เลือดประจำเดือนคืออะไร?
เลือดประจำเดือนคือเลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมาจากผนังมดลูกของผู้หญิง เกิดขึ้นประมาณทุก 21-35 วัน แต่ละรอบจะอยู่นาน 3-7 วัน เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดยเมื่อไข่ตกและไม่ได้รับการผสมกับอสุจิ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนเกิดการหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน
เลือดประจำเดือนมีสีน้ำตาลคล้ำหรือสีแดงสด อาจมีลิ่มเลือดปนออกมาบ้างเล็กน้อย โดยปริมาณของเลือดประจำเดือนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-35 มิลลิลิตรต่อรอบเดือน
ประจำเดือนเป็นกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะมีอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง อารมณ์แปรปรวน หรือมีสิวขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมามากผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือนเพิ่มเติม:
- ประจำเดือนครั้งแรกเรียกว่า ปจด. มักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุ 12-14 ปี
- ประจำเดือนจะหยุดลงเมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุ 45-55 ปี
- ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการวัยทองก่อนกำหนด ซึ่งหมายถึงอาการวัยทองที่เริ่มมีอาการก่อนอายุ 40 ปี
การดูแลตนเองในช่วงมีประจำเดือน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- ใช้ผ้าอนามัยหรือผ้าอนามัยแบบสอดที่เหมาะสม
หากมีอาการผิดปกติในช่วงมีประจำเดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
แสดงความคิดเห็น