ชีวิตเปลี่ยน เพราะ คำว่า ''เด็กซิ่ว'' กับ ''การเรียนภาคพิเศษ''
ตั้งกระทู้ใหม่
หลังจากที่เริ่มเก็บเงินไปเรื่อยๆ มหาลัยแห่งนี้ก็เปิดสอบ ให้นักเรียน เข้าสอบและผมก็ผ่าน ไม่ผ่านก็แปลกล่ะ มีคนสมัครสอบ 150 คน มีคนมาสออบ 105 คน จนหลายๆคนเอ่ยว่า กามั่วก็สอบผ่าน 5555+ แต่นั้นไม่สำคัญเท่าไหร่หากคุณเข้าไปและไม่ตั้งใจเรียน ไม่ใส่ใจการเรียน ไม่สนใจการเรียน ก็เท่านั้น
เทอมแรกที่เข้าไปเรียน เรียนตามปกติ วันธรรมดาก็ทำงาน วันเสาร์-อาทิตย์ เวลาแสนหวานของการพักผ่อนหย่อนใจ แต่คงไม่ใช่สำหรับผม เรียน ทั้งวันตั้งแต่ 8.00-18.00 เรียนสิบชั่วโมง สองวัน มันเหนื่อยสุดๆล่ะ กลับมาบ้าน วันอาทิตย์จากเลิกเรียนเนี้ย นอนเลยจร้า ไม่อาบน้ำอะไรเลย ตื่นมาอีกที เที่ยงคืน ก็ลุกไปอาบน้ำเล่น มือถือ สัก 2 ชั่วโมงและนอนตื่นอีกที 7.45 ก็กินข้าวและทำธุระส่วนตัว 9 โมงไปทำงาน เลิกงาน 17.30 กลับมาก็กินข้าวและทำธุระส่วนตัว พอถึงเวลา 19.30 ต้องมานั่งทำการบ้าน ทำจนถึงเวลา 20.30 ทำทุกวัน จ-ศ เลย ถยอยทำไปวันละนิดๆ ไปเรื่อย พอถึงเวลาใกล้จะสอบ แม่ มาบ่น อ่านหนังสือ อ่านหนังสือ แต่ก่อนนะอยู่ที่มหาลัยต่างจังหวัดนะ ไม่ค่อยได้อ่านเลย เพราะไม่มีใครมาคอยบ่นหรือว่าอะไรให้ฟัง แต่ตอนเนี้ยต้องอ่านล่ะดีกว่า โดนบ่น แต่พออ่านไปมันก็เริ่มรู้สึกว่ามัน สนุก โอเค อ่านไปได้ความรู้ ไป ผิดกบับความรู้สึกที่อ่านหนังสือตอนที่อยู่ที่มหาลัยเดิมที่ อ่านไปสัก ห้าบรรทัดแล้วปิดหนังสือ แต่ตอนนี้อ่านเยอะเป็น สิบๆ หน้า ไม่ใช่สิเป็น ร้อยเลยก็ว่าได มันเรียนตั้ง 5 วิชา ต่อ เทอม ถือว่าน้อยกว่ามหาลัยเดิมนะ ที่เรียน 7 วิชาต่อเทอม แต่ก็อย่างว่าภาคพิเศษเวลาเรียนมันจำกัด แต่วิชาแต่ละอันที่เรียนไปมันไม่ได้ง่ายเลย พูดตรงๆยากกว่า มหาลัยเดิมอีก แต่ ผลการเรียนในเทอมแรกที่ได้มาได้เกรดเฉลี่ยน 3.2 ตัว โอ้วๆ แถบจะตะลึง เป็นไปได้ เกรดของฉันเยอะขนาดนี้เลย วิชาแต่ละวิชาที่สอบก็ยากกว่ามหาลัยเดิมแท้ๆ เรียนก็เรียน ทำงานก็ทำงาน ทำงานเสร็จยังต้องมาทำการบ้าน บ้างครั้งทำการบ้านลากยาวไปตี 1 และจากเป็นเด็กหลังห้องตอนนี้กลายเป็นเด็กหน้าห้องไปแล้ว โฮะๆ และจากคนที่ไม่กล้าแสดงออก อาจารย์ถามไรมา นักศึกษาพอจะอธิบายเรื่องนี้ได้ไหม ผมเนี้ยตอบเลยครับ แรกๆ ก็กลัว กลัวทุกคนมองว่าเป็นตัวประหลาด แต่หลังๆ ชินล่ะ ใครจะมองอย่างไงก็ข่าง ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรนิ และสอบก็หนักมากๆ เพราะ ภาคปกติสอบวันละวิชาว่าหนักแล้วนะ แต่ภาคพิเศษเนี้ยสอบวันละ 3 วิชา โอ้แม่เจ้า แต่ก็ผ่านมาได้สวยงาม 555+
ทำงานเอง จ่ายค่าเทอมเองดีกว่า เราคิดว่าเราได้ดีเพราะรู้จักคำว่ายากลำบากคืออะไร บางอย่างหน่ะ มันดีนะบางคนอาจจะคิดว่ามันน่าเบื่อ น่ารำคาญ อย่างการที่แม่บ่น หรือ ใครๆ บ่นให้เราไปอ่านหนังสือซะ ทำการบ้านซะ ตั้งใจเรียนซะ ผมว่ามันไม่ดีหรอกที่จะไปโกรธหรือเกลียดคำพูดเหล่านี้ คนที่หวังดีกับเราทำนั้นแหละที่จะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ ^^
เกรดเทอมล่าสุดปัจจุบัน 3.2 เฉลี่ย เทอม 1 3.2 เทอม 2 3.2 เฉลี่ยนได้ 3.2 ถึงจะได้เยอะแต่ความ Active ต้องมีเท่าเดิม ไม่ใช่ได้เยอะ แล้ว คิดว่าแน่ คงไม่ได้หรอก ประมาทเกินไปมันไม่ดีหรอก
#เกิดมาไม่เคยได้เกรด 3 กลับเขาเลย ตอนเรียนมัธยมปลาย ได้เกรดเฉลี่ยนรวม 2.32 เฮะๆ
# ณ ตอนนี้ยังแฮปปี้ดี จากที่เคยบ่น ชีวิตบัดซบ เปลี่ยนเป็นพูดว่า ชีวิตดีดี้ ไปล่ะ 5555
15 ความคิดเห็น
สุดยอดมากเลยนาย
โอโหเยี่ยมมากๆๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
พี่นิ่เก่งเนาะ
เรียนอะไรยังไงที่ไหนครับขยายหน่อยครับ
คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เปลี่ยนตัวเองใหม่ซะล้ะ อิอิ จะได้ชีวิตดี๊ดี
ผมเข้าใจฮ่ะ เรียนไปทำงานไปเหนื่อยมาก
จากที่เคยมีเวลา ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ หายไปหมดเลยกลับมาบ้านแทบสลบ
แต่ก็รู้สึกดีที่เราได้ พึ่งพาตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง ครับ สู้ๆครับ
โหยยยยย พี่สุดยอดอะ ไอดอล 55555555
สู้ต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้
อยากทราบรายละเอียดสถานที่เรียนได้ไหมคับ
เรายอมใจนายอะ ปลื้มมาก
เราเองก็ดรอปเรียนปี 2 เทอม 2 จาก กทม. กลับมาเชียงใหม่
แต่โชคดีหน่อย เราโอนย้ายหน่วยกิตเข้ามช.ได้ แต่จะจบช้า กลายเป็นเรียน 5 ปี ใสๆ ค่ะ
ผ่านไปหนึ่งปีละ
แต่เราก็ยัง เรียนๆ เล่นๆ อะนะ ไล่ตามเก็บตัวทั่วไปให้ทัน
เทอมใหม่นี่คงได้ลุยตัวเมเตอร์เต็มซักที
เราเองก็อยากลงภาคพิเศษ จะได้ไปทำงานด้วย
แต่แม่ไม่ให้เรียน สู้ค่าเทอมไม่ไหว เหอๆ
ที่สุดแล้วเราก็ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่..
เราเลยจะบอกว่า
เราอ่านเรื่องของนายแล้วเรามีกำลังแรงใจฮึดสู้เรื่องเรียนขึ้นมาทันที
ขอบคุณนะ :)
สู้ต่อไปนะ รักษาระดับ รักษาความฝันให้ได้
อนาคตนายไม่มืดมนแน่ๆ มีทั้งประสบการณ์ ทั้งความรู้ แล้วก็ยังความคิดอีก
ยอดเยี่ยมไปเลยยยย
เข้าใจอารมณ์ครับ
ติดเที่ยว ติดเพื่อน
ผลโดนไทร์ 2 รอบ
ผิดหวังท้อแท้มากครับ
แต่ครอบครัวยังให้โอกาส
กับการเรียนครั้งที่ 3
ตอนนี้จะขึ้นปี 3 ละ
เกรดเฉลี่ยรวม 3.9 ครับ
ถือว่า ทำตัวไถ่ความผิดกับ 2ครั้ง
ที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ
สุดยอดดดด
จริงๆเราเป็นคนนึงที่เรียนเชียงใหม่แล้วซิ่วมาเรียนใน กทม และไม่เคยขอเงินพ่อแม่เรียน
ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย เรายืมเงินกู้ กยศ ค่ะ และหางานสอนพิเศษให้เด็ก เราอยู้ได้โดนไม่ขอเงินพ่อแม่แม้แต่บาทเดียว เราชื่นชมจขกท และคนที่ไม่ขอเงินพ่อแม่เรียน จริงๆนะเราจะรู้ว่าเงินแต่ละบาทมันยากลำบากขนาดไหนก็ต่อเมื่อเราหามันด้วยตัวเราเอง ต้นทุนชีวิตเราไม่เท่ากัน ทางเดินของเราอาจไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเหมือน เด็กส่วนใหญ่ ที่มีพ่อแม่ส่งเสียให้ทุกๆอย่าง แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไปค่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต และเป็นการฝึกตัวเองไปด้วย
สู้ๆค่ะ
ผมนี่เด็ํกซ่อง
มันคือผลตอบแทนของความพยายามค่ะ ยินดีด้วยนะคะ
เจ๋งเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?