Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสอบสัมภาษณ์ คณะ JIPP, BALAC, COMMARTS - Early Admission 2019

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราได้สอบสัมภาษณ์ของ JIPP, Commarts, BALAC ไปเมื่อวันที่ 4 และ 5 มกราคมที่ผ่านมา และสอบติดของ JIPP และ BALAC ค่ะ จะขอเขียนเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของทั้งสามคณะ ไว้ ณ ที่นี้นะคะ ด้วยความที่สอบไปสักพักแล้ว คำถามที่จำได้ อาจไม่เรียงลำดับ หรืออาจมีข้อมูลตกหล่นไปบ้าง หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
 
ต่อจากนี้ คือคำถามที่ได้บันทึกไว้หลังจากการสอบของทั้งสามคณะค่ะ
 
JIPP

-แนะนำตัว

-ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่

เราตอบไปประมาณว่า อยากจะเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ ว่าทำไมเราถึงทำอย่างที่เราทำ และคิดอย่างที่เราคิดค่ะ
นอกจากนั้น ก็น่าจะบอกไปด้วยว่า เราอยากเป็นนักเขียน และการที่ได้เรียนจิตวิทยา จะไม่เพียงแต่ทำให้เข้าใจตัวละครในเรื่องที่เขียน แต่ก็จะทำให้เข้าใจผู้อ่านด้วยค่ะ

-ก่อนสัมภาษณ์ เขามีบทความมาให้อ่านเขียนวิเคราะห์ เขาเลยถามเกี่ยวกับบทความ (ประมาณว่าผู้เขียนพูดถึงเรื่องอะไรบ้างค่ะ) และถามเรื่อง neuroscience (ประสาทวิทยาศาสตร์) ประมาณว่า เคยได้ยินคำนี้ไหม รู้หรือเปล่าว่าคอร์สของที่นี่โฟกัสเรื่องนี้ และคิดว่าเรื่อง behavioral neuroscience จะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ยังไงค่ะ

เราตอบไปว่า เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง และทราบว่าที่นี่จะโฟกัสไปที่หัวข้อนี้ และคิดว่าหัวข้อนี้จะทำให้เราเข้าใจความคิด และการทำงานของสมองมนุษย์มากขึ้นค่ะ

-ก่อนสอบเขาให้เขียนเกี่ยวกับตัวเองด้วยค่ะ (ในกระดาษใบเดียวกับที่อ่านและวิเคราะห์บทความ) เขาให้อธิบายขยายความเกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนค่ะ เช่น ทำไมถึงใช้ adjectives เหล่านั้นอธิบายตัวเอง (เราใช้คำว่า meticulous, creative, และ philosophical ค่ะ)

เราก็อธิบายประมาณว่า ที่บอกว่า meticulous ก็เพราะเราชอบสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เราอาจมองข้ามไปได้ง่ายๆ และมักจะได้แรงบันดาลใจในสิ่งเหล่านั้นค่ะ ใช้คำตอบนี้มาอธิบายเรื่องที่เลือกคำว่า creative ด้วยค่ะ ส่วนที่เลือกคำว่า philosophical ก็เพราะเราชอบที่จะตั้งคำถามในเรื่องที่เราอาจจะไม่เคยคิดถึงมาก่อนค่ะ

-ผู้ปกครองโอเคไหมที่เราอยากเรียนจิตวิทยา และโอเคไหมกับการที่จะต้องไปเรียนออสเตรเลีย

เราตอบประมาณว่า ความสนใจของตนเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่ ดังนั้นการที่อยากเรียนจิตวิทยาก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ส่วนที่จะต้องไปเรียนออสเตรเลีย อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าพ่อแม่จะไม่เป็นห่วง แต่เมื่อก่อนหน้านี้ก็ไปเรียนซัมเมอร์ที่ไอร์แลนด์มา และในตอนนั้นพ่อแม่ก็ไม่ได้เป็นห่วงมากมายอะไรค่ะ และการที่จะไปเรียนที่ออสเตรเลีย ก็จะเป็นการไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องการสอนจิตวิทยาด้วย จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีค่ะ

-ข่าวที่สนใจ

เราพูดเกี่ยวเรื่องผู้หญิงสองคนที่เข้าวัดในอินเดียค่ะ โดยบอกประมาณว่า คิดว่าทางแก้ปัญหานี้คือ ทั้งสองฝ่าย (คอมมิวนิสต์และอนุรักษนิยม) ควรจะทำความเข้าใจกันและกันค่ะ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ควรจะเข้าใจเหตุผลของฝ่ายอนุรักษนิยม ว่าพวกเขาพยายามจะคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมที่มีมานาน ส่วนฝ่ายอนุรักษนิยมควรจะเข้าใจว่า อีกฝ่ายไม่ได้คิดจะทำลายศาสนา เพียงแค่ต้องการจะแสดงความนับถือศรัทธาเท่านั้นเองค่ะ
 
-มีคำถามอะไรอยากถามไหม?

เราถามเขาไปว่า ในฐานะอาจารย์ที่สอนที่นี่ วิชาไหนคือวิชาที่ชอบสอนมากที่สุดค่ะ
 
สัมภาษณ์ของจิตวิทยา ถ้าจำได้ถูกต้องครบถ้วน ก็มีเท่านี้ล่ะค่ะ!
 
BALAC
 
สัมภาษณ์ของ BALAC (อักษรศาสตร์) ค่ะ จำลำดับของคำถามไม่ค่อยได้สักเท่าไร อาจจะไม่ตรงลำดับมากนะคะ
 
-แนะนำตัวโดยย่อ
 
-ที่บอกว่าอยากเป็นนักเขียน และอยากจะส่งสารให้ผู้อ่านได้ สารที่ว่าคืออะไร (อันนี้เค้านาจะดูจาก SOP และที่เราได้พูดไปนะคะ)
 
เราตอบว่า อยากจะพูดถึงประเด็นที่คนไม่ค่อยพูดถึง และอยากจะทำให้ผู้คนเข้าใจถึงเรื่องนั้นมากขึ้น อย่างเช่นตอนนี้ รู้สึกสนใจเรื่องโรคทางจิตค่ะ
 
-อาจารย์เลยถามถึงเรื่องสาเหตุของโรคทางจิตค่ะ ประมาณว่า คิดว่าอะไรคือสาเหตุของมัน คิดยังไงกับการที่เราบอกว่าโซเชียลมีเดียอาจก่อให้เกิดโรคทางจิต
 
เราตอบประมาณว่า จริงๆ แล้ว นักวิชาการหลายท่านก็ยังไม่แน่ใจว่าโรคทางจิต อย่างโรคซึมเศร้า เกิดมาจากอะไร มันอาจจะเกิดมาจากยีนก็ได้ หรือโลกที่เราอาศัยอยู่ (สภาพแวดล้อมรอบกายของเรา) ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคทางจิตได้เหมือนกัน ถ้าพูดถึงเรื่องโซเชียลมีเดีย มันก็มีผลได้เหมือนกัน เพราะเมื่อเราใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากๆ เราก็อาจจะเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น จนรู้สึกว่าตนเองแย่กว่า และถ้าคิดมากๆ ก็จะก่อให้เกิดโรคทางจิตได้
 
-อาจารย์น่าจะถามด้วยค่ะว่า งานเขียนที่เขียนเป็นผลงานประเภทไหนบ้าง เราเลยตอบว่าแต่งกลอนเปล่าและเรื่องสั้น และก็ได้เอาหนังสือรวมกลอนเปล่าที่เราสั่งปริ้นท์มาให้อาจารย์ดูค่ะ
 
-งานอดิเรก นอกจากการอ่านและการเขียนคืออะไร
 
เราตอบว่า นอกจากการอ่านและการเขียน ก็ชอบวาดรูปและถ่ายรูปค่ะ นอกจากนั้นก็มีเล่นดนตรีบ้าง
 
-อาจารย์บอกว่า ดูเหมือนเธอจะชอบทำกิจกรรมที่อยู่คนเดียวนะ
เราเลยบอกอาจารย์ว่า จะเรียกว่าเราเป็นอินโทรเวิร์ทก็ได้ค่ะ แล้วก็น่าจะเสริมว่า แต่ก็ชอบทำกิจกรรมบางอย่างกับคนที่มีสนใจเหมือนๆ กันด้วยค่ะ
 
-สมัครที่ไหนนอกจากที่นี่ไหม
 
ตอบว่าสมัครที่จิตวิทยาและนิเทศศาสตร์ค่ะ อาจารย์เลยบอกว่าสองคณะนั้นต่างกันอยู่นะ เราเลยตอบว่าใช่ค่ะ (แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อนะคะ)
 
-ทำไมต้องเป็นที่นี่ ไม่เป็นภาคไทยหรือที่อื่น
 
เราน่าจะตอบประมาณว่า เพราะที่นี่มีคอร์สที่รวมความสนใจของตนเองเอาไว้ และยังสามารถเรียนรู้/ฝึกฝนภาษาได้ด้วยค่ะ
 
-เราจับฉลาก ถ้าจำไม่ผิด ได้คำว่า "love and relationships today" "language" และ "inequality" ค่ะ เราเลือกพูดเรื่อง "love and relationships today" กับ "inequality" โดยพูดเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่ม LGBTQ ค่ะ โดยพูดประมาณว่า น่าสนใจดีหากเราจะคิดว่า เราคิดถึงอะไรเมื่อเราพูดถึงความรักและความสัมพันธ์ในปัจจุบัน และสิ่งที่เราคิดถึง อาจไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แบบชายหญิง แต่อาจเป็นความสัมพันธ์ของคนในกลุ่ม LGBTQ ด้วยค่ะ
เราได้พูดถึงเรื่องสิทธิในการแต่งงานของกลุ่ม LGBTQ และเรื่องที่ LGBTQ ในประเทศหนึ่งในยุโรปรีบไปแต่งงานกันเมื่อก่อนปีใหม่ เพราะผู้นำคนใหม่ของพวกเขาดูจะไม่สนับสนุนเรื่องนี้ค่ะ และเราก็สรุปประมาณว่า เราคิดควรจะคิดว่าพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเรา และควรจะได้รับสิทธิเหมือนกันกับเราค่ะ
 
-อาจารย์ได้ถามต่อเรื่อง LGBTQ ค่ะ ถามว่า คิดว่าปัญหาของ LGBTQ ในไทย คืออะไร เทียบกับประเทศอื่นๆ ค่ะ และน่าจะถามด้วยค่ะว่า คิดว่าปัญหาเรื่องการแต่งงานเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขาหรือเปล่า
 
คำถามนี้ เราอาจจะเรียบเรียงคำตอบได้ไม่ค่อยดีสักเท่านะคะ แต่กล่าวโดยย่อ เราตอบประมาณว่า คงจะแล้วแต่ประเทศไปค่ะ ในประเทศหนึ่ง ปัญหาอาจเป็นการแต่งงาน ในอีกประเทศ ปัญหาอาจเป็นเพียงการยอมรับในตัวเขาก็ได้ ส่วนปัญหาในประเทศไทย มองในมุมหนึ่ง อาจจะบอกว่าเหมือนกับประเทศอื่นก็ได้ ก็คือปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจและสเตอริโอไทป์ค่ะ
 
-ในหนังสือรวมกลอนเปล่าของเราที่เราเอามาให้อาจารย์ดู มีอยู่บทกวีหนึ่งที่พูดเกี่ยวกับตัวตนค่ะ อาจารย์ถามว่าทำไมถึงเขียนอย่างนั้น และเอามาโยงกับเรื่อง LGBTQ และถามว่า คิดยังไงกับการตามหาตัวตน ที่บางทีตัวตนที่เราเจออาจไม่ใช่ตัวตนที่เราพอใจ
 
เราน่าจะตอบประมาณว่า การตามหาตัวตนเป็นเรื่องที่ยากลำบาก บางทีผลที่ได้อาจไม่น่าพอใจ แต่การได้ตามหาก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย และถึงแม้ครั้งนี้อาจหาไม่ได้ ก็อาจหาได้ในครั้งค่อไปค่ะ
 
-ใน SOP และหนังสือรวมกลอนเปล่า มีการกล่าวถึงเฮสเสและคาฟคาค่ะ อาจารย์ก็ถามประมาณว่า ทำไมถึงสนใจ หรือชอบเฮสเสกับคาฟคา
 
เราตอบว่า ที่ชอบเฮสเส เริ่มต้นมาจากการเจอข้อเขียนของเขาที่ถูกยกมาอ้างอิงในหนังสือค่ะ แล้วก็ยกคำกล่าวนั้นมาบอกอาจารย์ บอกประมาณว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักหนังสือของเขาค่ะ
 
-อาจารย์ถามประมาณว่า ถ้ามาเรียนที่นี่จะมีปัญหาในการหาเพื่อนไหม เพราะเราก็เหมือนเป็นอินโทรเวิร์ท และเด็กบางคนที่มาเรียนที่นี่ก็ไม่มีความสุขเพราะหาเพื่อนไม่ได้
 
เราตอบประมาณว่า การที่จะเข้ามาที่นี่ คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าท้าทายอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะตอนที่ไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก็ไปโดยที่ไม่รู้จักเพื่อนสักคนในห้องเลย แต่ก็ทำความรู้จักเพื่อน และค้นหาสิ่งต่างๆ ในตัวเพื่อน ทำให้เจอเพื่อนที่รู้สึกชอบใช้เวลาด้วยกันได้ค่ะ
อาจารย์ก็เลยบอกประมาณว่า เธออาจจะค้นหาดูคลับของที่นี่ก็ได้นะ เผื่อจะได้เจอที่ที่จะได้เจอคนที่มีความสนใจแบบเดียวกันด้วย
 
-คำถามสุดท้าย คือ มีอะไรจะถามไหม เราเลยถามอาจารย์ว่า ในฐานะอาจารย์ของที่นี่ อะไรคือคอร์สที่ชอบสอนมากที่สุดค่ะ พออาจารย์ตอบเสร็จ ก็ถามต่อว่า มีอะไรจะถามอีกหรือเปล่า เราเลยบอกว่า คำถามนี้อาจจะแปลกอยู่สักหน่อย แต่เพราะว่าเรามีความสนใจในหนังสือมากๆ เลยอยากทราบว่า หนังสือเล่มโปรดของอาจารย์คืออะไรค่ะ
หลังจากนั้นก็โดนอาจารย์ถามกลับด้วยว่า แล้วหนังสือที่เราชอบอะไรค่ะ เราเลยตอบว่า มีเล่มหนึ่งที่ชอบมากๆ คือ เจ้าชายน้อย ค่ะ แต่ก็ไม่ได้พูดต่อเรื่องนี้นะคะ
 
คำถามของที่นี่ น่าจะประมาณนี้ล่ะค่ะ คำถามค่อนข้างเยอะ อาจจะตกหล่นไปบ้างนะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
 
COMMARTS

สัมภาษณ์ของคณะนิเทศศาสตร์นะคะ (อาจจะจำมาได้ไม่หมด หรืออาจจะไม่ถูกต้องครบถ้วนมากนะคะ)
 
อาจารย์ไม่ได้บอกให้เราแนะนำตัวค่ะ ถ้าจำไม่ผิด อาจารย์น่าจะถามว่า ทำไมตอนเช้าถึงมาสัมภาษณ์ไม่ได้ (เราสอบนอกรอบน่ะค่ะ) เราเลยตอบว่า ไปสัมภาษณ์ของคณะจิตวิทยามาค่ะ
 
อาจารย์ก็เลยถามว่า คำถามที่ยากที่สุดที่โดนถามมาเมื่อเช้าคืออะไร เราก็ขออาจารย์คิดแป๊บนึงค่ะ แล้วตอบว่า เป็นคำถามเกี่ยวกับจุดอ่อน (weakness) ของเรา
 
อาจารย์เลยถามว่า ถ้าอย่างนั้น จุดแข็งของเราที่จะนำมาใช้กับคณะนี้ได้ คืออะไร
 
คำถามนี้ เราน่าจะตอบว่า เราชอบวิเคราะห์ค่ะ เวลาอ่านหนังสือหรือดูภาพยนตร์ ก็จะไม่ได้ชอบแค่การบริโภคเนื้อหา แต่ก็ยังชอบหาความหมายหรือสารที่แฝงไว้ในนั้นด้วย
 
ทีนี้ อาจารย์ก็เลยน่าจะถามเรื่องหนังสือที่อ่านเล่มล่าสุดค่ะ เราเลยพูดเรื่องเจ้าชายน้อย และน่าจะพูดประมาณว่า เคยอ่านเป็นฉบับการ์ตูนเป็นภาษาไทยตอนเด็กๆ และเพิ่งได้มาอ่านเป็นฉบับนวนิยายภาษาอังกฤษ แต่ทั้งๆ ที่เนื้อหายังคงเดิม ความรู้สึกที่ได้ก็แตกต่างไปมากเลยค่ะ และรู้สึกว่า ได้ค้นพบสารที่แฝงอยู่ในหนังสือ อย่างเช่นเรื่องของลัทธิบริโภคนิยม หรือความคิดที่ว่า เจ้าชายน้อยอาจจะไม่ได้เป็นเด็กชายที่มาจากดวงดาว แต่อาจจะเป็นตัวตนของเด็กในตัวนักบินเองค่ะ
 
อาจารย์ได้ถามต่อประมาณว่า เจ้าชายน้อยแสดงถึงลัทธิบริโภคนิยมได้อย่างไร เราก็เลยบอกประมาณว่า ที่เจ้าชายน้อยได้แสดงถึงลัทธิบริโภคนิยม (หรืออาจจะบอกว่า สะท้อนลัทธิวัตถุนิยมด้วย) เห็นได้จากตอนที่เจ้าชายน้อยได้ไปเจอสวนกุหลาบที่มีดอกกุหลาบมากมาย แล้วรู้สึกเศร้าที่ดอกกุหลาบของตนเองไม่ได้เป็นดอกกุหลาบเพียงหนึ่งเดียว (แต่เราก็ไม่ได้อธิบายจนจบนะคะ เพราะว่าอาจารย์บอกว่าพอก่อนน่ะค่ะ)
 
นอกจากนั้นก็มีคำถามเกี่ยวกับเจ้าชายน้อยอีกบ้างค่ะ อาจารย์ถามประมาณว่า ทำไมถึงเป็นหนังสือที่ส่งผลต่อผู้คนทั้งโลกได้ ทั้งที่เป็นหนังสือแฟนตาซี ที่มีเด็กผู้ชายคุยกับดอกไม้ อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ
 
เราตอบว่า อาจเป็นเพราะภาษาที่ผู้เขียนใช้นั้นเข้าใจง่าย จึงเข้าถึงผู้คนได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่แฝงสารอะไรไว้มากมายด้วยค่ะ
 
นอกจากนั้น อาจารย์ก็ถามเกี่ยวกับที่สอบ GED ด้วยค่ะ ประมาณว่า เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้กำลังดร็อปเรียนอยู่เหรอ
 
เราตอบว่า ดร็อปอยู่ค่ะ อาจารย์เลยถามว่า ปีที่ผ่านมาทำอะไร เราตอบทำนองว่า ทำในพวกสิ่งที่สนใจ และก็ได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่มหาวิทยาลัยไอร์แลนด์มาหนึ่งเดือนด้วยค่ะ
 
อาจารย์ถามว่า ไปเรียนที่ Trinity มาเหรอ เราก็เลยตอบว่า เรียนที่ National University of Galway, Ireland ค่ะ
 
นอกจากนั้น อาจารย์คงจะถามเกี่ยวกับการไปเรียนที่นั่น เราเลยบอกว่า ไปเรียนภาษาอังกฤษและวรรณกรรมค่ะ และนอกจากนั้นก็ถือว่าได้ไปพบเจอผู้คนและวัฒนธรรมใหม่ๆ ด้วย
 
อาจารย์เลยบอกว่า พูดเรื่องภาษาและวัฒนธรรมแล้ว เธอน่าจะเหมาะกับ BALAC นะ
 
เราเลยตอบประมาณว่า ได้ไปดูคอร์สของที่นั่นมาแล้วค่ะ ซึ่งก็รู้สึกว่าน่าสนใจ แต่คิดว่า คอร์สของที่นี่ได้รวมความสนใจของเราเอาไว้ และโฟกัสที่มีเดีย ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ความสนใจของตัวเองมากกว่าค่ะ
 
คำถามของที่นี่ ก็มีประมาณนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีคำถามเกี่ยวกับอาชีพที่อยากเป็นด้วยหรือเปล่า ถ้ามี เราก็น่าจะพูดเกี่ยวกับการเขียนล่ะค่ะ
 
บันทึกคำถามของทั้งสามคณะ มีเพียงเท่านี้ล่ะค่ะ! ขอบคุณที่อ่านนะคะ 

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

+Cumulonimbus+ 4 มิ.ย. 62 เวลา 18:27 น. 1

คุณตอบดีมากๆเลยค่ะ อยากเป็นคนที่ลึกซึ้งได้แบบคุณจัง เราเองก็อยากเข้าjippค่ะ แต่กลัวเรื่องคำถามเชิงลึกมากๆ แต่อ่านของคุณแล้วโคตรชอบทัศนคติเลยค่ะแง;-; พอแนะนำได้ไหมคะว่าปกติอ่านอะไร บทความแนวๆไหน เผื่อได้ทัศนคติดีๆแบบคุณบ้าง ขอบคุณนะคะ

1
wrong-written-words 27 ธ.ค. 62 เวลา 18:35 น. 1-1

ขอบคุณมากๆๆ เลยค่ะ /////// ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ตอบช้า(มาก) ไม่ได้ล็อกอินมาหลายเดือนแล้วค่ะ ;;

หวังว่าจะยังตอบทันอยู่นะคะ

สำหรับ JIPP คิดว่าตอนก่อนสอบ นอกจากจะตามอ่าน international news ของ news outlet พวก CNN กับ Times ก็มีอ่านบทความบน psychologytoday.com ไปบ้างค่ะ ส่วนหนังสือทั่วๆ ไปก็อ่านหลายแนวอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นฟิคชั่นก็ชอบมูราคามิเป็นพิเศษ มีตามอ่านซีไรต์บ้าง ลองอ่านหนังสือนักเขียนโนเบลสมัยก่อนบ้าง หนังสือปรัชญาก็อ่านเหมือนกันค่ะ อย่างโลกของโซฟี หรือหนังสือของเฮสเสกับยิบราน ส่วนนอนฟิคชั่น บางทีถ้าเห็นที่ดูเป็นแนวคล้ายๆ เนื้อหาในวิชาของคณะก็จะเอามาอ่านค่ะ อย่างเช่น ตอนนั้นจะสอบเข้า BALAC (อักษรอินเตอร์) ด้วย ก็เลยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ปรัชญา กับ Sapiens ไปค่ะ (แต่เล่มหลัง จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังอ่านไม่จบค่ะ ><)

หวังว่าจะพอช่วยได้ ไม่มากก็น้อยนะคะ

0
wrong-written-words 27 ธ.ค. 62 เวลา 18:38 น. 2-1

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่ตอบช้านะคะ หวังว่าตอนนี้จะยังทันอยู่นะคะ

ไม่ทราบว่าคณะที่จะสอบเข้าคือคณะไหนเหรอคะ คือว่าที่เรารีวิวไปมีทั้ง JIPP, COMMARTS, กับ BALAC เลย ;;

0
wrong-written-words 27 ธ.ค. 62 เวลา 18:46 น. 2-2

แต่ส่วนมากทริคก็คงจะคล้ายๆ กันล่ะค่ะ คือว่าควรจะศึกษาหลักสูตรของทางคณะให้ดี แล้วก็หาเหตุผลที่ดีได้ว่าทำไมเราถึงอยากเข้าที่นี่ (ทำไมเป็นคณะนี้ ทำไมต้องเป็นภาคอินเตอร์ ไม่ใช่ภาคไทย) ส่วนจะเตรียมคำถามไปหรือจะไปพูดสดๆ ตรงนั้นเลย ก็น่าจะแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลยค่ะ (แต่เราถนัดเตรียมคำถาม ซ้อมคำตอบมากกว่า ก็เลยเตรียมไปตามนั้นค่ะ)

0
JJenjun 30 ธ.ค. 62 เวลา 09:14 น. 2-3

เรายื่น JIPP ไปค่ะ เลยอยากรู้แนวสัมภาษณ์

0