อยากเรียนหมอ เมื่อพบความฝันที่สายไป..
ตั้งกระทู้ใหม่
เรามีความคิดที่จะแอบซิ่วอย่างจริงจัง โดยเรียนไปด้วยซิ่วไปด้วย คิดอย่างเดียวคือ ตายเป็นตาย เรียนให้หนัก อ่านให้เยอะ แต่พอมาค้นคว้าข้อมูลกสพท.อีกครั้ง ทำให้รู้ว่าเด็กปี2ขึ้นไป จะต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยเดิมก่อนถึงจะมีสิทธิ์ติดในรอบกสพท. ตอนนั้นเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาตรงหน้า ภาพความฝันที่เราจะได้เรียนหมอเหมือนแตกสลายไปเลย เราร้องไห้หนักมาก เพราะพ่อแม่เราไม่ยอมให้ลาออกก่อนแน่ๆ พวกท่านไม่ยอมให้เราทิ้งความแน่นอนไปแน่ๆ
ทำไมถึงรู้ตัวช้า?? พ่อเราอยากให้เรียนวิศวะ ส่วนแม่อยากให้เรียนหมอ แม่เราพูดกรอกหูมาตั้งแต่เด็กว่าเรียนหมอให้แม่หน่อย มาอยากเชิดหน้าชูตา เอาไปอวดคนอื่น บอกตามตรงว่าตอนนั้นเราอคติมาก ไม่อยากเรียนหมอ ทำไมต้องเอาค่านิยมมาบังคับชีวิตลูก เรียนหมอหนัก ทำไมถึงอยากให้เราไปเรียน ด้วยความที่รอบแอดปีเรา เรายังไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไรจริงๆ เคว้งมาก รู้แค่ว่าอยากเรียนสายวิทย์ สุดท้ายก็ติดวิศวะ ดีใจนะ แต่ไม่สุด เพราะเรารู้ว่าเรียนได้ แต่ไม่ชอบ ด้วยลุคเราหรืออะไรต่างๆ ทุกคนจะถามตลอดว่าทำไมไม่ไปเรีนหมอ ทำให้วันนึงเรามานั่งย้อนคิดไปว่า เราอยากเรียนอะไร...
.
.
.
.
.
เราเริ่มสังเกตุตัวเองว่า เวลาเราไปเดินห้องสมุดมหาลัย หรือที่ห้าง เมื่อเราเดินผ่านโซนหนังสือแพทย์ ร่างกาย โรค เหมือนมีอะไรดึงดูดเราไปจับ ไปเปิดมันอ่านตลอด และตลอดเวลาที่ผ่านมาเราชอบวิชาชีวะมาก รู้สึกสนุกไปกับมัน เวลามีอะไรเกี่ยวกับแพทย์ หมอ เราจะสนใจทุกครั้ง ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นเพราะแม่ปลูกฝังมาว่าเราต้องเรียนหมอๆเลยสนใจตามเฉยๆ แต่วันนี้ได้มารู้แล้วว่า สิ่งที่เราสนใจจริงๆก็คือหมอนั่นแหละ....
ตอนนี้เราเครียดมากๆ เพราะเราอยากยื่นกสพท.แต่มีข้อบังคับที่จะต้องออกจากมหาลัยเดิมก่อน พอลองดูรอบแอดเช่นทันตะ ส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดที่เปิดรับ ซึ่งพ่อกับแม่เคยบอกไว้ว่า ถ้าจะซิ่ว ซิ่วเอามหาลัยเดิมหรือใกล้ๆเท่านั้น ตอนนี้เหมือนชีวิตเจอทางตัน รู้สึกแย่กับตัวเอง เกลียดตัวเองมากๆที่เจอความฝันช้า ทำไมถึงรู้ตัวเองช้าขนาดนี้ ทำไมถึงแย่ขนาดนี้ ทำให้ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจไม่ได้ซักที
เกรดที่วิศวะตอนนี้ไม่ใช่ไม่ดีจนอยากซิ่ว เราว่าตัวเราเกรดค่อนข้างดีเลย เพราะเราเต็มที่กับสิ่งที่เรียน แต่พอคิดว่าเราจะต้องมาอ่าน มาทำในสิ่งนี้ในอนาคตอีกก็รู้สึกหนักไปหมด ทั้งกายทั้งใจ เราเรียนในสาขาที่การรับเข้าทำงานบริษัทต่างๆไม่ค่อยรับผญ.เท่าไหร่ ถึงจะบอกว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าในโลกแห่งความจริงผญ.กับผช.ก็ยังไม่ได้เท่าเทียมกันอยู่ดี
ฝากถึงน้องๆที่่อาจจะเผลอกดเข้ามาอ่านจนจบ รีบค้นหาตัวเองให้เจอ หาในสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ มีความสุขกับมัน ไม่ใช่คิดว่าเราเรียนได้ เราเคยคิดเหมือนกันว่าเราจะไม่ให้ตัวเองเจอแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าวันนึงเรากับมาเป็นคนบอกคนอื่นซะเอง น้องๆที่อยากเป็นหมอตั้งใจอ่านหนังสือนะ ทำความฝันเผื่อพี่ด้วย^^ และถึงเด็กซิ่วคนอื่นทุกๆคนที่มีความฝัน ให้พยายามให้เต็มที่ สู้ๆ ซิ่วกี่ปีไม่มีช้าไม่มีสาย ทำในสิ่งที่มีความสุขและเป็นตัวเรานะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เด็กที่อยากซิ่ว
3 มิ.ย. 62 เวลา 22:41 น.
2,112
views
4 ความคิดเห็น
มี ตัวอย่างให้เหน เดกที่จบ วิศว ฬ ก้อกลับมาสอบเข้าเรียนแพทย์ใหม่ คนที่ดังๆเป็นคดีในอดีตก้อคือ เสริม สาครราษฎร์ หรืออื่นๆอีกหลายคนจบมีทั้งมาทำงานแล้วก้อมี อายุปาเข้าไป 24-30 กว่าก้อมี เป็นเพราะเค้ามาค้นหาตัวตนเจอเอาในตอนนี้ น้องควรเดินไปข้างหน้าเรียนในให้จบก่อนก้อยังไม่สายแล้วไปหาตัวตนในแบบที่น้องต้องการจะได้ทบทวนไปด้วยว่ามันใช่จริงๆในสิ่งที่น้องต้องการหรือปล่าว ของน้องเจอปัญหาตรงที่สอบชนกันพอดี มีเดกที่บ้านซึ่งก้อปีเดียวกับน้องเรียนเหมือนน้อง แต่เค้า Drop ออกมาครึ่งเทอมหลังเพราะตั้งใจมาสอบแพทย์ และก้อสมหวังในปีนี้ได้แพทย์ตามที่ต้องการ จึงมองปัญหาของน้องออก สู้ต่อไปนะน้อง คนเก่งสามารถเลือกได้
ขอบคุณมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ได้เยอะมากๆเลย จะตั้งใจทำของปัจจุบันให้เต็มที่และจะลองสอบแพทย์ดูอีกครั้งค่ะ
เข้าใจความรู้สึกดีเลยค่ะ ตอนนี้พี่กำลังขึ้นปี4แล้ว (ปี59) เรียนวิศวะม.ดังนี่แหละแต่ก็ซิ่วมาจากอีกที่ (ปี58) จริงๆพี่รู้ตัวมาตั้งแต่ตอนจะซิ่วปีแรกแล้วว่าตัวเองอยากเรียนหมอ (ตอนแอดมิชชั่นหลังจากจบม.6 นี่คือหมอไม่อยู่ในหัวเลย5555555) คือความสนใจพี่ไปทางนั้นหมด ซิ่วมาสองปีพี่คะแนนเฉียดฉิวมากแต่ก็ไม่ติด สุดท้ายปีที่สองพี่ตัดสินใจไม่ซิ่วต่อเพราะก็ไม่อยากให้พ่อแม่เครียดอะเนอะ แต่พี่ก็รอให้จบปี4 แล้วพี่ก็จะไปสอบหมออีกรอบค่ะ จริงๆแอบเครียดเรื่องอายุ ด้วยความที่กว่าพี่จะได้เรียนหมอก็น่าจะอายุซัก 24-25 แล้วกลัวอ่านหนังสือดึกๆเหมือนเด็ก 18-19 ไม่ไหวแต่พอมาลองคิดว่าถ้าเราจะต้องทำงานซักงานนึงไปตลอดชีวิตเราก็คงอยากเป็นหมอนี่แหละ ไม่อยากมาเสียดายตอนอายุมากแล้วด้วยว่าทำไมตอนนั้นเราถึงไม่สอบหมอนะ
ก็อยากจะบอกน้องว่าสู้ๆ นะคะ ถ้าเราอยากเป็นหมอจริงๆ ก็ค่อยสอบตอนจบแล้วก้ได้ค่ะเผื่อเราจะได้มีทางเลือกมากขึ้นถ้าเกิดน้องไปเรียนละไม่ชอบ จะได้มีอาชีพวิศวกรรองรับเนอะ
ผมก็เป็น dek58 ที่เพิ่งจบปีนี้ ละจะรอสมัครหมอใหม่ดูเหมือนกันครับ พูดคุยกันได้นะครับ
ขอบคุณมากๆนะค้าา หนูขอให้พี่สอบติดดังที่หวังนะคะ ตอนแรกก็คิดว่าจบแล้วค่อยเรียนก็น่าจะดี ได้ปริญญาตั้ง2ใบแหน่ะ กังวลเรื่องอายุเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าฝันจริงๆก็ทุ่มเต็มที่กับมันดีกว่า ขอให้พี่สู้นะค้า
มี line ไหมครับ ไว้คุยกัน
ขอเป็นกำลังใจให้ทำได้ตามความฝัน ถ้าคิดว่าเราสามารถสอบเข้าแพทย์ได้แน่ๆก็ไปคุยกับพ่อแม่คิดว่าท่านต้องเข้าใจแต่บางครั้งผู้ใหญ่ก็กลัวความเสี่ยงดังนั้นเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจจริงและมั่นใจว่าเราทำได้ท่านจะได้สบายใจและพร้อมสู้ไปกับเรา โดยส่วนตัวเข้าใจความรู้สืกนี้ดีแต่เพียงกลับกันคือลูกสอบติดแพทย์แต่ขอสละสิทธิ์เพื่อไปเรียนวิศวะ(สละสิทธิ์ tcas รอบ3 ไปยื่นรอบ 4) สุดท้ายก็ยอมตามใจลูกเพราะเค้าแสดงความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นให้เราเห็น หวังว่าหนูคงสู้นะเพราะหนทางข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นวิศวะหรือแพทย์ก็ลำบากไม่แพ้กันหรอก
ขอบคุณมากๆนะคะ ดีใจแทนลูกคุณจริงๆค่ะที่มีพ่อแม่เข้าใจขนาดนี้ ลูกคุณต้องภูมิใจมากแน่ๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า
สวัสดีนะ
เรา dek61 เราซิ่วจากวิดวะ มหาลัยชื่อดังย่านสยาม ปีนี้เราซิ่วติดหมอ(ตจว.)
เราเรียนวิดวะไปได้หนึ่งเทอมแล้วดรอปเรียนตอนเทอมสอง เหตุผลคือเราตั้งใจจะซิ่วตั้งแต่แรกอยู่แล้ว 55555 เราอยากเรียนหมอมากๆแต่ปี61 ดราทำวิชาสามัญได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ฟลุ้คทำ pat3 ได้เยแะ เลยไม่มีตัวเลือกลองมาเรียนวิดวะดู พอมาเรียนมันก้อโอเคแหละเรียนได้ เกรดเทอม1 กลางๆไม่แย่และไม่สวยมาก ตอนจะดรอปหยุดอ่านหนังสือนั้น เครียดมากอาจารย์ที่ปรึกษายื้อสุด แต่สุดท้ายเราก็ไฝว้จนดรอปออกมา
อยากจะให้กำลังใจเพราะยังมีใครหลายๆคนที่เรารู้จักอยู่ในสภาวะเดียวกับ จขกท.
เราทุกคนมีฝันและฝันั้นจะช้าจะเร็วไม่สำคัญ ขอแค่เรายังสู้และไม่ทิ้งฝันไปง่ายๆ เราว่าสักวันจะเจอทางออกที่ดีแน่ๆ สู้ๆนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?