Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กซิ่ว กสพท63 อยากสอบถามคุณกัลย์ค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอสอบถามคุณกัลย์หน่อยค่ะ เป็นเด็กซิ่วกสพท63 ค่ะ เหมือนจะซิ่วไม่ติดอีกครั้ง วางแผนไม่ดีเลยค่ะ เสียเวลาเรียนในคณะเทอมนึง ละดรอปเทอมสองช่วงม.ค ทุกอย่างไม่ทันไปหมด ผิดหวังกับตัวเองมากๆ บางทีคิดอยากฆ่าตัวตายขึ้นมา ทรมานมากถ้าได้กลับมาเรียนคณะเดิมอีก พ่อแม่ส่งเสียเยอะมากอย่างค่าเรียนพิเศษ แต่เราดันทำได้ไม่เต็มที่ ไม่สุดแรง เรียนไม่เก่งก็ไม่พยายามอีก เหมือนจะไม่ติดเลย บางวิชายังไม่แตะ สอบ14-15 มีนานี้แล้ว ควรทำไงต่อไปดีคะ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมแล้ว ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ผิดหวังในตัวเองด้วย อยู่ไปไม่มีประโชน์ ท่านอื่นๆจะมาตอบก็ได้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น

8 ความคิดเห็น

Wongwipa Tah 13 มี.ค. 63 เวลา 01:56 น. 2

เราเกิดมามีสุขภาพแข็งแรง ดีที่สุดแล้วค่ะ ถ้ารู้สึกว่าชีวิตไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ให้ลองไปดูที่โรงพยาบาลของรัฐตอนตีสี่ตีห้า จะเห็นว่าทุกคนพยายามมารักษาชีวิตกันทั้งนั้น ตอนนี้ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ท้อได้แต่อย่าถอย อีกวันสองวันจะสอบ 9วิชาสามัญ แล้วนะคะ มองในแง่ดี ความเป็นเด็กซิ่ว ได้เปรียบกว่า เคยเห็นข้อสอบมาแล้ว มีประสบการณ์มาแล้ว ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง พลาดไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ 9 วิชาสามัญ ยังรออยู่ สู้ๆค่ะ ผลความสำเร็จข้างหน้ามันคุ้มค่า ทำให้เต็มที่เท่าที่ทำได้ตามกำลัง

0
ผปค.DekD 13 มี.ค. 63 เวลา 07:55 น. 3

ชีวิตหลังเรียนจบอีกยาวไกล พลาดครั้งนี้ ขอให้ตั้งสติและลุกขึ้นมาเริ่มใหม่ได้ ไม่มีช้าไปสำหรับการศึกษาครับ ถามตัวเองก่อนว่า แน่วแน่จริงจังหรือยัง แล้วเริ่มใหม่เลยครับ

ลองอ่าน บทความของกระทู้นี้ เป็นตัวอย่าง

https://www.dek-d.com/board/view/3853953/

0
M_a_R_c_H 13 มี.ค. 63 เวลา 08:50 น. 4

ถ้าถามตอนนี้... สิ่งที่ทำได้คือใช้เวลาที่เหลือก่อนสอบให้ดีที่สุด ไม่ต้องมานั่งโทษตัวเองเพราะตอนนี้คือไม่ทันแล้ว และที่สำคัญ "มันไม่ใช่เวลา"


Next step จะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไป บางทีก็อยากให้กลับมามองความจริงกับความฝัน ถ้ามันไปด้วยกันไม่ได้ ก็ออกมาสู่โลกของความจริงแล้วรับมันให้ได้ การที่ไม่ได้เป็นหมอ ชีวิตมันก็ไม่ได้ล่มจมขนาดนั้น ทุกอาชีพมันก็สำคัญ หาตัวตนให้เจอแล้วตื่นจากความฝันครับ


ส่วนตัวถนัดกับอะไรที่ตรงไปตรงมา ถ้าจะเน้นไปทางเตือนสตืให้คิดเองครับ

0
Sleepytimeeeee 13 มี.ค. 63 เวลา 10:13 น. 5

คืออย่างนึงที่อยากให้่น้องคิดคือ น้องกำลังเข้าคณะที่น้องจะเจอกับ toxic work environment ตั้งแต่น้องยังเรียนไม่จบนะครับ..


ซึ่งพี่ไม่รู้ว่าที่น้องเครียดขนาดนี้คือมันเป็นพื้นฐานของน้องตั้งแต่เด็ก หรือช่วงนี้น้องอดนอนเพราะกลัวอ่านไม่ทัน หรือพ่อแม่กดดันน้องมาก แต่เข้าไปน้องจะเจอความกดดันมากกว่านี้(ซึ่งทำให้เป็นหมอที่ดีไหม ก็แล้วแต่คนจะคิด แต่พี่ว่าบางคนยิ่งโดนกดดันยิ่งทำงานแย่มากกว่า) แล้วน้องจะเรียนไม่จบเอา


 พี่อยากให้น้องคิดดีๆว่ามันมีอะไรที่ตัวเองแก้ได้ไหม ไม่งั้นน้องจะเข้าไปทรมานต่อข้างใน ถ้าไม่ไหวก็ไปหาจิตแพทย์ซะ(แต่แนะนำให้คิดดีๆก่อนว่าปัญหาของตัวเองคืออะไร เพราะหมอเขาอ่านใจน้องไม่ได้)

0
กัลย์ 13 มี.ค. 63 เวลา 10:22 น. 6

ทุกปีจะมีเด็กที่สอบไม่ติดแพทย์/ทันตะ กสพท.เป็นจำนวนมาก แม้แต่เด็กโรงเรียนดังแถวสามย่าน หรือ ม.จุฬา ก็ยังสอบไม่ติดแพทย์เยอะแยะไป เด็กที่มีเป้าหมายแน่นอน ต้องซิ่วสอบใหม่ปีละ 100 กว่าคน(เฉพาะโรงเรียนดัง) ไม่รวมเด็กทั่วประเทศอีกจำนวนมาก และมีพวกจบปริญญาตรี ปริญญาโท เปลี่ยนอาชีพมาสอบแพทย์ ใหม่อีกจำนวนมาก


เด็กซิ่วบางคนเลือกอ่านหนังสืออยู่บ้าน เตรียมตัวสอบ ไม่เรียนมหาวิทยาลัยเลย

เด็กซิ่วบางคนเลือกเรียนมหาวิทยาลัย และอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบไปด้วย

คือเลือกให้เหมาะสมกับตัวเด็กเอง การเลือกเตรียมตัวสอบทั้ง 2 แบบ มีเด็กทั้งประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ แต่มีเด็กที่ประสบความสำเร็จเป็นสัดส่วนส่วนน้อย ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของประเทศ


เมื่อเราเลือกแบบที่ 1 และเตรียมตัวผิดพลาดไป ก็แก้ไขใหม่ได้ เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ให้มันผ่านไปเลย อย่าไปคิดถึงมันอีก อย่าคิดซ้ำ คิดซ้อน อย่าคิดเรื่องไกลเกินไป ให้คิดเรื่องใกล้ๆ ก็พอ หากมีเป้าหมายที่แน่นอน ก็สู้ต่อไปเหมือนคนอื่นๆ 

หากพิจารณาแล้ว เราสู้ไม่ไหว ก็ถอยออกไป ลองพิจารณาดูคณะใหม่ที่ชอบต่อไป อาชีพมีหลายอาชีพ


ที่บอกว่า วันพรุ่งนี้จะสอบแล้ว ตอนนี้เตรียมตัวไม่ทันแล้ว ก็ให้รู้จักปล่อยวาง ไม่ทันก็ไม่ทัน

ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่าไปกังวลอะไร ไม่ต้องไปกังวลอะไร อย่าคิดมาก


มีเด็กมหาวิทยาลัยปี 1 บางคน ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ม.4- ม.6 เลย เพราะอ่านแต่หนังสือ เตรียมตัวสอบของมหาวิทยาลัย และมีความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์-คณิตของมหาลัย แต่ไปสอบ กสพท.และ 7 วิชาสามัญ โดยใช้ความรู้เดิมๆ สอบโดยไม่มีความกังวลอะไรเลย สอบติดแพทย์ ก็มี


อ่านจากข้อความ ที่บอกว่า ตอนนี้ใกล้สอบแล้ว อะไรก็ไม่ทัน ไม่ทันไปหมด

แสดงว่า เกิดความเครียด ตอนนี้ให้รู้จักปล่อยวาง ไม่ทันก็ไม่ทัน ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่าไปคิดอะไรมาก ขอแนะนำว่า วันนี้อย่าอ่านหนังสือ ให้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง หาความบันเทิง ออกกำลังกายให้เหงื่อออกมากๆ ให้ลืมเรื่องสอบไปก่อน

พรุ่งนี้ก็ไปสอบตามเวลาที่กำหนด จะรู้สึกดีเอง อาจจะทำได้ดีกว่าเดิม ก็ได้


ส่วนเรื่องเงินเรียนพิเศษจำนวนมาก เรื่องเล็กมาก ขยันทำงาน หาใหม่ได้ อย่าไปเสียดาย

ส่วนเรื่องพ่อ แม่ ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลว่า จะผิดหวังในตัวลูกหรอก ลูกกืคือลูก พ่อแม่รักลูกมากอยู่แล้ว


 สรุป สอบโดยไม่มีความกังวล ไม่มีความกดดัน ใช้ความรู้เดิมๆ ผลสอบอาจจะดีกว่าที่คิด ก็ได้ ไม่เชื่อก็ลองดู

0
....... 13 มี.ค. 63 เวลา 16:44 น. 7

เคยไปเรียนว่ายน้ำแถวสนามกีฬาแห่งชาติ แต่เหนื่อย แล้วก็เบื่อมาก หนาวด้วย

(ช่วงนั้นอากาศหนาว) ไม่อยากไปเลย แต่ถูกบังคับ

วันนึง พบ คนแขนขาดสองข้างแค่ไหล่ ขาข้างนึงขาดใต้เข่า เห็นตอนนั่งรถเข็นมาริมสระน้ำ

สามารถเปลี่ยนชุด และลงว่ายน้ำได้ ไปกลับเป็นร้อยเมตร โดยไม่มีใครช่วย ว่ายอยู่นาน

ตั้งแต่นั้นก็เป็นภาพติดตามาตลอด เราโชคดี ร่างกายครบ 32 ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว

แค่มีคุณอยู่ พ่อแม่ก็มีความสุขมากมายมหาศาลแล้ว อย่าเข้าใจผิดเลย

0
totheworld 16 มี.ค. 63 เวลา 21:28 น. 8

ชีวิต มีค่ามากกว่า จะมาตายเพราะเรื่องแค่นี้ค่ะ พอน้องโตขึ้น น้องจะรู้ว่า ชีวิตไม่ได้เป็นไปตามที่น้องคาดหวังเสมอไป คนบางคนสอบได้หมอ จบมาไม่อยากเป็นหมอก็มีเยอะแยะ จากประสบการณ์พี่ที่เคยอยากเป็นหมอ เป็นเด็กวิทย์ที่ผันตัวมาเรียนสายสังคม พี่บอกเลยว่าตัวพี่เองก็ไม่ได้แฮปปี้ในการเรียนสายสังคม แต่ก็เรียนได้ และจบมาก็ไม่ได้ทำงานตรงกับที่เรียน ชีวิตมีอะไรอีกเยอะเลยค่ะน้อง มันไม่ได้อยู่ แค่ที่เป้าหมายหรือปลายทาง แต่มันอยู่ที่ว่า ระหว่างทางน้องได้อะไรไปบ้าง ตอนนี้เหนื่อยก็พัก มีแรงก็สู้ใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันแก้ปัญหาได้ พอน้องโตขึ้นเรื่อยๆ น้องจะรู้ว่า นี่มันปัญหาเล็กมากในชีวิต เชื่อพี่ พี่ผ่านมาแล้ว :)

0