Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวการเตรียมตัวและสัมภาษณ์ BALAC CU & COMMARTS CU รอบ Early Admission 2021 ฉบับคนไม่เรียนพิเศษ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะชาว dek-d ทุกคนนี่กระทู้แรกของเรานะ แนะนำตัวก่อนดีกว่า เราชื่อแปม อายุ 18 พึ่งจบ ม.5 แต่ตัดสินใจสอบ GED เพื่อยื่นเข้าจุฬาภาคอินเตอร์ เราติดคณะอักษรศาสตร์ภาคอินเตอร์ หรือว่า BALAC รอบแรกนั่นเอง
ข้าม background เราแล้วไปอ่านสัมภาษณ์ด้านล่างเลยก็ได้นะ

ขอบอก background ของเราก่อนนะ เราเรียนภาษาอังกฤษ conversation มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็เคยเรียนพิเศษ grammar กับ writing ช่วง ป.5 ถึง ม.2 แล้วก็คอร์ส IELTS writing 2 เดือนช่วงขึ้น ม.4 หลังจากนั้นก็คือไม่ได้เรียนพิเศษเลย สำหรับในโรงเรียน ช่วง ม.ต้น เราเรียนโปรแกรมที่เน้นเรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็เรียนคณิตกับวิทย์เป็นภาษาอังกฤษด้วย ส่วนช่วง ม.ปลาย ก็อยู่โครงการนักเรียนความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ แล้วช่วงปี 2018-2019 เราไปแลกเปลี่ยนที่เมกามา 10 เดือน เราเลยอาจจะได้เปรียบคนอื่นในด้านภาษา เราเองพยายามใช้ภาษาอังกฤษในขีวิตประจำวันตั้งแต่ ม.3 แล้ว แบบฝึกพูดคนเดียว พูดกับเพื่อน เราเลยค่อนข้างแน่นภาษา สไตล์พูดได้เรื่อยๆ

ข้ามมาที่การสัมภาษณ์ COMMARTS กันเลย! BALAC อยู่ด้านล่างนะ
เราสัม COMMARTS หรือนิเทศอินเตอร์ของจุฬา วันที่ 29 มกราคม ทาง Zoom สัมกับอาจารย์ไทย 1 คน อาจารย์ต่างชาติ 1 คนแต่คนที่ถามเราคืออาจารย์ไทย อาจารย์ต่างชาติก็มีรีแอคต่อคำตอบเราบ้างแต่ไม่ถามเลย แล้วปีนี้ COMMARTS ใช้ระบบสัมแบบ ACT (Analytical and Critical Thinking) ซึ่งมันเร็วมากๆ เราใช้เวลาสัมภาษณ์ไปแค่ประมาณ 5 นาทีเอง คำถามก็วนๆอยู่กับโควิดและการสื่อสารนั่นแหละ (จะบอกว่าที่เตรียมๆซ้อมๆไปอาจารย์แทบไม่ถามเลย ที่เตรียมไปคือเอาแนวมาจากในเด็กดีนี่แหละ TT) คะแนน SAT เรายื่น 1230 (verbal 580)
คำถามที่กรรมการถามเรา:

Introduce yourself ข้อนี้ทุกคนคงเจอนะ เนื่องจากสัมที่แรกเราเลยบอกชื่อ ชั้นเรียน จบ GED เคยไปแลกเปลี่ยนมา แล้วก็บอกนิสัย (บอกก่อนเลยว่าแอบลน 555)

How has the COVID-19 pandemic changed people’s use of communication method? ข้อนี้เราตอบประมาณว่าพอมีโควิดเราก็ออกไปไม่ได้ เราต้องอยู่ในบ้าน แล้วกลางปีที่แล้วโรงเรียนเราก็เรียนออนไลน์ รู้สึกว่าการเรียนออนไลน์มันประสิทธิภาพมีไม่เท่าเวลาเรียนปกติในห้อง กรรมการก็ถามตอบว่าคิดว่าการเรียนออนไลน์ไม่มีประสิทธิภาพหรอ เราก็ตอบว่าใช่เพราะเวลาเรียนปกติ ครูบางคนก็สอนได้ง่วงอยู่แล้ว พอมาออนไลน์ก็ยิ่งง่วงไปอีก เพราะนักเรียนบางคนต้องเรียนออนไลน์ในห้องนอน แล้วบรรยากาศมันทำให้ง่วงกว่าเดิม

How may inequality in the use of these methods arise? ข้อนี้เราตอบใช่ แล้วเล่าข่าวที่มีเด็กต้องเอาไอแพดไปนั่งเรียนกลางทุ่งนาเพราะตรงนั้นเป็นที่เดียวที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

What are the challenges of online teaching and learning during the lockdown and how can you adapt to this type of learning? ข้อนี้กรรมการถามต่อจากข้อแรก ตอนแรกเราตอบไปว่าเด็กเล็กไม่สามารถโฟกัสได้ถ้าไม่มีครูหรือผู้ปกครองอยู่ใกล้ๆ ครูควรแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนวิธีการสอนที่ไม่ใช่แค่อ่านให้ฟัง เช่น สอนโดยการใช้เกม ผู้ปกครองควรจะว่างมาดูลูกตอนเรียนด้วย แต่ผู้ปกครองจะว่างไม่ว่างจุดนี้เราก็คุมไม่ได้เพราะผู้ปกครองก็ต้องทำงาน กรรมการก็เบรคเราแล้วถาม what about you? What have you done to adapt to this type of learning? เราเลยบอกว่าปกติเราตั้งใจอยู่แล้วเลยไม่ต้องปรับตัว แค่ต้องบอกตัวเองว่าให้กระตือรือร้นมากขึ้นเวลาที่ต้องเรียนในห้องนอน

ก็จบการสัมภาษณ์ COMMARTS ในเวลาไม่ถึง 6 นาที รอบนี้ใช้คะแนน SAT มาคิดเป็นส่วนใหญ่ เราก็เลยไม่ติดนั่นเอง สิ่งที่อยากบอกคือน้องไปทำคะแนน SAT ให้ได้เยอะๆไว้ก่อนเลย รอบนี้คนติดตัวจริงคะแนน 1330 อัพทั้งนั้น ส่วนสัมภาษณ์น้องอ่านข่าวมาเยอะๆ จะได้หยิบมาใช้ยกตัวอย่างเวลาเราตอบด้วย ส่วนพอร์ต พี่ทำไปแต่ไม่ได้บอกให้กรรมการดูและกรรมการก็ไม่ขอดูด้วย จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ที่สำคัญคือตั้งสติดีๆ ถ้าคิดคำตอบไม่ออกให้หยุดคิดก่อนค่อยตอบ ที่เตือนเพราะพี่มีตอบออกทะเลไปไกลมากข้อนึง รู้ตัวอีกทีก็เรียกขึ้นฝั่งไม่ทันแล้วอายมาก555 
Course Descriptions :   
http://www.inter.commarts.chula.ac.th/page/wp-content/uploads/2019/09/BCM-62-Course-Curriculum_Revised-A-Top.pdf
http://www.inter.commarts.chula.ac.th/page/wp-content/uploads/2017/12/02_BA_2559-update-20-7-2017.pdf

มาดูสัม BALAC ต่อกันเลย!
เราสัม BALAC อักษรอินเตอร์ จุฬา วันที่ 31 มกราคม ทาง Google Meet สัมกับอาจารย์ไทย 1 คน อาจารย์ต่างชาติ 2 คน อาจารย์จะวนถามสลับกันไป คนที่ถามบ่อยคืออาจารย์เกาหลี การสัมภาษณ์ BALAC เรียกได้ว่าต้องอึด ถึก ทนนะสำหรับเรา เพราะกรรมการสัมภาษณ์นานมากๆ (25 นาที) ใช้เต็มเวลาเลย แต่ไม่รู้สึกกดดันเท่า COMMARTS นะ อาจจะเพราะเรามาสัมเป็นที่ที่ 2 หรือเพราะอาจารย์ไม่เร่งเหมือน COMMARTS นี่แหละ
การสัมภาษณ์ BALAC เนี่ยมีคอนเซปสั้นๆว่า ถ้าเราบอก What อาจารย์จะถาม Why ต่อ ต้องคิดวิเคราะห์ในหัวตลอดการสัมภาษณ์เลย การเตรียมสัมภาษณ์เราก็ไปอ่านกระทู้เด็กดีนี่แหละ ซึ่งแนวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันเลย เพราะอาจารย์จะถามต่อจากสิ่งที่แต่ละคนตอบไปแล้ว เราเลยศึกษาวิธีการตอบคำถามของแต่ละคน ซึ่งหลายคนอธิบาย why ได้จริงจังเป็นวิชาการมากๆ จนเราแอบกลัวว่าจะสัมได้รึเปล่า TT โดยเฉพาะช่วง impromptu speech ที่ทั้งกลัวทั้งลุ้นว่าปีนี้จะเป็นคำว่าอะไรบ้าง แต่เราก็ตั้งสติไว้เยอะๆก่อนกดเข้าห้องสัมภาษณ์ คะแนนที่เรายื่น SAT Verbal 580 กับ CU-TEP 92 และเขียน statement of purpose การเขียน SOP เราปรึกษาเพื่อนสมัยที่เราไปแลกเปลี่ยน เพื่อนแนะนำให้เขียนว่าทำไมกรรมการถึงควรรับเรา เรามีคุณสมบัติอะไรที่กรรมการควรรับเรา
คำถามที่กรรมการถามเรา:

Introduce yourself and why are you interested in the program? ข้อนี้เราตอบไปเกือบ 5 นาทีเลยเพราะเราทั้งแนะนำตัวแล้วก็อธิบายว่าทำไมเราสนใจใน BALAC ซึ่งเราเขียนใน SOP มาแล้ว เราก็เลยอธิบายคล้ายๆที่เราเขียนใน SOP เลย ว่าเรามี background ในการอยู่ร่วมกับคนหลากหลายวัฒนธรรมตอนไปแลกเปลี่ยน เราก็เลยอยากเรียน cultural studies ให้มากขึ้น แล้วในอนาคตเราคิดว่า BALAC จะช่วยให้เราทำงานในอนาคตได้ดีขึ้นเพราะเราอยากทำงานกับคนหลากหลาย เราเลยอยากเข้าใจวัฒนธรรมของคนหลายๆกลุ่มเพื่อที่จะทำงานให้ราบรื่น เราอธิบายถึง course ของ BALAC ที่เราสนใจว่ามีอันนี้ๆๆๆเพราะอะไรเราถึงสนใจ จะมีประโยชน์ต่ออนาคตเรายังไง(น้องควรศึกษา Course description มาให้ดี เพราะกรรมการจะได้มองว่าเราสนใจคณะนี้จริงๆ) อะไรคือ goal ของเรา พอตอบเสร็จอาจารย์ก็บอกว่ามี specific interest มากๆ อาจารย์ไม่รู้จะถามอะไรต่อเพราะเราตอบหมดแล้ว555

Say if you’re a reporter, what are the current issues that you’d like to touch on or reported about? เหมือนตอนแนะนำตัว เราบอกกรรมการว่าอยากเป็นนักข่าว กรรมการเลยให้เล่าข่าวซะเลย เราเลยเล่าข่าว Black Lives Matter และ protest ที่เกิดขึ้น (อันนี้ควรเลือกข่าวที่ตัวเองรู้จักดีมาเล่าเพราะกรรมการจะจี้ถามไปเรื่อยๆว่าเราเข้าใจข่าวจริงๆรึเปล่า) อาจารย์ถามต่อเลยว่าข่าวนี้มีอะไรน่าสนใจถึงนำมาเล่า เราตอบว่ามันยังมีความไม่เท่าเทียมกันในอเมริกาอยู่ เราเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกัน เราเลยไม่พอใจที่ตำรวจไม่ฟังจอร์จ ฟลอยด์ หลังจากนั้นเราเล่าเหตุการณ์ที่เจอการโดนเหยียดตอนไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เราเลย relate กับเหตุการณ์นี้ได้ เรามีความคิดว่าการเหยียดกันนี่ไม่ควรจะมีขึ้นมาด้วยซ้ำ เราเสริมว่าวิชาของ BALAC สามารถนำไปใช้ในชีวิตที่ต้องทำงานกับคนหลากหลายวัฒนธรรมได้ เราเลยอยากเรียนเพื่อนำวิชาไปปรับใช้และแก้ปัญหาในสเกลที่ใหญ่ขึ้น

Is racism a big issue in Thailand? เราตอบว่าไม่ค่อยมีการเหยียดเชื้อชาติในไทยเท่าไหร่ แต่การเหยียดสีผิวจะเห็นชัดกว่า แล้วก็ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เคยเจอว่ามีการเหยียดผิวในโรงเรียน

อาจารย์ย้อนกลับมาถามว่า Why do you want to be a reporter? เราก็ตอบเหตุผลของเราไป แบบอะไร inspire ให้เราอยากทำอาชีพนี้

หลังจากนั้นอาจารย์ก็ให้เลือกหัวข้อ 2 ใน 3 หัวข้อที่อาจารย์ให้ดูเพื่อที่จะพูด impromptu speech หัวข้อที่เราได้มี foreign language, art, discrimination (เพื่อนเราได้ food, art, communication บางคนได้ music, game, pop culture) เราเลือก foreign language กับ discrimination แล้วได้เวลาเตรียม 2 นาที(แอบลนแต่รีบตั้งสติก่อนแล้วรีบวางแผนการพูด) เตรียมเสร็จก็ได้เวลาพูด

เราก็เกริ่นก่อนว่าทุกคนแตกต่างกันไม่ว่าจะเชื้อชาติ สีผิว ภูมิภาค มีภูมิหลังและวัฒนธรรมที่ต่างกันทำให้ภาษาที่ใช้ก็ต่างกันด้วย พอคนสองวัฒนธรรมมาเจอกัน แล้วมีวัฒนธรรมนึงที่ใหญ่กว่า ก็จะเกิดการแบ่งแยกที่อาจส่งไปถึงความรุนแรงได้ พอเกริ่นเสร็จเราก็ไปพูดต่อว่า foreign language มีที่มาที่ไปจากภูมิหลังและการดำเนินชีวิตที่ต่างกันของแต่ละชาติ ส่วน discrimination เกิดขึ้นเมื่อ 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายที่ใหญ่กว่าจะดูถูกอีกฝ่าย ซึ่ง discrimination เกิดกับเชื้อชาติ สีผิว และภาษา แล้วเราก็เอาหัวข้อ foreign language กับ discrimination มาผูกด้วยกัน เราก็เล่าประสบการณ์ที่เจอตอนเราไปแลกเปลี่ยน เรายังพูดอังกฤษติดสำเนียงไทยอยู่บ้าง ซึ่งตอนนั้นเราก็เห็นการแตกแยกว่าเด็กเมกันจะเข้าไปคุยกับนักเรียนแลกเปลี่ยนโซนยุโรปที่พูดอังกฤษชัดกว่า มากกว่าเราที่พูดชัดน้อยกว่า เล่าเสร็จเราก็ยกตัวอย่าง discrimination ในที่ทำงาน ว่าพนักงานคนนึงที่พูดอังกฤษเก่งแต่ทำงานด้อยกว่าอีกคนที่ทำงานดีกว่าแต่พูดอังกฤษไม่เก่ง ถ้าเกิดว่าเจ้านายต้องเลือกคนที่จะทำงานกับคนต่างชาติก็คงเลือกคนที่พูดอังกฤษเก่งถึงแม้ว่าจะทำงานไม่เก่งเท่าอีกคน สรุปเราก็บอกว่า discrimination มีทุกที่ แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจที่ดี ทุกคนคงอยู่อย่างสงบสุข พอเราพูดจบอาจารย์ก็ thank you เราก็เลยถามขำๆว่า speech เป็นยังไงบ้าง อาจารย์ก็บอกว่า speech เหมือนถูกท่องมา (จะบอกว่าเราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะเจอ 2 หัวข้อนี้เลยจริงๆ TT) อาจารย์จะถามต่อแต่เวลาจะหมดแล้ว อาจารย์เลยให้เราถามคำถามแทน เราเลยถามเรื่อง dual degree ไป ก็จบการสัมภาษณ์

เป็นการสัมภาษณ์ที่ยาวนานมากในความคิดเรา แต่ก็คุ้มสำหรับการเตรียมตัวเพราะเราติด BALAC นี่แหละ อยากแนะนำน้องๆว่าอย่าลน ตั้งใจฟังตั้งใจคิด ฝึกคิดวิเคราะห์ critical thinking อ่านข่าว ข้อมูลด้านวัฒนธรรม เนื้อหาคณะมาเยอะๆ คะแนนภาษาเอาผ่านเกณฑ์ก็พอเพราะไม่เอามาคิดคะแนนนะ (requirement เกินเอื้อมสุดๆ) สุดท้ายเตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาเจอกัน จากว่าที่ BALAC14 ค่า
Course  Descriptions 
 https://www.arts.chula.ac.th/~balac/v2020/index.php/curriculum/course-descriptions-syllabus/

จบกระทู้สัมภาษณ์ 2 คณะอินเตอร์สายศิลป์ไปแล้ว คำแนะนำสำหรับคนที่จะไม่เรียนพิเศษเลยเหมือนเราคือ กดไลค์เพจและเข้ากลุ่ม learning café รวมพลคนสอบเข้าอินเตอร์ จะมีข้อสอบเก่าและรุ่นพี่หลายคนที่พร้อมให้คำแนะนำ และมีการปล่อยหนังสือมือสองกันด้วย แนะนำให้เข้านะเพราะการสมัครสอบ การสมัครมหาลัย บางครั้งมันซับซ้อนต่างจากภาคปกติพอสมควร ถ้ามีคนปรึกษาจะช่วยได้มากๆเลย
https://web.facebook.com/LearningCafebydom9914
https://web.facebook.com/groups/1669234313171472

หลังจากนี้เราจะมาตั้งกระทู้การเตรียมตัวสอบ SAT, CU-TEP, GED ต่อนะ
ใครสงสัยอะไรสอบถามมาได้ตลอดเลย เรารับสอนพิเศษภาษาอังกฤษด้วยนะทักมาคุยกันก่อนได้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
LINE : napattraj32
FB : Napattra Jira
IG : pammize_nj

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

TractorX4 13 เม.ย. 64 เวลา 13:50 น. 1

ขอบคุณมากครับบบ เล่าละเอียดจริงๆ impromptu speech นี้ร่ำลือกันจริงๆ555+ ยินดีด้วยนะครับผมม เห็นจขกทบอกว่าอยากเป็นแนวๆ reporter, journalist สายสื่อ แอบคิดส่วนตัวว่าน่าจะเหมาะกับคอมอาร์ตมากกว่าบาลัคนะครับ แต่ก็เคารพในการตัดสินใจครับผม

ยังไงก็ขอบคุณครับบผม - จากคนรอสัมบาลัค รอบ2 แอบมาดูแนวของรอบ 1 ครับ

5
nancym 13 เม.ย. 64 เวลา 22:01 น. 1-1

Impromptu ยากเลยค่ะ555 สัมภาษณ์รอบ2ขอให้โชคดีได้ตามที่เตรียมมานะคะ

เราสมัครทั้ง commarts กับ balac ก็เพราะ commarts ก็สายสื่อ ส่วน balac เราสนใจ media concentration อยู่ มัน adapt ไปสายงานนิเทศได้อยู่ บอกความตั้งใจว่าจะเอาถ้าติด เลยเลือกยืนยันสิทธิ์ balac ไปค่ะ

0
TractorX4 15 เม.ย. 64 เวลา 04:12 น. 1-2

โดนถามในsopบ้างไหมครับ ถ้าไม่โดน เราตอบตามsopก็ได้ใช่ไหมครับ 555+ คือเหมือนสัมรอบ 2 เค้าจะตัดพาร์ท impromptu speech ออกไป แน่เรา expect ความยากสัมรอบ1 เลย แบบมันต้องมีพาร์ท critical thinking ให้ analyze ด้วย ยิ่งเราเคยไปลป.เมกา พวก cultural diversity / racism / discrimination / blm นี้น่าจะมีโอกาสโดนสูงเลยปะครับ555+

0
nancym 20 เม.ย. 64 เวลา 12:58 น. 1-3

เราน่าจะตอบช้าไปรึเปล่า แต่ตอบไว้ดีกว่า เราไม่โดนจาก sop เพราะเหมือนเราบอกสิ่งที่อยู่ใน sop ไปตั้งแต่ตอนแนะนำตัวแล้ว

ส่วน blm นี่ถ้าเราไม่พูดอาจารย์อาจจะไม่ถามก็ได้ แล้วที่อาจารย์ให้คำว่า discrimination มาด้วยก็คงเพราะเราเลือกตอบ blm ไปตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละ

0
TractorX4 25 เม.ย. 64 เวลา 10:24 น. 1-4

ถ้าเราไม่ติดตัวจริงแล้วจะมีโอกาสเรียกสำรองไหมครับ จขกทสำรองรอบแรกใช่ไหมครับบ

0
nancym 26 เม.ย. 64 เวลา 08:50 น. 1-5

ถ้าเราเป็นตัวสำรองอันดับแรกๆก็มีโอกาสถูกเรียกค่ะ เราติดสำรองรอบแรกค่ะ

0