ชำแหละอิ้ง 9สามัญver.70+
ตั้งกระทู้ใหม่
5 ตัวเลือก 80 ข้อ 90นาที !!!
เฉลี่ย ข้อละ 1.25 คะแนน ( แต่ควรทำข้อละไม่ถึงนาที เผื่อเวลาreadingจะกินเวลานาน )
1.Conversation (20ข้อ) :Speaking & Listening
-ต้องเก็บง่ายสุด
-สารทุกข์สุกดิบ
-ขอความช่วยเหลือ,ปรึกษา
-ตอบสมจริง,อย่าโลกสวย
(.เพื่อนกันสมน้ำหน้ากันได้) แต่ส่วนใหญ่เน้นสุภาพ
2.Reading (40ข้อ หินสุดๆ)
(ควรเก็บ,ส่วนมากทำไม่ทัน เก็บได้ได้เปรียบ)
-ยากจริงอะไรจริง เทคนิค skim & scan
-อ่านโจทย์ก่อน ,จำคีย์เวิร์ดว่าโจทย์ถามเกี่ยวกับอะไร ค่อยมาอ่านpassage
-หัวข้ออย่าแคบเกิน,อย่ากว้างเกิน
(หัวข้อนั้นครอบคลุมทุกส่วนของเนื้อหาหรือไม่)
Ex. เรื่องประกอบด้วย
1.ที่มาการกินผัก
2.ประโยชน์ผัก
3.นโยบายการรณรงคส่งเสริมการกินผัก
a. Hydroponic X ไม่ตรงประเด็น
b. ข้อดีของการกินผัก X แคบไป
c. อาหารที่มีประโยชน์ X กว้างไป
(อาหารอาจมี เนื้อ,ผัก,ผลไม้)
d.พัฒนาการการกินผัก / ตรงสุดละ
พัฒนาการ = ลำดับที่มา เกริ่น “ที่มาการกินผัก” / คำนี้เชิง + (ดีขึ้นเรื่อยๆ) / เชื่อมมา > ปัจจุบัน - มีนโยบายส่งเสริม(เชิง +)
บางทีเราเห็นไม่ตรงว่าข้อนี้ตรงใจเรา100 %ให้ชั่งใจดู choice เอา
ตัด choiceเอา อาจรู้สึกว่ามันไม่ถูกนัก แต่ถูกที่สุดใน choice ทั้งหมด
-ประโยคใจความเรื่อง = สรุปสั้นๆว่าเกี่ยวกับอะไรไม่ต้องครอบคลุมทุกอย่างใน passage
เพราะบางอย่างแค่ส่วนขยายไม่ใช่ใจความสำคัญ / ยกตัวอย่าง=ขยายความ
การนอนดึกมีโทษ (เพลีย สมองช้า เจริญเติบโตช้า = ขยาย )
ถ้ากราฟจะมีหัวเรื่องให้ ให้ดูหัวเรื่องก่อนว่าถามเกี่ยวกับอะไร ?
-ดูดีๆ บางทีอันไหนค่ามากสุด แต่ในกราฟ มี2 อันค่ามากเท่ากัน(แน่นอนว่ามีคำตอบรอ 2 แบบ)
-บางทีกราฟข้อมูลหลายปี แตะละปีแบ่งข้อมูลชาย/หญิง อย่าหลง
ถามอะไรกันแน่ – สูงสุดชาย
-สูงสุดหญิง
-ปีสูงสุด
How – ชาย>หญิง เท่าไหร่
How – ปี2010 ชาย>หญิง เท่าไหร่
When – ปีไหนค่า ชาย หญิง ต่างกันสุด
อาจมี 2 ปี –ปีไหนค่าเหมือนกัน
-ค่าใกล้กันสุดปีไหน ฯลฯ
- คำว่า infer = อนุมาน
ให้เดา ex. เรื่องบอกว่าแมวมักถ่ายเป็นที่ ชอบเลียขนเสมอ
ตอบ : แมวเป็นสัตว์รักสะอาด
(สะอาด ไม่มีคำนี้ในโจทย์ แต่เดาได้ ว่ามันน่าจะ.... แบบค่อนข้างมั่นใจ)
-คำว่า refer = อ้างถึง
ต้องมีในโจทย์เท่านั้น
(อาจเป็นคำ เช่น สรรพนาม he,she,it นี่คือใคร ย้อนไปอ่านในประโยคก่อนหน้า อาจเป็นคำยาก เช่น zzz นี้แปลว่าอะไร แทนได้ด้วยคำไหนในเนื้อเอง อาจมีอีกคำที่เป็นคำง่าย ที่ความหมายเหมือนกัน)
-ถามคุณสมบัติที่ไม่จริง : จะมีคำใน passage ที่ตรงข้ามกันเลย
Ex. ปลากะพงเป็นสัตว์น้ำ
a. สัตว์ชนิดนี้อาศัยบนบก xผิด
- อย่าลืมดูศัพท์ที่แสดงถึงอามณ์ Voice & Tone ( Optimistic ect. )
- ศัพท์ประเภทแหล่งที่มา (Text book,Journal,Ad,Research)
-บางทีถามข้อมูลราย paragraph มาเลย paragraph ที่3เกี่ยวกับเรื่องอะไร
จำตั้งแต่ตอนอ่านคำถามก่อนว่าพออ่านมาถึง prg.3 ก็ไปกาตอบแล้วกลับมาอ่าน prg.4,5,6 ต่อ จะได้ไม่เสียเวลา
(ถ้าอ่านเรื่องจบไปดูโจทย์คำตอบ >พลิกมาหาprg.3 >ไปกาตอบ = เสียเวลา)
3.Writing ( 20 ข้อ )
วัด Gramma (ไม่ยาก ควรเก็บหลังconver.)
-Close test (เว้นว่างให้เติม)
-article
-verb from : Subject verb agreement / tense / voic / finite or non-finite / v3ช่อง
-word choic : ศัพท์ที่มีความหมายใกล้กัน like, alike
-word from : parts of speech (beauty , beautiful, beautifully )
-word order เรียงประเภทคำให้ถูกไวยกรณ์
-preposition ถูกบริบท ความหมาย
-conjunction ถูกคู่
-pronoun : เปลืองไม่จำเป็นตัดได้ / her hers
-comparison : ขั้นกว่าขั้นสุด
-verbal
- Conditional (บางทีใช้คำอื่นแทน if และตัว claues ใช้ Modal verb ได้หลายตัว)
เรียงประโยค 1-2-3-4-5
- ดูคำเชื่อม(อาจไม่เสมอไปบางทีโจทย์ก็หลอก)
- ตัด choic ใช้ได้ดีมาก
- พี่งข้อสอบเก่า + อ่านหนังสือเตรียมสอบ
(บางทีเราคิดส่าเรียงแบบนี้ได้แต่โจทย์เรียงอีกแบบ
ฝึก > ทำให้เราเข้าใจว่าภาษาอังกฤษบทความจะเรียงแบบไหนได้บ้าง ,แนวโน้มจะเรียงแบบไหน ,แบบไหนที่เป็นไปได้ เพราะบางทีโจทย์เข้าตัดมาแค่บางส่วน จากบทความยาวๆบางทีเราตัดแค่ตอนท้ายมางี้เราเลยงงได้ไม่แปลก จึงต้องฝึกทำเยอะๆ)
สรุป
1.Conversation :
สำนวนไม่ค่อยออกซ้ำ (แต่ในโจทย์ปีที่แล้วอาจมาออกเป็นchoiceปีนี้)
2.Rrading :
โจทย์เดิมๆ หัวข้อ ใจความ คำอ้าง อารมณ์ผู้แต่ง(Voic & Tone) ลักษณะนิสัยของตัวละคร
อ่านโจทย์ > จำkeywordsสำคัญ > อ่านpassage > กา
3.Wring : แกรมม่าไม่ออก ทุกเรื่องไม่ต้องอ่านทุกเรื่อง
(ex. Indirect speech ไม่ออกทุกข้อสอบ)
การใช้ Modal verb ในแกรมมาแบบต่างๆ Should,had better,could,would better
-Subject verb agreement
(ประธาน เป็น Singular , Plural /มีประธาน2ตัวใช้vตามตัวไหน)
-เอา Tense ผสม passive
- Conditional : เงื่อนไข
- another,other,others,the other
- Phasal verb : V ใช้คู่ prep. คู่กันเสมอ เปลี่ยนคู่ความหมายเปลี่ยน
-ing = น่า , ed = รู้สึก
-much many few little
-the number of , a number of..
-lay laid laid การใช้ lie กับ lay + 3ช่อง
-อย่าใช้ v2 v3 สลับกัน
-เรียง Adj (ภาพลักษณ์ ขนาด วัสดุ)
- my , mine ect.
-เรียงadj.
-N.ที่รูปเอก.กับพหู.รูปเดียวกัน (รูป)
-N.ที่มีตัวท้ายs แต่เป็นเอก.
-relative clause
-hard , hardly adv.ที่รูปเดียวกับadj. , adj.ที่เติมlyแล้วความหมายเปลี่ยน
-between , among
- v. + v.1
-v. + v.ing
-v. + to v.
- conjunction เน้น correlative > conj.ที่ใช้คู่กัน เช่น both…and
-no , none
-number of.. , amount of ..
-โครงสร้างขนาน
-so + adj + that , such + N.+ that
-ขั้นกว่า ขั้นสุด
-vแท้ไม่แท้
ที่สำคัญคือต้องนึกถึงเป้าหมายเราเข้าไว้ โฟกัสกำลังใจดีๆของเรา อย่าท้อถอยกับคำพูดคนอื่น เหนื่อยเมื่อไหร่พอหายเหนื่อยให้กลับมาสู้ต่อหมั่นจุดไฟให้ตัวเอง เราไม่ได้ทำเพื่อแข่งกับใครแค่เราเป็นคนที่เก่งขึ้นจากเมื่อวานก็เป็นกำไรของเราแล้ว คิดแบบนี้ในทุกๆวัน เขียนเป้าหมายใหญ่ของเรา และเขียนเป้าหมายเล็กในทุกๆวันแล้วพิชิตมัน เก็บแต้มเก็บธงไปเรื่อยๆ เราจะเพลินจนพอวันนั้นมาถึง มันเร็วจนน่าแปลกใจว่า ห๊ะ วันนี้มาถึงแล้วหรอ ภูมิใจในวินัยของตัวเอง อย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด ถ้าเราคิดแล้วไม่ได้ทำเราจะคิดวกไปวนมาทั้งกลัวทั้งเครียดและกดดัน ลุกขึ้นมาทำมันเลยแม้จะเป็นการท่องศัพท์แค่1คำ เดือนหนึ่งศัพท์30คำก็เปลี่ยนชีวิตเราได้ เปลี่ยนคะแนนเราได้ เปลี่ยนจากไม่ติดเป็นติดได้ อย่าลดความพยายามนะคะแล้วมาเป็นส่วนหนึ่งของ อังกฤษ9วิชาสามัญ70+กันนะ
Ps.มีอะไรปรึกษาพี่ได้ทางทวิต English.JB นะ
Kun-kaijeaw
29 เม.ย. 62 เวลา 21:13 น.
15,536
views
แสดงความคิดเห็น