อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย

ตามศูนย์วิจัยต่างๆค่ะ คือก็ตามศาสตร์ที่เรียนมาคืออาจจะเป็นนักเคมี ฟิสิกส์หรือชีวะ ลองไปหาดูนะว่าชอบด้านไหนเพราะมันจะมีย่อยในวิชาอีกยิ่งชีวะนี่มีย่อยเยอะเลย แล้วแต่ค่ะบางคนก็จบป.ตรี ป.โทหรือเอก เป็นข้าราชการหรือทำเอกชนก็ได้ค่ะ เงินเดือนไม่แน่ใจว่าขึ้นกับวุฒิหรือประสบการณ์ด้วยน่าจะขึ้นกับแต่ละที่จะให้นะคะ แต่ที่ไทยมีพวกโครงการสนับสนุนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เยอะอยู่นะ แต่เรื่องเงินเดือนอาจจะไม่ได้มากเท่าหมอเท่าวิศวะ แต่ถ้าชอบก็สนับสนุนนะ เป็นอย่างที่ชอบ

เรียนทุน พสวท. สิ :/

สวัสดี พีเป็นนักเรียนทุนวิทยาศาสตร์หนึ่งของรัฐตอนนี้เรียนเคมีอยู่ พอมีประสบการณ์อยากมาแบ่งปันบ้าง

การเป็นนักวิทยาศาสตร์ทำงานวิจัยต้องเรียนจนจบปรญ.เอก จะเรียนสาขาไหนก็เป็นนักวิจัยได้ทั้งนั้น การเลือกเรียนขอให้คิดถึงวิชาที่ชอบ สิ่งที่อยากทำในอนาคต (อยากทำยาเรียนเคมี,เภสัช ฯลฯ) สุดท้ายคือที่ทำงาน น้องต้องดูว่าสิ่งที่เรียนจบมาทำงานที่ไหนได้บ้าง บางสาขาเรียนมาแทบตายไม่มีที่ทำงานในไทยก็จบ ส่วนที่ทำงานมีที่ไหนบ้าง คนจบป.เอกไม่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย(ทั้งม.รัฐและเอกชนทุกที่)ก็เป็นนักวิจัย ส่วนตัวพี่คิดว่าถ้าน้องอยากทำวิจัยเต็มที่ให้เลือกเป็นนักวิจัย เพราะมหาลัยมีงบสนับสนุนน้อย ห้องแลปไม่เซฟ งานวิจัยพอทำได้แต่ไม่ได้หวือหวาอะไร ส่วนนักวิจัยที่ทำงานส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.ทำที่ไหนก็แล้วแต่สาขาอย่างที่บอกไป อันนี้น้องต้องไปหาเอาเอง หาวิชาที่อยากเรียนก่อน เข้าเรียนมหาลัยแล้วค่อยไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาอีกที

เป็นข้าราชการไหม? ถ้าเป็นอาจารย์ทุกวันนี้ไม่เป็นข้าราชการแล้วเพราะออกนอกระบบ สงัสดิการเป็นประกันสังคมแทน ถ้าข้าราชการคิดว่าต้องทำงานในหน่วยงานของรัฐ ถ้าน้องอยากเป็นข้าราชการจริงๆ ลองดูทุน ก.พ.ไว้ ได้เป็นแน่ๆแถมรู้ด้วยว่าจบมาจะได้ทำงานที่ไหน

เงินเดือน อันนี้พี่ไม่รู้เพราะยังเรียนไม่จบ แต่คร่าวๆที่ได้ยินมา ถ้าเป็นอาจารย์จะสตารท์ที่ 30-50k

ส่วนนักวิจัยบริษัทเอกชนจะสูงกว่านั้นประมาณ 50-70k ถ้ามีผลงานเยอะเป็น ศ.ดร.เงินเดือนเกินแสน

สุดท้ายพี่ขอฝากให้น้องหาวิชาที่ชอบเรียน เพราะการเรียนมันยาวนานเราต้องรักมันถึงอยู่กับมันได้

เส้นทางการเป็นนักวิจัยไม่ได้สวยงามและค่อนข้างมีอุปสรรค์เยอะต้องอดทนมากๆนะ

ถ้าจะเรียนทุนพยายามหาทุนให้เปล่าเผื่อว่าบางทีน้องโตขึ้นเห็นอะไรหลายๆอย่างอาจไม่ๆได้อยากทำงานในไทย ทำงานตปท.งบวิจัยสูงกว่า เงินเดือนสูงกว่า ห้องแลปปชอดภัยเครื่องมือทันสมัยกว่าอะไรแบบนี้ ทุนให้เปล่ามีเยอะถามอาจารย์หรือหาในเวป ทุนให้เปล่าของต่างประเทศมีเยอะแยะสำคัญคือน้องต้องเก่งภาษา ฝึกภาษาให้มากๆ ภาษาอังกฤษคือใบเบิก(ถ้าทุนให้เปล่าเขาเอาค่อนข้างสูงเช่น Oxford นี่เอา IELTS 7.0)ทางให้น้อง ภาษาที่3เช่น ฝรั่งเศษ เยอรมัน ญี่ปุ่น เรียนไว้บ้างก็ดี เพราะทุนฝรั่งเศษบางทุนเขาเอาคะแนนภาษาฝรั่งด้วย

ถ้าคิดจะทำงานในไทย เวลาเลือกเรียนอะไรเน้นเรียนในสิ่งที่มาใช้ได้จริงไม่งั้นน้องจะจบมาไม่ได้ใช้ความรู้ในสิ่งที่เรียนมากนัก อันนี้เห็นจากอาจารย์ของพี่ จบ organmetalic คือการทำตัวเร่งในปฏิกิริยาเคมี มันเป็นสารที่ไม่เสถียรต้องทำในตู้ที่ไม่มีความชื้นและห้องแลปที่ควบคุมอุณหภูมิได้25องศางี้ ถามว่าจะมีมหาลัยซักกี่แห่งที่พร้อม สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ

สู้ๆและโชคดีครับ