Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เครียด #9วิชาสามัญกับการติดทันตะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ระบายๆๆๆๆ

วันนี้ทำข้อสอบ 9 วิชาแล้วเราแบบ เซงมากเลย T_T
เราเช็คคะแนนฟิสกส์ จากที่เพื่อนแชร์คำตอบกัน บวกนับข้อที่ทำได้
ได้ 32 คะแนน อืม 8 ข้อนั่นแหล่ะนะะะ
ส่วนชีววิทยา คิดว่าน่าจะได้ 60 คะแนน
ไทย 80 ละกัน
ส่วนสังคม ... 60 ก็ดีใจละ

คะแนน ความถนัดแพทย์เราได้ 18.9
ยังมีหวังจะติดทันตะอยู่มั้ยตะ เครียดมากจริงๆ รู้ตัวเองว่าไม่เก่งเลขกับอังกฤษ
แต่จะสู้นะ
ละเลือก ทันตะ ในกทม. หมดเลย ฮืออ TOT

ตั้งกระทู้นี้หาเพื่อน ใครเป็นแบบเรามั่ง
เรามาสู้ไปด้วยกันนะเพื่อนๆ #dek59




เยี่ยม

แสดงความคิดเห็น

5 ความคิดเห็น

bear.n 26 ธ.ค. 58 เวลา 19:52 น. 1

อยากเข้าทันตะเหมือนกันเลย เราก็เป็นแบบแกอ่ะ คิดคะแนนได้ประมาณนี้เลย
(คะแนนความถนัดน้อยกว่าด้วย) สู้ๆ 

1
NanSunshine 27 ธ.ค. 58 เวลา 18:00 น. 3

เราก็เหมือนกันเลยทั้งคะแนนความถนัดกับวิชาสามัญ ตอนนี้ทำใจจจจแต่ก้ยังหวังอยู่
1
мυиιch 27 ธ.ค. 58 เวลา 18:49 น. 4

555555 เรานี่เลือกหมอหมดเลย
ละคือฟิสิกส์ก็แย่อะ ผิดแบบโง่ๆมึนๆเองเยอะมาก

ก็สู้นะ ไทยกับสังคมเราหวังประมาณนั้นแหละ 5555 ส่วนวันนี้....
ฮือออ เฟลมากกับเลขและเคมี 
แบบเลขเราอ่อนมาก 5555555 ทำไม่ค่อยได้เลย นับๆดูเพิ่งจะมีประมาณ20เอง //สลดใจ เคมีก็ทำไม่ทันอะ แบบรู้สึกแย่มาก อีกครึ่งชมหมดเวลานี่เพิ่งทำได้ประมาณ30ข้อ จะร้องไห้ตอนทำ ละยิ่งลนอีก จบกัน...
เราหวังพึ่งอังกฤษมากกกก วิชาช่วยสุดละ อยากจะเจียดคะแนนอิ้งไปช่วยเลขจริงๆ
ดูบ่น-_- แอบผิดจุดประสงค์ 5555555
จขกทอย่าเพิ่งเครียดไป เราทำดีที่สุดละอะ จะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับกันไป (เราก็ด้วย..) ถ้าไม่ได้จริงๆยังไงก็ต้องปีหน้าแหละ ถ้าใจเรามันอยากจะเป็นจริงๆ คิดซะว่าเรายังมีโอกาสอีกนะ สู้ๆ :)

2
dek59 27 ธ.ค. 58 เวลา 19:10 น. 4-1

สู้ไปด้วยกันเนาะ T^T วันนี้เราทำก็ .. ช่างมานนน อยากร้องไห้ 55555555

0
мυиιch 28 ธ.ค. 58 เวลา 07:05 น. 4-2

555555 มาเที่ยวกันดีกว่าาาา
มันก็คิดบวกอีกแง่ได้นะ แบบสมมติถ้าเราต้องรออีกแปปนึง กับการที่เราจะได้ที่ที่เราอยากเข้าจริงๆอันดับหนึ่งไรงี้ก็คุ้มแหละเนาะ :) สู้ๆนะ

0
แตงโม 31 ธ.ค. 58 เวลา 22:29 น. 5

ลองถามตัวเองดูว่า
1.คุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงเราไปได้อีกกี่ปี เมื่อท่านจากไปแล้วใครจะรับผิดชอบชีวิตเรา แล้วใครจะมาทำอาชีพให้เรา แล้วเราจะพึ่งใครได้นอกจากตัวเราเราเอง ที่ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพเลี้ยงตัวเอง แล้วใครจะอยู่กับวิชาชีพหรืออาชีพนั้นไปตลอดชีวิตจนตาย
2.เราคิดว่าชีวิตเราอยากทำอะไร ประกอบวิชาชีพอะไรที่สุด ที่เราจะเหนื่อยกับมัน อยู่กับมันได้อย่างมีความสุขไปตลอด และคิดว่าเป็นความสุขที่เงินซื้อไม่ได้
3.น้องอยากเป็นแพทย์เพราะอะไร? ลองตอบคำถามตัวเองให้ได้ข้อนี้ ใจรักจริงหรือไม่?
4.ถ้าน้องคิดว่าใจรักความเป็นหมอ มันคือสิ่งที่น้องต้องการ มันคือชีวิตน้องที่อยากจะเป็น มันจะไม่คุ้มค่าเลยหรือ? ที่เราจะทุ่มสุดตัว เสี่ยงดูสักครั้ง เพื่อความฝันของตัวเอง ติดไม่ติด มันก็ไม่มีอะไรต้องค้างคาใจอีกต่อไปตลอดชีวิต ถึงมันไม่ติด เราก็ได้รู้แล้วว่าเราทำเต็มที่ได้แค่นี้ แต่ถ้าติด ก็คงได้เดินตามฝันของตัวเองอย่างที่ตั้งใจไว้
5.น้องลองอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่น้องฟังดู ว่าน้องขอเลือกชีวิตของน้องเองได้ไหม และจะสัญญาว่าจะทำเต็มที่ ขอแค่ไม่ให้มันเป็นสิ่งที่ค้างคาใจไปตลอดชีวิต แค่นี้น้องว่ามันจะคุ้มไหม กับการเสียเวลาไปหนึ่งปี
6.ยังไงก็ไม่สามารถทำให้คนทุกคนในประเทศที่อยากเป็นหมอ ได้เป็นหมอ
7.ไม่ต้องแข่งกับใคร แข่งกับความขี้เกียจ ความไม่เอาไหนของตัวเอง และความไม่รู้ หรือความโง่ของตัวเองก็พอ
8.ไม่ต้องเครียดอะไรทั้งนั้น ถ้าน้องเครียดหรือกดดัน หรือกลัวไม่ติดเมื่อไรคะแนนจะตกต่ำทันทีไม่ว่าจะตอนอ่านหนังสือ หรือทำโจทย์เตรียมสอบ หรือตอนไปสอบจริงก็ตาม ซึ่งถ้าคนหวังไว้สูงจะทำข้อนี้ได้ยาก
9.พ่อแม่น้องยังส่งน้องไหวอีกปีไหม? ถ้าไม่ไหวต้องไปหาแพทย์ที่จะมีทุให้จนสามารถส่งน้องจบแพทยศาสตร์ได้

10.ถ้าคิดว่า จะสละชีวิตของน้องเพื่อลำบากเพื่อคนอื่นด้แล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ ถ้าคิดว่ามันคือชีวิตน้องจริงๆ ก็เอาเถอะ ลุยเลย พะวงคิดกังวลอยู่นี่อ่านหนังสือได้กี่หน้าแล้ว ทำโจทย์ได้กี่ข้อแล้ว แต่ถ้าว่าอยากเป็นหมอเพราะอย่างอื่น เพราะอยากรวย เพราะมีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตา เพราะคนรอบข้าง ก็แนะนำว่าอย่าเลยครับ น้องอาจจะไม่มีความสุขกับการไม่มีเวลา และจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะไปทำร้ายชีวิติตใจคนอื่นและตัวน้องเองด้วย แต่ก็แล้วแต่น้องจะคิด พี่ก็แค่แนะนำครับ

เท่าที่เห็นเกือบทุกคน ถ้าไม่ดร็อปจะไม่ติดอะไรเลยครับ มีส่วนน้อยเท่านั้นแหละที่ติด น้อยจริงๆ เช่นคนที่เรียนวิศวะ จุฬาฯซิ่วแอดมิชชันเอาทันตะ นั่นไม่ดร็อป หรือคนที่อยู่รัฐศาสตร์ จุฬา ซิ่วไปแพทย์พระมงกุฎได้ แต่นอกนั้นคนที่ไม่ดร็อปอีกมากมาย ไม่ติดเลยครับ ขนาดคนที่จะซิ่วจากทันตะ ไปแพทย์ ยังดร็อปเลย...
แต่ก็ต้องประเมินตัวเองด้วยนะว่าจะไหวไหม? เอาแน่ไหม? แผ่วปลายไม่ได้นะ ต้องแบบตายเป็นตาย เอาให้มันตายคากองหนังสือ อ่านหนังสือจนร้องไห้ หรืออ้วกนั่นแหละ เริ่มมีหัวงแล้วถ้าทำได้ขนาดนั้น วันละไม่ต่ำกว่า12-15 กว่าชั่วโมง
ถามหัวใจตัวเองดู ถ้าน้องทำได้ แล้วไปเรียนหมอจริงๆ ก็คงไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะผ่านอะไรที่มันหนักมาแล้ว...พอเจอแบบเดียวกันอีก มันก็เฉยๆ

น้องครับ ถ้าจะเอาแน่ น้องต้องดร็อปครับ..ติดมาเยอะแล้วครับ แต่ต้องเอาจริง...นะครับ... แล้วคนที่ไม่ดร็อป ก็ไม่ติดมาเยอะมากกว่าครับ....อันนี้จากประสบการณ์ชีวิตจริงครับ http://www.dek-d.com/board/view/3587264/

แนะนำอีกอย่าง แบบจริงจัง ถ้าน้องยังเล่นเฟซบุ๊ค เล่นไลน์ เล่นเน็ต ยังเข้าเว็บตามปกติอยู่ น้องก็จะได้เข้ามาโพสต์ใหม่ว่า
ข้อสอบทำไม่ได้เลยอ่า ทำไงดี คะแนนน้อย ซิ่วอีกปีได้ไหม?อ่า แต่พ่อแม่ไม่ให้ เพื่อนเขาไปถึงไหนกันแล้ว....เขาเรียนไปปีไหนแล้ว
เรายังไม่มีที่เรียนเลย ลาก่อน ความฝันของฉัน ชีวิตฉัน โอ๊ยเครียดอ่าทำไงดี เรารู้สึกเหมือนเจ้าของกระทู้เลย บลา บลา บลา........ ก็ไม่ต้องเชื่อหรอก ลองดูก็ได้ จะได้ซาบซึ้งกับชีวิต แต่น้องโทษใครไม่ได้นะ เพราะว่า น้องทำตัวของน้องเอง เมื่อพ่อแม่ให้โอกาสน้องแล้ว.....

แล้วที่สำคัญมากอีกอย่างคือ ถ้าน้องคิดว่าจะเอาแน่ ก็อย่ายื่นคะแนนที่ไหนเลยครับ...เพราะมันไปแย่งที่เรียนเขา เอาแค่ว่ารักษาหน้าตา เอาไปคุยว่าฉันติดตรงนั้น ตรงนี้แล้วก็ลาออกมา มันไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือครับอย่างนั้น เก็บที่ไว้ให้คนที่เขาอยากเรียนจริงๆดีกว่าไหมครับ?
วุฒิภาวะมีไหม? คิดเป็นไหม? จิตสำนึกมีไหม? อันนี้ต้องขอฝากถามคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองด้วยนะครับ....

แล้วก็นะ เพื่อนพี่คนหนึ่ง บอกว่าอยากเข้าแพทย์ จุฬาฯ มากมาตั้งแต่เด็กๆ เรียนพิเศษตั้งแต่ 5 ขวบไม่เว้น แต่ก็ไม่ติด เลยสอบมาเข้าวิศวะ จุฬาฯแทน อีกคนบอกว่าเริ่มทำโจทย์ตั้งแต่ม. 4 อ่าครับแล้วติดแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
คือน้องต้องเข้าใจเนื้อหาแล้วก็บ้าทำโจทย์


เออแล้วก็ถ้าใครสนใจจะเรียนพิเศษ หรือมีอะไรจะปรึกษา อยากระบาย โทรมา 0827157662
ติดต่อมาได้นะ Line ID: manaweetm, manaweetangmo

จบจากทันตะ จุฬาฯครับ...

http://www.dek-d.com/board/view/3587264/

อาจารย์เตรียมอุดมท่านหนึ่งเคยสอนไว้และพูดความจริงไว้

เครียดมากไปมันจะทำได้ไม่ดีไง ถ้าฝีมือเข้าขั้นเทพตอนสอบเขาจะนิ่งไม่หวัง หมายถึงตอนสอบจะไม่กดดัน พลังฝีมือปล่อยได้สุดขีด ผมสอนเด็กกิฟเตรียมอุดมมาหลายรุ่น รู้ดีว่าเก่งจริงเป็นไง สอบหมอไม่ได้ยากอะไรแบบนั้นหรอก มันเป็นผลพวงของความขยันสะสม พวกเพิ่งมาขยันและไม่ได้ลงสนามสอบจนชินส่วนมากจะลน ไม่ได้ว่าน้อง จขกท นะ นี่เป็นโค้งสุดท้าย จึงอยากบอกถ้าอยากติดต้องไม่หวัง นี่เป็นเทคนิคการสอบที่ดีที่สุด

ถามหัวใจคุณดูสิครับ "หัวใจ"ของคุณบอก"ว่ายังไง?" คุณจะฟังเสียงคนอื่นทำไม? ในเมื่อคุณ "ต้องฟัง"เสียง"หัวใจของคุณ" "ไปตลอดชีวิต"

http://www.dek-d.com/board/view/3588595/

คือต้องเข้าใจก่อนว่า พ่อแม่ทุกคนจะคิดว่าลูกเป็นเด็กเสมอ แม้ว่าลูกจะมีงานมีการเป็นหลักเป็นแหล่งมีสามีภรรยา มีลูกไปแล้วก็ตาม ก็ยังคิดว่าลูกยังเป็นเด็กสำหรับตัวเองเสมอ หรือบางคนอาจจะคิดว่าลูกก็แค่ทรัพย์สมบัติหรือติ่ที่ออกมาจากตัวเอง ยังไงก็ต้องฟังฉัน หรือว่าบางท่านอาจจะคิดว่า ฉันมีประสบการณ์มาก่อนเกิดมาก่อน อะไรดีสำหรับเธอฉันรู้ ฉันอยากให้เธอรับสิ่งที่ฉันคิดว่าดีไปซะ ก็เลยยัดเยียดให้ซะเลย โดยลืมไปว่าจริงๆแล้วมันเหมาะกับลูกจรองไหม? เพราะลูกก็มีชีวิตจิตใจ แล้วที่ได้รู้มามันก็ไม่จริงเสมอไปสำหรับยุคสมัยกและเวลาที่เปลี่ยนไป หรือว่าในสังคมความคิดต่างๆ....ก็ไม่เหมือน คนแต่ละยุคก็ไม่เหือนกัน ความคิดอ่านไม่เหมือนกัน อาชีพ การเงิน หน้าที่ก็ไม่เหมือน อาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมาก็มากมาย
ใครมีปัญหาอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ ก็ลองพยายามคุยกันดีดี เขียนเหตุผลใส่กระดาษเป็นข้อๆไปเลยครับ ข้อดีมีอะไรบ้าง ข้อเสียมีอะไรบ้าง คุยกันด้วยปากเปล่าไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ก็เขียนใส่กระดาษไปเลย ดูหนักแน่นเชื่อถือกว่า ไม่ก็พิมพ์เป็นเอกสารแล้วปริ๊นท์ออกมาเลย แล้วลงชื่อกำกับลายมือชื่อหรือลายเซ็นต์ไว้ ผมว่าพ่อแม่น่าจะเปิดใจมากขึ้นครับ แล้วค่อยๆพูดค่อยๆจากันดีดี รอเวลาให้อารมณ์ของทั้งพ่อแม่ และลูกเย็นลงก่อน และให้พูดด้วยน้ำเสีงนุ่มนวล สุขุม เยือกเย็น ใจเย็นด้วยเหตุผล การพูดด้วยเหตุผลเนี่ยเป็นการแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเองและความมีวุฒิภาวะของคนเป็นลูกนะครับ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ใจเย็นๆ ยิ่งใครมีพ่อแม่อารมณ์ร้อน หรือวุฒิภาวะน้อยกว่า ลูกยิ่งต้องใจเย็น ยิ่งตต้องมีวุฒิภาวะมากกว่า สูงกว่าพ่อแม่ ให้ดูว่าเราเย็นได้มากกว่า มีเหตุผลมากกว่า สุขุมมากกว่า แต่ถ้าใครมีพ่อแม่ดี มีเหตุผล รับฟังปัญหา รับฟังเหตุผล คุยกันดีดีได้ มีวุฒิภาวะอยู่แล้วก็โชคดีไปเป็นผลบุญ(วิบากที่เป็นบุญเก่ามาตามสอง)
ไม่ว่าใครอยากไปสอบหมอใหม่ เพราะคิดว่าครั้งนี้คงไม่ติดแน่ แต่เพราะหัวใจร่ำร้องอยากช่วยเหลือคนอื่น และคิดว่ามันเป็นชีวิตจริงๆที่เราอยากเป็น หรือว่าใครไม่อยากเป็นหมอ แต่โดนพ่อแม่บังคับก็ใช้วิธีเดียวกันครับ หรือใครมีปัญหาอื่นๆ อะไรก็ตาม ก็ลองเอาไปใช้ดู ผมพูดจริงนะครับ พิมพ์ใส่กระดาษแล้วเอามาคุยกัน เอาความรู้ที่ได้เรียนมามาใช้บ้าง ต้องลองใช้วิธีนี้

ถ้าอยากติดนะครับแนะนำว่า เลิกLine เลิกเล่นเฟซบุ๊ค เลิกเข้าเว็บ ปิดตายไปเลยได้ยิ่งดี แล้วอ่านแต่หนังสือให้มันตายไปข้างหนึ่ง....

ทุกนาทีมันแบ่งเป็นวินาที
เพียงหนึ่งในล้านยังมี ขอเพียงเสี้ยวนั้น
พริบตาเดียว โอกาสแค่พริบตาเดียว
มันเปลี่ยนชีวิตเราได้ ขอเพียงแค่นั้น

ทุกทุกเกม เราอาจเคยพ่ายแพ้
ทุกทุกคราว แม้ไม่เป็นอย่างหวัง
แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน
ทุกทุกที มันอาจเป็นทีใคร
รู้ไว้เลยไม่ใช่ทีสุดท้าย
จะอย่างไรคงต้องวัดกัน

วินาทีที่เราต้องไปให้ถึง
วินาทีที่เราไม่ยอมแพ้

ไม่มีสิ่งไหนจะหนักเกินไป
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ นาทีนี้ตรงนี้เป็นของเรา
มาทำวันนี้ให้เป็นตำนาน ฝากไว้ให้นานเท่านาน
เพื่อสิ่งนี้ที่หัวใจ เราต้องการ

แม้ที่จริงมันอาจดูเลือนราง
แม้ที่สุดแล้วเราต้องผิดหวัง
แต่หัวใจจะขอพุ่งชน
ร้ายหรือดีวางอยู่ในมือเรา
แม้รางวัลนั้นคือความปวดร้าว
แต่อย่างไรต้องลองสักครั้ง

วินาทีที่เราต้องไปให้ถึง
วินาทีที่เราไม่ยอมแพ้

ไม่มีสิ่งไหนจะหนักเกินไป
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ นาทีนี้ตรงนี้เป็นของเรา
มาทำวันนี้ให้เป็นตำนาน ฝากไว้ให้นานเท่านาน
เพื่อสิ่งนี้ที่หัวใจ เราร่ำร้อง มันเรียกร้อง

ทุกนาทีมันแบ่งเป็นวินาที
เพียงหนึ่งในล้านยังมี ขอเพียงเสี้ยวนั้น
พริบตาเดียว โอกาสแค่พริบตาเดียว
มันเปลี่ยนชีวิตเราได้ ขอเพียงแค่นั้น

ไม่มีสิ่งไหนจะหนักเกินไป
แค่ไหนต้องทำให้ได้ นาทีนี้ตรงนี้เป็นของเรา
ให้วันนี้กลายเป็นตำนาน ฝากไว้ให้นานเท่านาน
เพื่อสิ่งนี้ที่หัวใจ เราร่ำร้อง

ไม่มีสิ่งไหนจะหนักเกินไป
จะเป็นจะตายต้องได้รู้กัน นาทีนี้ ตรงนี้ เป็นของเรา
มาทำวันนี้ให้เป็นตำนาน ฝากไว้ให้นานเท่านาน
เพื่อสิ่งนี้ที่หัวใจ เราร่ำร้อง

0