รีวิวสัมภาษณ์ 4 สถาบัน

ตั้งกระทู้ใหม่

ไปถึงเขามีรุ่นพี่ถือป้ายรอรับ ดูแล พาไปลงชื่อ พาไปถึงห้องสโลปเลย เหมือนมาทำกิจกรรมเวลาเข้าค่ายเลย รุ่นพี่เยอะมากกกกก มีไลน์กลุ่มด้วย จริงจังมากก ในห้องสโลปก็จะนั่งเป็นแถวตามกลุ่มในรายชื่อ ด้านล่างที่ปกติอ.ใช้เป็นพื้นที่สอนอะ เขาตั้งโต๊ะสัมภาษณ์เป็น 10 โต๊ะเลย คือเป็นการสัมที่แรกที่ไม่มีห้องแยก คนนั่งรอก็มองคนสัมฯ ที่อยู่ด้านล่างไปเลย อาจารย์นั่งสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวไปเลยจ้าาา

คำถามที่ลาดก็มีให้แนะนำตัว เล่าสิ่งที่อยากนำเสนอที่สุดในพอร์ต มีกระดาษคำถามเป็นรูปภาพหลายใบ อ.จะเลือกให้เราตอบ 1 ใบ เราได้รูป หอ A หอ B เป็นการแยกสารผสม ABC ดูภาพแล้วถามว่าเราคิดว่าใช้หลักการอะไรแยก แล้วก็ถามว่าวิศวะเคมีที่ลาดกระบังโดดเด่นยังไง ประมาณนี้

หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็มีกิจกรรม "สู่เกียร์" ที่รุ่นพี่จัดให้ ได้ฟังเรื่องราวจากพี่ประธานรุ่นปี 1-4 ได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่าง มีพี่เนียนด้วย ช็อกอะ สนุกดี

วิศวะเคมี มหิดล (14 ม.ค. 62) ค่าสัมภาษณ์ 200 (จ่ายตอนลงชื่อที่มหาลัย)

ที่นี่เราคุณสมบัติครบ เอกสารครบ แต่วันสัมฯ เขาไม่เก็บเอกสารที่ให้เตรียมไปอะ เก็บแค่เอกสารตรวจสุขภาพ

ที่มหิดล อาจารย์ 2 ท่าน ส่วนคำถามก็เป็นเรื่องทั่วไป เรื่องครอบครัว อนาคต ทำไมเลือกเรียนคณะนี้ที่นี่ และก็พรีเซนต์พอร์ต (อาจารย์ใจดี)

ระหว่างรอสัมภาษณ์ จะมีห้องรับรองสำหรับผู้ปกครอง ในห้องจะมีอาจารย์บอกหลักสูตรและด้านต่างๆที่มหาลัยเน้นให้ผู้ปกครองทราบ ซักถามได้ ตอนเราสัมภาษณ์เสร็จ เราก็ไปนั่งฟัง พอดีไปคนเดียวเลยว่าง

ตีแผ่ ไม่รู้เราพูดแบบนี้ทำมหาลัยเสียหายมั้ย แต่ถือว่าเราแชร์ข้อสันนิฐานที่เราคิดเองจากประสบการณ์ที่เจอแล้วกันนะ
คือรอบ1 บางทีคุณสมบัติกับความสนใจคนก็ไม่สมดุลกัน ดังนั้นบางมหาลัยจึงลดเกณฑ์ลงเพื่อเรียกคนสัมภาษณ์ให้พอดีจำนวน แต่บางมหาลัยก็โนแคร์ แบบประกาศรายชื่อคนมีสิทธื์สัมภาษณ์น้อยกว่าจำนวนที่ต้องการในรอบแรกอีก ตัวอย่าง มหาลัยAต้องการนศ.10คน เรียกสัมภาษณ์20 แต่ความจริงมีคนคุณสมบัติครบ17คน ส่วนมหาลัยBต้องการนศ.20คน ก็เรียกสัมแค่17คนที่คุณสมบัติผ่านเท่านั้น
แต่คุณไม่รูหรอกว่าตัวเองยื่นมหาลัยAหรือB ดังนั้นก็ยื่นมันไปเถอะ เผื่อโชคดี

สุดท้ายนี้ เราอยากบอกทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า รอบ 1 มันไม่ยากเลย เมื่อเทียบกับการสอบแข่งขันรอบอื่นๆ ดังนั้น ถ้าทุกคนมีคณะในดวงใจ ก็ลองยื่นพอร์ตไปเถอะ ต่อให้คุณสมบัติไม่ครบก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าไม่ยื่น โอกาสคือ 0 แต่ถ้ายื่นไป อย่างน้อยเขาก็เห็นชื่อเราในการพิจารณา โอกาสก็มากกว่า 0 แล้ว เหมือนตอนที่เราไปสัมภาษณ์ก็เจอเพื่อนที่คุณสมบัติไม่ครบเหมือนกัน แต่สุดท้ายเขาก็มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ เราเลยรู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยงนะ


ปล.หลายที่ หลายคณะประกาศเกินจากจำนวนที่ระบุไว้นะ เช่น ระบุว่ารับ35 แต่ประกาศรายชื่อคนมีสิทธิ์เข้าศึกษา45คน

ปล2.เราใส่ค่าสมัครของแต่ละมหาลัยไว้ด้วยนะ เอาไว้เป็นข้อมูลเผื่อพิจารณาว่ามันคุ้มค่ามั้ยที่จะลองให้โอกาสกับตัวเอง



เราเสียดายแทนเพื่อนๆของเราที่ไม่ได้ยื่นรอบ1 เราเลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะ