รีวิวการสอบสัมภาษณ์โครงการเรียนดี วิศวะแมคคาทรอนิกส์ รอบportfolio พระจอมเกล้าธนบุรี อ่านครบจบที่เดียว
ตั้งกระทู้ใหม่
(ผมจะแบ่งเป็นช่วงๆนะครับ)
======มาถึงหน้ามอ======
ผมมาถึงหน้ามอประมาณ 6.30 ที่หน้ามอจะมีรุ่นพี่มาคอยบอกทางประมาณ 3 คน ผมก็ไปถามพี่เขาว่าอาคารวิศววัฒนะอยู่ตรงไหน ผมก็เดินไปตามที่พี่เขาบอก ระหว่างทางเดินผมก็ชมบรรยากาศ พูดจากใจไม่ได้อวยเลยว่ามอนี้สวยจริงๆ พื้นที่เล็กก็จริง แต่ออกแบบตึกเรียนได้น่าอยู่ ร่มรื่นมาก เรื่องบรรยากาศผมเทให้มอนี้เลย พอไปถึงก็ไปเข้าห้องน้ำหรือกินข้าวให้เรียบร้อย จากนั้นก็จะมีพี่ภาคมาเรียกรวม ให้นั่งเป็นสาขาไว้(สำหรับสาขาแมคคาทรอนิกส์จและสาขาวิศวะอุตสาหการจะอยู่ภาคเดียวกันนะครับ) โชคดีที่คนที่มีสิทธิ์สัมของสาขานี้มีไม่เยอะแค่ 24 คนเอง(มาครบไหมอันนี้ไม่รู้เพราะผมมาเช้าเลยอยู่แถวหน้าๆ)
=====มาถึงตึกสัมภาษณ์====
ประมาณ 7.30 พี่ๆก็จะพาขึ้นไปชั้นที่เราต้องสัมนะครับ พอไปถึงยังไม่ได้สัมเลยนะ จะได้ไปที่ห้องรับรองก่อน จากนั้นพี่เขาก็จะให้ใบสมัครมากรอก ในใบก็จะถาม"ชื่อ รหัสประจำตัว โรงเรียน ความสามารถพิเศษ ลงที่ไหนไว้ ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่/คณะนี้/สาขานี้ ต้องการรับทุนไหม คาดหวังอะไรกับมหาลัย" เราก็เขียนๆลงไป (ตรงนี้เราต้องเขียนความจริงนะครับ เขียนไปตรงๆเลยเพราะใบนี้กรรมการจะอ่านและถามเกี่ยวกับเรา) จากนั้นพี่ก็จะให้เรียงเอกสาร ขาดเหลืออะไรพี่ๆเข้าก็จะไปถ่ายเอกสารให้(ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ถึงในเว็ปไม่ได้บอกให้เอาพวกสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน เราก็ควรจะเตรียมไปเผื่อนะครับ ของผมก็เกือบแล้วดีนะผมเอะใจหยิบมาด้วยแผ่นหนึ่ง) ระหว่างที่กรอกข้อมูล เรียงลำดับเอกสาร พี่เข้าก็จะพูด ให้กำลังใจ บอกประสบการณ์นั่นนี่ ส่วนนี้ค่อนข้างผ่อนคลายมากครับทำให้หายตื่นเต้นไประดับหนึ่งเลย จากนั้นพี่เขาก็จะเรียกให้นั่งเป็นสาขา เรียงลงไปเป็นแถว สำหรับสาขาผมจะเรียงเป็นสองแถวนะครับ ส่วนหน้าตัดจะเป็นลำดับ(ไม่งงนะ ถ้างงก็ช่างมัน 555 แค่เข้าแถวตามสาขาแค่นี้ล่ะครับ) พอจัดแถวเสร็จก็มีอาจารย์เข้ามาอธิบายเกี่ยวกับภาคนี้ให้ฟังครับ
=====เริ่มการสอบสัมภาษณ์======
ประมาณ 9.00 ก็เริ่มการสอบสัมภาษณ์ คนก็จะถูกเรียกไปตามลำดับที่จัดไว้(ผมได้ลำดับ 3) พอคนแรกของแต่ละแถวลุกออกไป ใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้น555 รุ่นพี่ก็ค่อยพูดให้ผ่อนคลายตลอด เท่าที่จับเวลาคร่าวๆก็เฉลี่ยคนละประมาณ 10 นาทีครับ ระหว่างนี้ช่วงที่รอก็ลองคุยกับเพื่อนข้างๆดูนะครับ อาจจะได้เจอกับเขาอีกตอนสอบที่อื่นก็เป็นไปได้ ยังไงก็รู้จักกันไว้ดีกว่านะ เมื่อถึงตาผม ผมก็ลุกออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่ได้สัมเลยนะครับ ได้ไปรอหน้าห้องก่อน สำหรับสาขาผมในห้องจะมีอยู่สองโต๊ะ โต๊ะไหนว่างเราก็เสียบเลย(อันนี้เป็นเทคนิคของผมนะครับ จังหวะนั้นเป็นใครก็สั่นครับ ใจจะเต้นแรง ขี้ก็พร้อมจะไหลตลอดเวลา วิธีแก้ของผมก็คือ หลับตาและนับ 1 ถึง 20 ช้า บอกตัวเองไว้ว่าให้ทุกอย่างแม่งให้หมดต่อให้โลกจะแตก แผ่นดินไหว หรือนิวเคลียร์ตกลงตรงหน้าก็ห้ามลืมตา ต้องนับให้ครบก่อน ลองไปใช้ดูได้)
===สิ่งที่ถูกถามในการสอบสัมภาษณ์======
จำที่ผมบอกข้างต้นได้ไหมครับ ว่าให้คุยกับคนข้างๆไว้ พอผมได้คุยกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ทำให้รู้ว่า คนที่มาสัมกับเราแม่งมันต้องคล้ายๆกับเราแน่ ทั้งความชอบ ทัศนคติ แรงบันดาลใจ อยู่ดีๆสมองส่วนลึกของผมก็ได้บอกว่า"งั้นก็อย่าเหมือนใครสิ" ก่อนเข้าห้องสอบผมจึงทิ้งสคริปต์ทั้งหมดที่เตรียมไว้ ไปแบบเรียลๆเลย ไม่สนแล้วว่าจะติดหรือตก ลุยแม่งอย่างนั้นเลย
พอไปถึงผมก็ไหว้ก่อน(ไหว้ครั้งเดียวนะครับ) และขออนุญาตนั่ง
จากนั้นกรรมการก็ให้แนะนำตัว : ผมก็แนะไป ไม่ได้ยาวมาก ถาม 10 ตอบ 10 ผมอยากให้กรรมการถามที่เหลือเองมากกว่า
กรรมการก็บอกผมให้อธิบายโรงเรียน : ผมก็ตอบว่าว่า"เป็นโรงเรียนประจำอำเภอขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดมหาสารคาม"
กรรมการก็ถามผมว่า"มีนักเรียนกี่คน" : ด้วยความเอ๋อผมจึงตอบว่า"ประมาณ 2-3 ร้อยคนครับ"
กรรมการก็ตกใจ แล้วถามใหม่ : ผมที่ตั้งสติได้เต็มร้อยก็ตอบว่า"ห้องหนึ่งมีประมาณ 40 คน มี 6 ระดับ ระดับละ 12 ห้อง"แล้วก็คิดเลขโชว์(ณ ตอนนั้นผมหายตื่นเต้นและสติผมกลับมาแบบ 100% แล้ว)
กรรมการก็เปิดแฟ้มสะสมแล้วก็ถาม : ก็ตอบตามความจริงไป ว่าทำอะไรมาบ้าง ใครที่ fake มาก็ซวยไปนะครับ
กรรมการก็ถามผมว่า"ทำไมถึงมาที่นี่ ไม่ไปมมสล่ะ" : ผมก็ว่า"ที่ม.สารคาม ไม่มีสาขาแมคคาทรอนิกส์นี้ครับ"(ตอบแค่นี้นะครับ ไม่ได้อวยอะไร)
กรรมการก็ถามผมว่า"แล้วทำไมถึงอยากแมคคาทรอนิกส์" : ผมก็เล่ามาตั้งแต่เด็กเลย สรุปมาคร่าวๆก็"ชอบพวกเครื่องจักรในโรงงานมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมาก็รู้จัก Arduino พอต้องเลือกคณะจึงเลือกคณะนี้"
กรรมการก็ถามว่า"ทำอะไรเกี่ยวกับ Arduino บ้าง" : ผมก็เล่าเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่ผมทำไป และพวกเซ็นเซอร์
กรรมการก็ถามว่า"เซ็นเซอร์เป็นส่วนใดของ IoT" : ผมก็ตอบไปว่า"ผมรู้แค่ว่า IoT คือ internet of things คือบลาๆ.."
กรรมการก็ถามว่า"แล้วรู้จัก industry 4.0 ไหม" : จังหวะนั้นคือผมเอ๋อไปช่วงหนึ่งเลย เพราะพอนึก- 4.0 ออก แต่ก็ไม่แน่ใจว่า industry กับสิ่งที่ผมคิดอยู่มันอันเดียวกันไหม จึงตอบไปว่า"ไม่รู้ครับ"
จากนั้นกรรมการก็ถามตามในใบที่เรากรอก ส่วนที่พีคก็คือ ผมได้เขียนไปว่าได้สมัครสจล.คณะและสาขาเดียวกันด้วย
กรรมการก็ถามคำถามเบสิค "ถ้าติดจะเรียนที่ไหน" : ผมก็ตอบว่า "เรียนที่นี่ครับ"
ผมมาถึงหน้ามอประมาณ 6.30 ที่หน้ามอจะมีรุ่นพี่มาคอยบอกทางประมาณ 3 คน ผมก็ไปถามพี่เขาว่าอาคารวิศววัฒนะอยู่ตรงไหน ผมก็เดินไปตามที่พี่เขาบอก ระหว่างทางเดินผมก็ชมบรรยากาศ พูดจากใจไม่ได้อวยเลยว่ามอนี้สวยจริงๆ พื้นที่เล็กก็จริง แต่ออกแบบตึกเรียนได้น่าอยู่ ร่มรื่นมาก เรื่องบรรยากาศผมเทให้มอนี้เลย พอไปถึงก็ไปเข้าห้องน้ำหรือกินข้าวให้เรียบร้อย จากนั้นก็จะมีพี่ภาคมาเรียกรวม ให้นั่งเป็นสาขาไว้(สำหรับสาขาแมคคาทรอนิกส์จและสาขาวิศวะอุตสาหการจะอยู่ภาคเดียวกันนะครับ) โชคดีที่คนที่มีสิทธิ์สัมของสาขานี้มีไม่เยอะแค่ 24 คนเอง(มาครบไหมอันนี้ไม่รู้เพราะผมมาเช้าเลยอยู่แถวหน้าๆ)
=====มาถึงตึกสัมภาษณ์====
ประมาณ 7.30 พี่ๆก็จะพาขึ้นไปชั้นที่เราต้องสัมนะครับ พอไปถึงยังไม่ได้สัมเลยนะ จะได้ไปที่ห้องรับรองก่อน จากนั้นพี่เขาก็จะให้ใบสมัครมากรอก ในใบก็จะถาม"ชื่อ รหัสประจำตัว โรงเรียน ความสามารถพิเศษ ลงที่ไหนไว้ ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่/คณะนี้/สาขานี้ ต้องการรับทุนไหม คาดหวังอะไรกับมหาลัย" เราก็เขียนๆลงไป (ตรงนี้เราต้องเขียนความจริงนะครับ เขียนไปตรงๆเลยเพราะใบนี้กรรมการจะอ่านและถามเกี่ยวกับเรา) จากนั้นพี่ก็จะให้เรียงเอกสาร ขาดเหลืออะไรพี่ๆเข้าก็จะไปถ่ายเอกสารให้(ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ถึงในเว็ปไม่ได้บอกให้เอาพวกสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน เราก็ควรจะเตรียมไปเผื่อนะครับ ของผมก็เกือบแล้วดีนะผมเอะใจหยิบมาด้วยแผ่นหนึ่ง) ระหว่างที่กรอกข้อมูล เรียงลำดับเอกสาร พี่เข้าก็จะพูด ให้กำลังใจ บอกประสบการณ์นั่นนี่ ส่วนนี้ค่อนข้างผ่อนคลายมากครับทำให้หายตื่นเต้นไประดับหนึ่งเลย จากนั้นพี่เขาก็จะเรียกให้นั่งเป็นสาขา เรียงลงไปเป็นแถว สำหรับสาขาผมจะเรียงเป็นสองแถวนะครับ ส่วนหน้าตัดจะเป็นลำดับ(ไม่งงนะ ถ้างงก็ช่างมัน 555 แค่เข้าแถวตามสาขาแค่นี้ล่ะครับ) พอจัดแถวเสร็จก็มีอาจารย์เข้ามาอธิบายเกี่ยวกับภาคนี้ให้ฟังครับ
=====เริ่มการสอบสัมภาษณ์======
ประมาณ 9.00 ก็เริ่มการสอบสัมภาษณ์ คนก็จะถูกเรียกไปตามลำดับที่จัดไว้(ผมได้ลำดับ 3) พอคนแรกของแต่ละแถวลุกออกไป ใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้น555 รุ่นพี่ก็ค่อยพูดให้ผ่อนคลายตลอด เท่าที่จับเวลาคร่าวๆก็เฉลี่ยคนละประมาณ 10 นาทีครับ ระหว่างนี้ช่วงที่รอก็ลองคุยกับเพื่อนข้างๆดูนะครับ อาจจะได้เจอกับเขาอีกตอนสอบที่อื่นก็เป็นไปได้ ยังไงก็รู้จักกันไว้ดีกว่านะ เมื่อถึงตาผม ผมก็ลุกออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่ได้สัมเลยนะครับ ได้ไปรอหน้าห้องก่อน สำหรับสาขาผมในห้องจะมีอยู่สองโต๊ะ โต๊ะไหนว่างเราก็เสียบเลย(อันนี้เป็นเทคนิคของผมนะครับ จังหวะนั้นเป็นใครก็สั่นครับ ใจจะเต้นแรง ขี้ก็พร้อมจะไหลตลอดเวลา วิธีแก้ของผมก็คือ หลับตาและนับ 1 ถึง 20 ช้า บอกตัวเองไว้ว่าให้ทุกอย่างแม่งให้หมดต่อให้โลกจะแตก แผ่นดินไหว หรือนิวเคลียร์ตกลงตรงหน้าก็ห้ามลืมตา ต้องนับให้ครบก่อน ลองไปใช้ดูได้)
===สิ่งที่ถูกถามในการสอบสัมภาษณ์======
จำที่ผมบอกข้างต้นได้ไหมครับ ว่าให้คุยกับคนข้างๆไว้ พอผมได้คุยกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ทำให้รู้ว่า คนที่มาสัมกับเราแม่งมันต้องคล้ายๆกับเราแน่ ทั้งความชอบ ทัศนคติ แรงบันดาลใจ อยู่ดีๆสมองส่วนลึกของผมก็ได้บอกว่า"งั้นก็อย่าเหมือนใครสิ" ก่อนเข้าห้องสอบผมจึงทิ้งสคริปต์ทั้งหมดที่เตรียมไว้ ไปแบบเรียลๆเลย ไม่สนแล้วว่าจะติดหรือตก ลุยแม่งอย่างนั้นเลย
พอไปถึงผมก็ไหว้ก่อน(ไหว้ครั้งเดียวนะครับ) และขออนุญาตนั่ง
จากนั้นกรรมการก็ให้แนะนำตัว : ผมก็แนะไป ไม่ได้ยาวมาก ถาม 10 ตอบ 10 ผมอยากให้กรรมการถามที่เหลือเองมากกว่า
กรรมการก็บอกผมให้อธิบายโรงเรียน : ผมก็ตอบว่าว่า"เป็นโรงเรียนประจำอำเภอขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดมหาสารคาม"
กรรมการก็ถามผมว่า"มีนักเรียนกี่คน" : ด้วยความเอ๋อผมจึงตอบว่า"ประมาณ 2-3 ร้อยคนครับ"
กรรมการก็ตกใจ แล้วถามใหม่ : ผมที่ตั้งสติได้เต็มร้อยก็ตอบว่า"ห้องหนึ่งมีประมาณ 40 คน มี 6 ระดับ ระดับละ 12 ห้อง"แล้วก็คิดเลขโชว์(ณ ตอนนั้นผมหายตื่นเต้นและสติผมกลับมาแบบ 100% แล้ว)
กรรมการก็เปิดแฟ้มสะสมแล้วก็ถาม : ก็ตอบตามความจริงไป ว่าทำอะไรมาบ้าง ใครที่ fake มาก็ซวยไปนะครับ
กรรมการก็ถามผมว่า"ทำไมถึงมาที่นี่ ไม่ไปมมสล่ะ" : ผมก็ว่า"ที่ม.สารคาม ไม่มีสาขาแมคคาทรอนิกส์นี้ครับ"(ตอบแค่นี้นะครับ ไม่ได้อวยอะไร)
กรรมการก็ถามผมว่า"แล้วทำไมถึงอยากแมคคาทรอนิกส์" : ผมก็เล่ามาตั้งแต่เด็กเลย สรุปมาคร่าวๆก็"ชอบพวกเครื่องจักรในโรงงานมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมาก็รู้จัก Arduino พอต้องเลือกคณะจึงเลือกคณะนี้"
กรรมการก็ถามว่า"ทำอะไรเกี่ยวกับ Arduino บ้าง" : ผมก็เล่าเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่ผมทำไป และพวกเซ็นเซอร์
กรรมการก็ถามว่า"เซ็นเซอร์เป็นส่วนใดของ IoT" : ผมก็ตอบไปว่า"ผมรู้แค่ว่า IoT คือ internet of things คือบลาๆ.."
กรรมการก็ถามว่า"แล้วรู้จัก industry 4.0 ไหม" : จังหวะนั้นคือผมเอ๋อไปช่วงหนึ่งเลย เพราะพอนึก- 4.0 ออก แต่ก็ไม่แน่ใจว่า industry กับสิ่งที่ผมคิดอยู่มันอันเดียวกันไหม จึงตอบไปว่า"ไม่รู้ครับ"
จากนั้นกรรมการก็ถามตามในใบที่เรากรอก ส่วนที่พีคก็คือ ผมได้เขียนไปว่าได้สมัครสจล.คณะและสาขาเดียวกันด้วย
กรรมการก็ถามคำถามเบสิค "ถ้าติดจะเรียนที่ไหน" : ผมก็ตอบว่า "เรียนที่นี่ครับ"
กรรมการก็ถามอีกว่า"ถ้าไปสัมที่ลาดกระบังล่ะ จะตอบยังไง" : ผมก็ตอบว่า "เรียนที่ลาดกระบังครับ"
(มันเป็นความตรงๆแบบพูดไม่คิดของผม คิดว่าการพูดตรงๆแบบนี้แหละ มันทำให้ผมต่างจาก 23 คนที่เหลือ 5555)
อาจารย์เขาก็จับเวลาตอนสัมนะครับ ประมาณ 10 นาที เมื่อสัมเสร็จผมก็ออกจากห้องในสภาพล่องลอย มั่นใจ 50 50
ปล.ผมไม่ได้ทำข้อสอบนะครับ มันมีแผ่นข้อสอบว่างอยู่บนโต๊ะ แต่ผมไม่ได้ทำ พอตอนผมอธิบายโปรเจกต์กรรมการก็มีกระดาษและดินสอให้พร้อม เท่าที่เห็นเป็นข้อสอบวงจรไฟฟ้านะครับ
ปล2.ผลประกาศออกมาว่าผมมีสิทธิ์ clearing house ของมจธ.นะครับ
=====จบ=======
โอเค...ต่อไปก็ขอบอกสักหน่อย
ในรอบที่ 1 นี้ผมได้ลงและมีสิทธิ์สัมไปสามที่นะครับ (เพราะขี้เกียจไปสอบเยอะ) เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั้งหมดนั่นคือ
บางมด โครงการเรียนดี สาขาแมคคาทรอนิกส์
ลาดกระบัง โครงการช้างเผือก สาขาแมคคาทรอนิกส์
ขอนแก่น โครงการเด็กดีมีที่เรียน สาขาคอมพิวเตอร์
ในวัน clearing house นี้ผมได้ยืนยันสิทธิ์ที่ลาดกระบังไป
เดี๋ยวสัมลาดกระบังผมจะมารีวิวอีกทีนะครับ
เอาแหละสุดท้ายนี้...นี่ก็เป็นทั้งหมดที่ผมได้ไปสอบมานะครับ
มันอาจจะยาวไป แต่ก็อย่างที่บอกว่าผจะมารีวิวระเอียด
ผิดพลาดเรื่องข้อมูล ใช้คำผิด หรืออะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย
ผมสมัครแอคเพื่อมารีวิวเฉยๆ คาดว่าคงไม่ได้มาตอบคำถามใครนะครับ
(มันเป็นความตรงๆแบบพูดไม่คิดของผม คิดว่าการพูดตรงๆแบบนี้แหละ มันทำให้ผมต่างจาก 23 คนที่เหลือ 5555)
อาจารย์เขาก็จับเวลาตอนสัมนะครับ ประมาณ 10 นาที เมื่อสัมเสร็จผมก็ออกจากห้องในสภาพล่องลอย มั่นใจ 50 50
ปล.ผมไม่ได้ทำข้อสอบนะครับ มันมีแผ่นข้อสอบว่างอยู่บนโต๊ะ แต่ผมไม่ได้ทำ พอตอนผมอธิบายโปรเจกต์กรรมการก็มีกระดาษและดินสอให้พร้อม เท่าที่เห็นเป็นข้อสอบวงจรไฟฟ้านะครับ
ปล2.ผลประกาศออกมาว่าผมมีสิทธิ์ clearing house ของมจธ.นะครับ
=====จบ=======
โอเค...ต่อไปก็ขอบอกสักหน่อย
ในรอบที่ 1 นี้ผมได้ลงและมีสิทธิ์สัมไปสามที่นะครับ (เพราะขี้เกียจไปสอบเยอะ) เป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั้งหมดนั่นคือ
บางมด โครงการเรียนดี สาขาแมคคาทรอนิกส์
ลาดกระบัง โครงการช้างเผือก สาขาแมคคาทรอนิกส์
ขอนแก่น โครงการเด็กดีมีที่เรียน สาขาคอมพิวเตอร์
ในวัน clearing house นี้ผมได้ยืนยันสิทธิ์ที่ลาดกระบังไป
เดี๋ยวสัมลาดกระบังผมจะมารีวิวอีกทีนะครับ
เอาแหละสุดท้ายนี้...นี่ก็เป็นทั้งหมดที่ผมได้ไปสอบมานะครับ
มันอาจจะยาวไป แต่ก็อย่างที่บอกว่าผจะมารีวิวระเอียด
ผิดพลาดเรื่องข้อมูล ใช้คำผิด หรืออะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย
ผมสมัครแอคเพื่อมารีวิวเฉยๆ คาดว่าคงไม่ได้มาตอบคำถามใครนะครับ
Bendawisp
31 ม.ค. 63 เวลา 00:29 น.
6,508
views
2 ความคิดเห็น
เราอยากรรู้ว่าทำไมถึงเลือกลาดกระบัง
อันนี้เราลังเลอยู่นานเลยนะ เพราะเลือกยากมากๆ
เหตุผลก็พอดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักเยอะที่ลาดกระบัง มอกว้าง และเราว่าบางมดการจราจรมันน่ากลัวไปหน่อย
อยากให้รีวิวของลาดกระบังด้วยได้ไหมคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?