยู่ในที่ร้อนชื้นหรือโดนแสงแดด
4.อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง


อ้างอิง :
https://med.mahidol.ac.th/ramapharmacy/th/knowledge/general/04072016-2055-th
https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/14/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%AA%E0%B8%A1-%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%99/

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น