[ประสบการณ์และการเตรียมตัวสอบ] กว่าจะมาเป็นนักศึกษาแพทย์ศิริราช
ตั้งกระทู้ใหม่
ก็หลังจากที่สอบติดเมื่อปีที่แล้ว(#dek59)ตั้งใจไว้ว่าจะมาแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆรุ่นต่อๆไปได้รู้เหมือนกัน
ว่าการเตรียมตัวสอบต่างๆพี่ทำยังไงบ้าง แต่ด้วยหลายๆอย่างทำให้ไม่ได้ทำและลืมไป
แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยได้สั่งงาน ให้ส่งผลงานในรูปแบบใดก็ได้ โดยตอบคำถามสามข้อคือ
1. Who am I 2. Why am I here 3. Where will I be ซึ่งตัวพี่ค่อนข้างเกลียดการทำงานศิลปะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ บวกกับที่พี่นึกขึ้นมาได้ว่าเรามีเรื่องราวอยากที่จะแบ่งปันกับน้องๆ ก็เลยคิดว่าการทำในรูปแบบของการตั้งกระทู้ในบอร์ดคงจะเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับพี่มากที่สุด อีกทั้งมันคงจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นมากกว่า ถ้าได้เล่าเรื่องราวและวิธีการเตรียมตัวให้น้องๆฟังแทนที่จะแค่เขียนประวัติตัวเองแล้วส่งให้อาจารย์อ่าน
(ขออนุญาติแทนตัวเองในกระทู้ว่าพี่เพื่อให้น้องๆอ่านได้สบายๆนะครับอาจารย์)
ยังไงพี่ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมก็คอมเมนท์ไว้ได้เลยนะครับ เดี๋ยวพี่จะมาตอบให้ ^^
ปล.ใครอยากอ่านสั้นๆแค่วิธีเตรียมตัวเลื่อนลงไปที่ [why I am here] ได้เลยครับ
[Who am I เทพมาจากไหนถึงสอบติด]
-ช่วงประถมถึงม.ต้น-
พี่เป็นเด็กกรุงเทพฯครับ โดยตอนประถมและม.ต้นเรียนแผนก EP ซึ่งการเรียนการสอนและกิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ เลยทำให้ค่อนข้างคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษครับ นอกจากนี้พ่อพี่ยังให้อ่านภาษาอังกฤษด้วย โดยเริ่มจากนิยายง่ายๆ นิยายที่ยากขึ้น ไปจนถึงบทความใน Bangkok post โดยเวลาอ่าน คำไหนที่ไม่เข้าใจก็จดไว้ แล้วก็อ่านซ้ำๆไปมาเรื่อยๆๆๆๆ โดยนอกจากภาษาที่เราจะได้แล้ว ก็ยังเป็นการที่เราได้อ่านข่าวนั่นเองครับ
และด้วยสิ่งที่พ่อพี่สอนกับการเรียนในแผนก EP ตั้งแต่ประถม ทำให้วิชาอังกฤษเป็นวิชาหากินของพี่เสมอมา และทำให้พี่ไม่ต้องเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษเลย (อาจจะมีพวกคอร์สสอบเข้าที่ต้องไปเรียนบ้างเพื่อให้รู้ scope และแนวข้อสอบ) ซึ่งประหยัดเงินและเวลาได้เยอะมาก
แต่ข้อเสียอย่างนึงคือพ่อพี่สอนแต่การอ่าน ซึ่งทำให้เราอ่านได้ ฟังได้ พูดพอได้ เขียนพอได้แต่อาจจะผิดไวยากรณ์บ้าง ซึ่งเรื่อง Grammar ที่ต้องไปเรียนๆท่องๆนี่แหละที่เป็นจุดอ่อนของพี่ และพี่ก็ไม่ชอบที่จะต้องมาท่องๆแกรมม่า เพราะพี่คิดว่ามันไร้สาระ แต่ก็นะ เราก็ยังอยู่ในระบบการศึกษาไทย เลยทำให้พวกข้อสอบ Error นี่ขนาดตอนสอบเอนท์พี่ยังทำไม่ค่อยได้เลย 5555555555 ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างนะครับ ยังไงเราก็ต้องอยู่ให้เป็น จุดไหนที่รู้ว่าอ่อนก็ต้องรีบแก้นะครับ
ส่วนนอกจากเรื่องภาษาอังกฤษก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนะครับ ก็เล่นกีฬา เล่นเกมส์ เรียนในห้องก็เรียนให้เข้าใจ ถ้าเข้าใจแล้วก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง มีการบ้านก็ทำๆไป ใกล้สอบ 2-3 วันก็อ่านหนังสือ เกรดก็ค่อนข้างโอเคครับ
ช่วง ม.3 ไปสอบ MWITS โดยที่เรียนผิดวิธี ไม่เคยทบทวนหรือทำโจทย์ คิดแต่ว่า"เรียนพิเศษอย่างเดียวก็พอแล้ว" ก็เลยสอบไม่ติดไปตามระเบียบ จากนั้นก็เลยตั้งใจอ่านหนังสือ ทำโจทย์เยอะๆ แล้วสอบเข้าเตรียมฯครับ
ซึ่งน่าจะด้วยภาษาอังกฤษนี่แหละที่ช่วยไว้ ก็ติดที่อันดับ 237 ครับ
-ม.ปลายที่เตรียมฯ-
ตอนอยู่ที่เตรียมฯ พี่ก็เล่นกีฬา ทำกิจกรรมหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องเรียนนะ ก็ตั้งใจในระดับนึง
โดยนอกจากความรู้ที่ได้แล้ว การเรียนในเตรียมฯยังทำให้พี่รู้เทคนิคการเรียนที่จะทำให้เรียนดีขึ้น 100%ด้วย
นั่นคือ ตั้งใจเรียนในห้อง ไม่เข้าใจก็ถามเพื่อน ถามครู ทบทวนและทำแบบฝึกหัดสม่ำเสมอ ใกล้สอบก็ทำโจทย์และข้อสอบเก่าเยอะๆ ซึ่งถ้าถามว่าต้องอ่านนานเท่าไหร่ พี่ก็คิดว่าอ่านเท่าที่เราจะอ่านไหวแหละครับ เต็มที่กับมัน เหนื่อยก็พัก อย่าโกหกตัวเอง แล้วผลที่ออกมามันจะดีแน่นอนครับ
[Why am I here ทำไมต้องศิริราช]
ก่อนจะไปถึงเรื่องการเตรียมฯตัวแอดมิดชั่น พี่ขอพูดเรื่องการเลือกคณะก่อนนะครับ (เพราะเห็นหลายคนสับสนเรื่องนี้)
การเลือกคณะของพี่ พีไม่ได้พิจารณาจากเหตุผลเดียว แต่พิจารณาตามปัจจัยต่างๆเรียงตามความสำคัญ ดังนี้ครับ
1. ความจำเป็น - เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องความมั่นคง รายได้ของอาชีพ เป็นเรื่องสำคัญและต้องคำนึงถึง
2. ความถนัด - การที่เราถนัดอะไรสักอย่างคือเราทำมันได้ดี (อาจจะไม่ได้ชอบก็ได้) เพราะบางอย่างที่เราชอบ เราอาจจะทำมันได้ไม่ดีก็ได้ (อย่างเช่นพี่ชอบดาราศาสตร์ แต่โง่ฟิสิกส์ เลข แบบนี้ก็ไม่ไหว)
3. ความชอบ - ถ้าเราชอบที่จะทำอะไร เราจะมีความสุขกับมันและมักจะทำมันได้ดี
4. สิ่งแวดล้อม - น่าเรียนไหม น่าอยู่ไหม เพื่อนเป็นยังไง มีเพื่อนที่เราไว้ใจได้ไปด้วยไหม (ถ้ามีก็จะดีกว่าไม่มี)
5. พ่อแม่ - อันนี้แล้วแต่ครอบครับนะครับ ส่วนตัวพี่พ่อแม่ไม่ได้บังคับเลย (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก) พี่เลยได้ตัดสินใจเอง
ก็ทั้งหมดนี้แหละครับที่พี่ใช้ในการคิดว่าคณะอะไรที่เราควรจะเลือกเรียนและก็ได้ว่าเป็นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชครับ
-แอดมิชชั่น- (จะแบ่งตามวิชาที่ใช้สอบนะครับ โดยหมอระบบกสพทก็จะสอบ 7 วิชาสามัญและความถนัดแพทย์ครับ)
1. ความถนัดแพทย์ - ก็จะมีเชาวน์ จริยธรรมแพทย์ เชื่อมโยง ซึ่งพาร์ทเชาวน์และเชื่อมโยง ก็ต้องหาโจทย์มาฝึกทำเยอะๆครับ ทำให้ครบทุกแนว ดูว่าเราผิดตรงไหน ช้าไปหรือเปล่า ส่วนพาร์ทจริยธรรมพี่ก็แนะนำว่าให้ตอบตามที่ตัวเราเองเห็นว่าดีน่าจะดีที่สุดครับ
2. ไทย&สังคม - ไทยนี่พี่ไม่ได้เรียนพิเศษเลยครับ ก็ทำข้อสอบเก่าเอา ซึ่งข้อสอบ 9 วิชาออกค่อนข้างโอเค เน้นไปที่การอ่านการตีความ ส่วนตัวก็คิดว่าไม่ต้องเรียนครับ ทำข้อสอบเก่าเอาน่าจะพอ ส่วนสังคม วิชานี้เยอะมากๆๆๆ ส่วนตัวพี่ก็แนะนำให้เรียนพิเศษและทบทวนสม่ำเสมอครับ ส่วนจะเรียนที่ไหนอันนี้แล้วแต่คนนะครับ แต่พี่เรียนครูป๊อป
3.ชีววิทยา - อันนี้ถ้าไม่เรียนพิเศษก็ ลองเลือกในร้านหนังสือดูครับ ส่วนตัวพี่ก็จะเลือกเล่มที่ น่าอ่าน (ยิ่งมีสีจะยิ่งดี) เนื้อหาครบถ้วน เนื้อหาถูกต้อง ยิ่งถ้ามีโจทย์ให้จะดีมาก อันที่ดังๆก็คงเป็นของพี่เต๊นท์ (แต่เล่มเดียวไม่พอนะครับยังไงก็ลองหาๆเลือกๆดู) นอกจากนี้ก็หาโจทย์มาทำ อาจจะขอซีรอกโจทย์เพื่อนก็ได้ หรือซื้อหนังสือก็ได้ (แต่ขอเน้นว่าให้มีเฉลยและยิ่งเฉลยละเอียดยิ่งดีครับ) ที่พี่ทำก็ของโจทย์ของหมอพิชญ์ ข้อสอบเก่า และอื่นๆ จำไม่ได้ 555555555 ตรงไหนไม่ได้ ไม่เข้าใจ ก็หาถามเพื่อน ถามครู หรือช่องทางออนไลน์ก็มีเยอะแยะครับ ยังไงก็เน้นว่า อ่านเยอะๆ บ่อยๆ และทำโจทย์ครับ
*** ส่วนสำหรับน้องที่ไม่เคยเรียนพิเศษและอยากจะเรียนไม่ว่าจะสำหรับแอดหรือม.ปลาย พี่แนะนำว่าเรียนตามนี้เลยครับ เขาสอนให้ฟรี เนื้อหาครบถูกต้องและดีมากๆครับ เข้า Youtube แล้วเสิร์ชว่า ormbio version2 ยังไงก็แนะนำให้เข้าไปดูนะครับดีมากๆๆๆๆจริงๆ ***
4.เคมี - อันนี้เป็นวิชาที่พี่เกลียดมากครับ เกลียดจนถึงทุกวันนี้และตลอดไป พี่ก็ไม่ได้เรียนพิเศษเยอะ แต่ก็หาหนังสือมาอ่าน(อันนี้จะเลือกหนังสือยังไงก็แล้วแต่คนครับไม่ได้มีอะไรแนะนำเป็นพิเศษ) ซีรอกโจทย์คอร์สเอนท์อาจารย์อุ๊มาทำ แล้วก็ลงคอร์สตะลุยของอาจารย์อุ๊ซึ่งค่อนข้างครบ ใช้เวลาไม่มาก มีโจทย์ให้ทำ ก็แล้วแต่คนชอบนะครับแต่พี่ค่อนข้างแนะนำ แล้วก็ทำข้อสอบเก่าเยอะๆครับ
***เหมือนข้างบนครับแต่คราวนี้เป็นวิชาเคมี เข้า Youtube แล้วเสิร์ชว่า ormchem classic ครับแล้วเรียนไปครับเชื่อพี่ว่าคุณภาพของเนื้อหาที่เขาสอนเพียงพอต่อการสอบเอนท์ครับ นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาได้มากด้วย***
5.ฟิสิกส์ - วิชานี้หาหนังสือมาอ่านก็ได้ครับ ไม่ยากมาก ส่วนตัวพี่ก็แนะนำฟิสิกส์ขนมหวานนะครับ เขียนเข้าใจง่ายมีโจทย์ให้ทำก็โอเคแล้ว ส่วนเรียนพิเศษพี่ก็เรียนคอร์สเอนท์ไอเดียล คือถ้าใครไม่คิดอะไรมากเรียนๆไปสอบก็โอเคครับพี่แนะนำ สำคัญคือทำโจทย์และข้อสอบเก่าเยอะๆครับ วิชานี้ข้อสอบออกค่อนข้างดี ถ้าเข้าใจ ทำโจทย์มาเยอะ เก็บได้เยอะแน่นอนครับ
6.เลข - วิชานี้สำหรับคนโง่เลขอย่างพี่ยังไงก็ต้องเรียนพิเศษครับ พี่ก็เรียนคอร์สเอนท์ของอาจารย์อรรณพ(ซึ่งพี่ก็แนะนำอยู่นะครับ) อาจารย์สอนเพื่อไปสอบค่อนข้างดี โจทย์เยอะ มีการบ้านเยอะด้วย ถ้าทำหมดนี่เห็นผลเลย ส่วนหนังสือที่พี่แนะนำก็ ตะลุยโจทย์เทพคณิตพิชิต 7 วิชาสามัญ กับ Vaccine แล้วก็ข้อสอบเก่าครับ วิชานี้พี่แนะนำให้เก็บตั้งแต่เนิ่นๆแล้วก็ทำโจทย์เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆนะครับเพราะมันค่อนข้างอาศัยเวลาในการจะเก่งขึ้น
7.อังกฤษ - อย่างที่พี่บอกไปว่าพี่ค่อนข้างถนัดอังกฤษอยู่แล้วเลยไม่ได้เรียนพิเศษอะไรเพิ่มเติมมาก แล้วก็โหลดศัพท์ครูสมศรีมาท่องตามลิ้งนี้เลยครับ http://www.kru-somsri.ac.th/new_details.php?id=143 ท่องบ่อยๆ ท่องทุกวัน แล้วอังกฤษจะเป็นวิชาที่ช่วยเราได้อย่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ อย่าลืมหาแบบฝึกหัดและข้อสอบเก่ามาทำด้วยนะครับ
สรุปการเตรียมตัวสอบ เท่าที่อ่านๆมาน้องคงจะเห็นนะครับว่าสิ่งที่พี่ทำก็มีแค่ ไม่เรียนพิเศษก็เลือกหาหนังสือดีๆมาอ่าน แล้วก็หาโจทย์ แบบฝึกหัด ข้อสอบเก่ามาทำๆๆๆ แล้วก็ทบทวนๆๆๆ ซึ่งจริงๆมันก็มีแค่นั้นแหละครับ เพราะฉะนั้นอยากให้น้องๆพยายามและอดทนให้มากๆ แล้ววันที่ประกาศผล คนที่ภูมิใจที่สุดจะเป็นตัวน้องเองครับ
[Where will I be ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร]
ก็ตอนนี้พี่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 1 คณะแพทย์ศิริราช ซึ่งปี 1 เราจะเรียนกันที่ ม.มหิดล ศาลายา ซึ่งชีวิตดีมากๆ เรียนสบายๆ หนักบ้างช่วงสอบ ที่ม.บรรยากาศดี ได้ทำอะไรที่อยากทำเยอะแยะ
แต่เมื่อขึ้นปี 2 ก็จะต้องย้ายไปเรียนที่ศิริราช ซึ่งการเรียนก็คงจะเข้มข้นขึ้น ยากขึ้น เวลาพักผ่อนน้อยลง ซึ่งพี่ก็ค่อนข้างกังวล เลยไม่อยากมองไปไกลมาก แค่อยากให้ตัวเองและเพื่อนๆได้เรียนอีก5ปีอย่างมีความสุข ไม่เครียดเกินไป มีสุขภาพที่ร่างกายแข็งแรง มีผลการเรียนน่าพอใจ และมี 5 ปีที่น่าจดจำครับ
ปล.(5/6/61)ไม่นึกว่าจะมีคนมาอ่านเยอะขนาดนี้ 555555
ก็พี่ไม่ได้เปิดเว็บเข้ามาอ่านบ่อยเท่าไหร่ แต่ก็เห็นว่ามีข้อสงสัยมาตลอด
พี่ก็เปิดเพจไว้ตอบคำถามน้องๆแล้วนะครับ ใครมีข้อสงสัยก็ทักไปถามพี่ในเพจได้เลย
ว่าจะเรียนดีไหม จะเตรียมตัวยังไง และคำถามอื่นๆ คิดว่าช่องทางนั้นพี่จะไปตอบได้มากกว่าครับ
ตามไปทางนี้เลยครับ >> https://www.facebook.com/whatsdoc
37 ความคิดเห็น
ขอบคุณครับ
มากเกิน
ขอบคุณที่ให้คำแนะนำนะคะ เพราะตอนนี้ถึงเวลาสอบแล้ว ถึงจะช้าไปบ้าง(ช้ามาก)แต่ก็จะนำคำแนะนำของพี่ไปใช้นะคะ :)
สู้ๆครับ ใช้เวลาในห้องสอบทุกวินาทีให้คุ้มค่า ข้อไหนทำไม่ได้ค่อยๆทำค่อยๆคิด ไม่ได้จริงๆข้ามไปก่อน เหลือเวลาก็ทวนจนหมดเวลา สู้ๆครับน้อง
ขอบคุณมากค่ะ:D
สรุปของพี่เป็นรูปแบบใดอะครับ พี่แบ่งเวลาอ่านยังไงครับ
(สรุปเป็นแบบใดนี่หมายถึงการเตรียมตัวใช่ไหมครับ)
ความถนัดพี่เรียนของ ondemand ทำโจทย์ของที่เรียนและทบทวนเอาครับ
ไทยไม่ได้เรียน สังคมเรียนครูป๊อป ทบทวน ทั้งสองวิชาพอสองเดือนท้ายๆก็ทำข้อสอบเก่าย้อนหลังให้หมดครับ
ฟิสิกส์พี่เรียนไอเดียล ทำโจทย์ที่เรียนไปซ้ำอีกรอบ แล้วก็ทวนด้วยการทำฟิสิกส์ขนมหวานอีกรอบๆ ใกล้ๆก็ทำข้อสอบเก่าครับ
เลขพี่เรียนอาจารย์อรรณพ ทำการบ้านของอาจารย์ทั้งหมด ทำหนังสือสองเล่มที่พี่แนะนำ ใกล้ๆก็ทำข้อสอบเก่าครับ
เคมีก็เรียนใน ormchemclassic เอาเนื้อหามาทวน ทำโจทย์เอนท์ อ.อุ๊แล้วก็เรียนคอร์สตะลุยครับหลังจากนั้นสักพักก็ทำโจทย์เอนท์อ.อุ๊อีกรอบ แล้วก็ทำข้อสอบเก่าช่วงใกล้ๆครับ
ชีวะก็เรียนใน ormbioversion 2 ทบทวนทำโจทย์หมอพิชญ์ หาหนังสือมาอ่านกันลืมตลอด ใกล้ๆก็ทำโจทย์อีกรอบแล้วก็ทำข้อสอบเก่าครับ
อังกฤษพี่มีพื้นฐานอยู่แล้ว ก็เลยเอาหนังสือเพื่อนที่เรียนมาลองดูผ่านๆแล้วก็ท่องศัพท์ครูสมศรี หาโจทย์มาทำ ใกล้ๆก็ทำข้อสอบเก่าครับ
ส่วนการแบ่งเวลา พี่ก็เริ่มเรียนคอร์สเอนท์ฟิสิกส์ตั้งแต่ ม.5/2 แทนคอร์สปกติเลยเพราะมันก็รู้เรื่องเหมือนกันแล้วจะได้จบไว เลิกเรียนก็เรียนวันละสองสามชั่วโมงแล้วแต่จะไหว
พอปิดเทอมก่อนขึนม.6ก็ลุยคอร์สฟิสิกส์ให้จบ พร้อมกันทวนเนื้อหาเคมี ชีวะไปด้วย แล้วก็ทำโจทย์เอนท์เคมีชีวะด้วยหลังจากนั้นก็ไปลงคอร์สตะลุยโจทย์ทั้งหมดภายในปิดเทอมใหญ่
พอ 6/1 ก็ลงคอร์สเลขแล้วก็ความถนัดแพทย์ เรียนหลังเลิกเรียนวันละสามถึงสี่ชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ก็เท่าที่ไหว ว่างๆก็ทำการบ้าน พอใกล้ๆจบ 6/1 ก็เริ่มทวนๆเคมีชีวะ ทำโจทย์ยาวไปถึงกลางๆตุลา
พอกลางๆตุลาก็ทวนฟิสิกส์ทั้งหมดแล้วก็ทวนเลขคร่าวๆอีกรอบ สอบGatpat (ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่องศัพท์ตลอด) พอเปิด 6/2 เดือนแรกก็เตรียมความถนัดแล้วก็เรียนสังคม หาโตทย์วิชาต่างๆมาทำไม่ให้ลืม พอเดือนท้ายๆก็ทำข้อสอบเก่าย้อนหลังให้หมดเช็คข้อผิดพลาด ใกล้ๆสอบก็ทวนๆแล้วก็ดูจุดผิดพลาดจุดเน้นประมาณนี้ครับผม
ส่วนแต่ละวันก็ไม่ได้ตายตัวนะครับ หลักของพี่คือจะอ่านให้เยอะที่สุดเท่าที่จะได้ ไม่ไหวก็พอ(อย่าโกหกตัวเอง ไหวก็ไหวไม่ไหวก็ไม่ไหว) พักผ่อน ออกกำลังกายบ้าง(พี่ออกทุกอาทิตย์) เล่นเกมบ้าง แต่เอาให้ได้เยอะที่สุด ตารางแผนการอ่านก็ปรับเปลี่ยนตลอดเวลาตามช่วงเวลาและสถานการณ์ครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนนะครับ เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองจะดีที่สุดครับผม สู้ๆครับ
พอบอกคะแนนคร่าวๆตอนสอบเข้าได้ไหมครับ
ประมาณนะครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว5555
ความถนัด 21
ไทย 70
สังคม 64
เลข 70
ฟิสิกส์ 80
เคมี 62
ชีวะ 75
แต่จำได้ว่ารวมๆ 73% ซึ่งจริงๆเกิน 70 ก็น่าจะปลอดภัยแล้วครับ (ตอนปีพี่ศิริราชถึง 67 เลยด้วยมั้ง)
พี่คับตอนนี้ผมอยุ่ ม.5 เทอม2 อะคับ เตรียมตัวไงดีคับ งานก้อเยอะ ไหนจะสอบที่ รร อีก แล้ว จะเตรียมเข้า มหาลัยอีก เตรียมไงดีอะคับ ควรเริ่มไงดี ช่วยตอบทีคับ
พี่ก็เริ่มตอน ม.5/2เหมือนกันครับ เอาเรื่องที่โรงเรียนก่อนนะครับ พี่ว่างาน การเรียนในห้องหรือการสอบก็ควรจะตั้งใจเหมือนเดิมครับ แต่พยายามใช้เวลากับมันให้น้อยลง(ถ้าน้องไม่ใช่เกรดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย) ทำงานที่รร แต่อาจจะลดคุณภาพลงมานิดนึง ส่วนสอบที่โรงเรียนน้องอ่านเนื้อหาที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นละมาสอบ พี่ว่าหลังจากนี้ถ้าน้องจะลงเรียนพิเศษก็ลงคอร์สเอนท์ไปเลยครับ ไม่ต้องลงคอร์สของ ม.6 แล้ว ส่วนการเตรียมตัวก็รีบๆเก็บเนื้อหาให้จบ ทำโจทย์เยอะๆ พยายามให้เนื้อหาทุกอย่างจบตอน ม.6/1 ครับ ที่เหลือคือทำโจทย์กับทวนครับ
ขอบคุณมากค่ะพี่หมอ กระทู้ของพี่ทำให้มีกำลังใจและมองเห็นเส้นทางชัดขึ้นมากเลย ขอบคุณมากจริงๆนะคะ อยากเจอพี่ที่ศาลายาเหมือนกัน 555 ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
ยังไม่ใช่หมอครับเป็นแค่นักศึกษาแพทย์ 5555555 ยินดีครับ สู้ๆ ขอให้ได้เจอกันครับ
จัดตารางการอ่านอย่างไรบ้างเหรอคะ อยากรู้ว่าวันนึงควรอ่านเท่าไหร่ หรืออ่านวิชาไหนยังไง
ปล.พอดีเป็น dek59 เหมือนกัน อยากเข้าแพทย์ เข้าเรียนมหาลัยแล้ว ซึ่งว่าจะซิ่วปี61 อยากได้คำแนะนำมากๆเลย ท้อบ้างนะเพราะใครๆก็บอกว่าซิ่วนาน
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ
เอ่อ พอดีว่าผมไม่ได้เป็นคนที่จัดตารางเป๊ะๆแล้วอ่านตามอะครับ ก็อ่านเท่าที่จะอ่านได้ ไม่ไหวก็พัก ไปหาอะไรทำสักชั่วโมง หรือไม่ก็งีบ ว่างเมื่อไหร่อ่านไหวก็อ่านครับ ไม่ไหวก็พักอย่าโกหกตัวเอง ส่วนถ้าวางแผนก็คือจะวางแผนคร่าวๆในหัวว่าอาทิตย์นี้วิชานี้วิชานั้นต้องถึงประมาณไหน จะให้จบประมาณเดือนไหน พยายามวางแผนไว้แล้วก็วางแบบเผื่อไม่ทันไว้ด้วยนะครับ ส่วนอีกเทคนิคนึงก็คือ ให้อ่านสลับกับทำโจทย์ครับ เพราะการทำโจทย์จะทำให้โฟกัส สนุก(?555555) ไม่ง่วง จะช่วยให้นั่งได้นานขึ้นครับ สู้ๆนะครับ ถ้าไม่ยอมแพ้สักวันก็จะถึงเป้าหมายครับ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ตอนนี้อยู่ ม.3 แล้วว ยังอ่อนภาษาอังกฤษอยู่เลย จะลองเอาคำแนะนำมาปรับใช้นะคะ ฮืออ กลัวดรอปภาษาอังกฤษมากๆเลยค่ะ เพราะอยากเป็นหมอแล้วหมอต้องสอบภาษาอังกฤษด้วย ใจสั่นแรงมากเลยค่ะ 5555 เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ สามารถเอามาปรับใช้กับ ม.3 อย่างหนูได้ด้วย ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วมีกำลังไตในการอ่านหนังสือสุดๆ แปะโพสอิทบนหน้าผากไว้เลยค่ะ ท่องศัพท์ด่วน
แนะนำว่านอกจากท่องศัพท์ ท่องแกรมม่าเพื่อไปสอบแล้ว อยากให้หาหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านด้วยครับ อันไหนแปลไม่ได้ก็จดไว้ถามเพื่อนถามครู เพราะทักษะการอ่านก็สำคัญมากทั้งในการสอบเข้า และในการเรียนหมอครับ สไลด์ ข้อสอบ หนังสือ จะเป็นภาษาอังกฤษหมดนะครับ ถ้าไม่เก่งอังกฤษหรืออ่านช้ารับรองว่าต่อให้เข้ามาก็เจองานหนักแน่นอนครับ ยังไงก็สู้ๆครับ สามปีถ้าตั้งใจ เก่งอังกฤษได้ไม่ยากครับ ถ้ามีวินัยทุกวัน สามปีเห็นผลชัดแน่นอนครับ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ตั้งใจจะเข้าแพทย์ศิริราชอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เพราะอยู่ม.3เลยยังไม่อยากคิดเยอะ ตอนนี้อยากตั้งใจทำวิชาภาษาอังกฤษแบบคะแนนสูงๆบ้างค่ะ ไม่ใช่ทำแค่ผ่านพอ555 เพราะที่ผ่านมาคือแค่ผ่านก็สบายใจ พอคิดแบบจริงๆจังๆก็อยากจะทำให้คะแนนสูงทำลายสถิติเก่าไปเลย ขอบคุณนะคะที่ให้คำแนะนำ ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่หมอ จะตั้งใจค่ะฮึ๊บบ ;-;
พี่ค่ะหนูอยู่ม.4เทอม2 วิชาอื่น ก็ไหวอยู่แต่ภาษาอังกฤษไหวจริงๆต้องเตรียมตัวยังไงค่ะ
ถ้าวิชาอื่นไหว ก็พยายามให้มันดีขึ้นต่อไปครับ อ่านเยอะๆ ทำโจทย์เยอะๆให้วิชาอื่นๆที่เราไหวแน่นๆไว้ก่อน เพราะพวกที่เราโอเค เราจะเรียนรู้ได้เร็วครับ ส่วนอังกฤษ ก็แนะนำให้ท่องศัพท์ทุกวัน หาหนังสือแนวที่เราชอบแต่เป็นภาษาอังกฤษมาอ่านแบบสม่ำเสมอ คำไหนประโยคไหนแปลไม่ได่ก็หาคนถาม แล้วก็จดไว้ทบทวน เรียนอังกฤษในห้องหรือเรียนพิเศษ ก็กลับมาทบทวนทุกวันๆครับ รับรองว่าสามปีเห็นผลเลย
พี่ช่วยตอบด้วยนะคะ #dek61
-เรียนidealตั้งแต่ม.4 แต่ดรอปตอนม.5/2 ว่าจะเรียนต่อ เรียนม.6หรือคอร์สเอนท์เลยดีคะ
-ตอนนี้อ่อนภาษาอังกฤษมากกกก ทำTestก็ยังไม่ถึงครึ่ง จำคำศัพท์ไม่ค่อยได้ พี่มีคำแนะนำในการจำคำศัพท์บ้างไหมคะ
-ตอนนี้เก็บเคมีถึงม.6แล้วค่ะ อยากเก็บให้ครบทุกวิชา แต่ก็กลัวเรียนไม่ทัน ควรเก็บอะไรก่อนดีคะ
ปล.อยากเข้าเภสัชค่ะ
ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
- ฟิสิกส์ ideal นี่คอร์สเอนท์ไปเลยครับ แล้วก็เรียนกับป๋ามันสบายๆ พยายามเรียนครั้งละหลายๆชั่วโมงให้รีบจบไปเลย
- ก็ท่องศัพท์ครับ ท่องทุกวัน คำไหนที่จำไม่ได้หรือไม่คุ้นก็ไฮไลท์ไว้ แล้วก็ท่องแต่ที่ไฮไลท์ นานๆจะทวนทั้งหมดทีจะได้จำได้ (แนะนำให้โหลดศัพท์ครูสมศรีตามลิ้งค์ที่พี่แปะไว้มาท่องนะครับ) ทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ทบทวนทุกวัน ท่องศัพท์ทุกวันเดี๋ยวก็ได้ครับ
- ก็พี่แนะนำว่า ตอนนี้ ฟิสิกส์เคมีชีวะเลข ลงคอร์สเอนท์ไปเลย คอร์สม.6 ไม่ต้องลงแล้วครับ จะเลือกเก็บอะไรก่อนอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับแต่ส่วนตัวพี่จะเร่งเรียนฟิสิกส์เคมีชีวะให้จบก่อนเปิดเทอม1ม.6 แล้วเทอม1ก็เรียนเลขกับอังกฤษครับ แต่อันนี้คหสตนะครับ แล้วแต่น้องจะจัดเลย
ยินดีต้อนรับสู่ก้าวแรกของชีวิตแพทย์นะครับ ก้าวต่อไปด้วยความตั้งใจเช่นเดิมนะครับ
ขอบคุณครับบบ
พี่คะสำหรับคนที่ไม่มีเงินลงเรียนพิเศษ ทำยังไงคะ เรียนในormshcool เเละในยูทูป สามารถที่จะมีโอกาสติดเหมือนคนที่ลงคอร์สเรียนพิเศษมั้ย หนูอยากเรียน เเต่ทางบ้านหนูไม่มีเงินให้เรียน เเต่ที่ ร.ร. มีอินเทอร์เน็ต .
พี่ก็เป็นอีกคนที่ไม่ได้เรียนพิเศษเยอะแต่ก็สอบติดหมอได้
ซึ่งพวกความรู้หรือเนื้อหาหลายๆอย่างสามารถค้นหาได้จากเน็ต หรือดูดจากพวกเพจติวเตอร์,กลุ่มติวสอบในเฟส เพราะแถวบ้านพี่ค่อนข้างไกลจากแหล่งติวเตอร์พอสมควร+ขี้เกียจเรียนพิเศษเยอะ+แอบเปลืองตัง
แต่สำคัญคือน้องต้องมีวินัยในตัวเองพอสมควร อย่าวอกแวกมาก ยิ่งอ่านหนังสือผ่านเน็ตนี่ มีโอกาสหลุดเข้าไปหายูทูปหรือไถเฟสเล่นสูงเลยทีเดียว 55555
แล้วก็ลองหาหนังสือสรุป ดูชีทที่โรงเรียนบ้าง หาโจทย์เก่าๆ มานั่งอ่านนั่งทำด้วย
ทำรอบเดียวไม่พอต้องทำหลายๆรอบ ข้อที่ผิดนี่ก็จดเอาไว้ แล้วไปอ่านหัวข้อนั้นเพิ่ม
ส่วนความถนัดแพทย์ถ้าจะไม่เรียนแนะนำหนังสือของ the books เขียนที่หน้าปกว่า "แนวข้อสอบความถนัดแพทย์" ของปีพี่ #dek59 ปกสีแดง แต่ตอนนี้ปกสีไรแล้วไม่รู้นะ 5555 ไม่งั้นก็ขอหนังสือเพื่อนมาซีรอกแนวข้อสอบทำ
สิ่งสำคัญที่อยากฝากน้องคือ น้องต้องมีความมั่นใจ ตั้งใจทำให้มันสุดๆ อย่ามาครึ่งๆกลางๆกลัวไม่ติด ผลเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เราทุ้มเทให้กับมันแล้วหรือยัง :)
**ยิ่งรู้ตัวเร็วยิ่งดีเลย มีเวลาเตรียมตัวเยอะ ^^
- สำหรับวิชาเคมีกับชีวะ พี่รับรองครับว่าเพียงพอแน่นอน ขนาดข้อสอบยากแบบโรงเรียนเตรียมฯยังพอไหวเลย แต่ก็ควรซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มแล้วก็หาโจทย์ทำด้วยครับ
- ฟิสิกส์ ถ้าน้องอ่านฟิสิกส์ขนมหวาน เนื้อหาเข้าใจแล้วทำโจทย์ได้ พี่คิดว่าเบสิคน้องจะโอเคแล้ว หาโจทย์ทำเพิ่มกับทำข้อสอบเก่าพี่คิดว่าก็ค่อนข้างพอครับ
- ไทยถ้าน้องตั้งใจเรียนในห้อง ลองหาข้อสอบเก่ามาทำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
- ส่วนเลขอังกฤษสังคม นี่ถ้าไปเรียนพิเศษไม่ได้ พี่ก็แนะนำว่า ตั้งใจเรียนในห้อง สอบกลางภาคปลายภาคก็ตั้งใจเอาให้ได้คะแนนเยอะๆ มีอะไรไม่เข้าใจหรือสงสัยก็ลองไปถามอาจารย์ หรือต้องการให้อาจารย์แนะนำหนังสือหรือแบบฝึกหัดก็ลองถามอาจารย์ดู ลองหาซื้อหนังสือหรือยืมห้องสมุดมาอ่านดูครับ ถ้าน้องขยัน อ่านทุกวัน หลายๆเล่มและทำแบบฝึกหัดสม่ำเสมอ สักวันรางวัลจะเป็นของน้องครับ สู้ๆครับ
เวลาขึ้นปี 2 มาละท้อ ลองกลับมาอ่านดูนะ :))
ขอบคุณครับพี่ดล ผมว่าได้กลับมาอ่านแน่ๆ TOT
เเอบหลุดบ่อยด้วยคะ จะทำให้เต็มที่ที่สุด เเต่มีเรื่องกังวลคือ วิชาเลข ทำไม่ได้ เเล้วเหมือนอยู่กลางทางคนเดียวไม่รู้จะเดินไปทางไหน หันไปทางไหน ก็มองไม่เห็นทาง ฝากพี่ๆ ที่เข้ามาอ่านช่วยตอบให้หนู ด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ
น้องมีเฟสใช่มั้ย
วิชาเลขแนะนำเพจครูพี่ตูน (Teacher Toon Official Fanpage), พี่อุ๋ย the tutor (TutorOui.com)
นอกจากนี้ แนะนำให้สมัครเป็นสมาชิก www.edufas-academy.org ข้างในจะมีพวกข้อสอบเก่าๆให้ลองฝึกทำเยอะมาก เว็บนี้ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางเลข,ฟิสิกส์,อังกฤษ
จริงๆถ้าน้องไม่เข้าใจจุดไหนก็ถามให้เพื่อนๆช่วย หรือไม่ก็ทักแชทไปหาพี่ติวเตอร์ของเพจต่างๆก็ได้นะ
**อายครูบ่รู้วิชา จ้า**
ส่วนพี่ก็แนะนำให้ลองไปหาหนังสือมาอ่านครับ อาจจะตามห้องสมุดหรือซื้อจากร้านหนังสือก็ได้ เอาที่เราอ่านเข้าใจ เนื้อหาโอเค มีโจทย์ มีเฉลยครับ นอกจากนี้ก็ลองหาในเน็ตเอาครับ
พี่พูดอีสานได้ด้วย พี่อยู่จังหวัดอะไรคะ ถามครูเเล้วครูมักจะใช้อารมณ์ในการบอก เวลาเราตอบไม่ได้ครูจะดุ มันเลยทำให้ไม่กล้าถามคะ บางที ครูถามว่า เข้าใจมั้ย เราก็ตอบทั้งๆที่เราไม่เข้าใจ ว่าเข้าใจคะ มันทำให้กลัวสุดๆ
อันนี้พี่ขอตอบนิดนึงนะ คือถ้าน้องไม่เข้าใจ สงสัย ไม่แน่ใจ ถามไปเลยครับ!!! ไม่ต้องลังเล ถ้าครูคนนี้ไม่ตอบ ก็จดไปถามครูคนอื่น ถ้าคนอื่นไม่ตอบ หาถามเพื่อนหรือในเน็ตก็ได้ครับ คำถามเป็นสิ่งสำคัญครับ ไม่ต้องไปสนใจ
จะรีบเเก้ไข เเละพยามทำความเข้าใจ ในจุดที่ไม่เข้าใจ จะขึ้นม.5 เเล้วต้องเล่นน้อยๆ เล่นมากไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ต้องพยามให้ถึงที่สุด เวลาที่เหลือสำหรับหนู คิดว่าเหลือน้อยมาก .ขอบคุณพี่ๆนะคะที่ให้คำปรึกษาดีๆ ขอบคุณจากใจคะ
จะขึ้น ม.5 เวลายังเหลือพอสมควรครับ อยากทำกิจกรรมหรือร่วมงานในโรงเรียนก็ทำได้นะครับ เป็นสิ่งที่ดี เสริมสร้างประสบการณ์การทำงานนอกห้องเรียน แค่ตั้งใจเรียนในห้อง ทบทวนบ้าง ทำการบ้านบ้าง ใกล้สอบก็อ่านหนังสือบ้าง เริ่มจริงจังตอน ม.5/2 ก็ยังทันนะครับ แต่เริ่มเร็วก็คงจะดีกว่าครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ
หนูเปนคนที่เรียนกลางๆ คะ คงจะประมาทไม่ได้ เราก็ไม่ได้ติด top ในร.ร คงต้องขยันๆกว่าคนอื่นเค้า
สู้ๆครับ^^
พี่คะ คือเราจะสอบ onet แล้ว พี่มีวิธีการอ่านหนังสือและเตรียมความพร้อมยังไงบ้างคะ (เพิ่งผิดหวังจากกสพท. TT ) และถ้าหนูจะซิ่วไปสอบปีหน้าพี่คิดว่ามันดีมั้ยอ่ะ?
ก็อ่านทวนๆครับให้จำเนื้อหาทุกอย่างได้ (พึ่งสอบกสพทไปเราคงไม่ลืมเนอะ) หลังจากทวนเนื้อหาแล้วก็เอาโจทย์เก่ามาทำครับ ทำเยอะๆ onet สำคัญมากๆนะครับเพราะสอบได้ครั้งเดียว ขอให้ตั้งใจ รอบคอบ มีสติ ใช้เวลาในห้องสอบให้คุ้มค่าครับ
ส่วนถ้าจะซิ่วพี่ขอบอกว่าคุ้มครับ(ถ้าเป็นคณะที่น้องอยากเรียน) ขอให้ตั้งใจเต็มที่และเอาให้ได้ เพราะเสียเวลาแค่1ปีไม่มากหรอกครับ เทียบกับเวลาที่เหลือทั้งชีวิต สู้ๆนะครับ
พั่คพตือตอนนี่หนูติดsocial มากกพี่มีวิํีทำให้มันไม่กวนเราตอนอ่านหนังสือหรือตอนเรียนพิเศษด้วยได้มัียคะlolll
คือโรงเรียนพี่(เตรียมฯ)ค่อนข้างขยัน เวลาที่ต้องอ่าน ทุกคนก็จะอ่าน ไม่มีใครมาโซเชียลด้วย ก็เลยไม่ค่อยเล่น อีกอย่างคือต้องมีวินัยครับ เอามือถือไปวางไกลๆก็ได้ ออกมาอ่านนอกบ้านแล้วเอามือถือไว้บ้านก็ได้ เวลาพักค่อยหยิบมาเล่น พยายามอยู่ให้ไกลจากมือถือเข้าไว้ครับ เดี๋ยวสักพักจะชินเอง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?