Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะแนว เด็กสายอาชีพ ที่อยากต่อมหาวิทยาลัย [ละเอียด]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
แนะแนวทาง สำหรับการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ของเด็กสายอาชีพ
*ทุกคนอ่านได้ละแต่ในเนื้อหาทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับเด็กสายอาชีพโดยตรง

คิดอยู่เหมือนกันจะโพสต์เขียนดีไหม แต่เอาเป็นว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับทั่วไปนะครับ เอาละเข้าประเด็น ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ความคิด ความฝัน และอุดมการณ์สำหรับการใช้ชีวิตแตกต่างกัน ไม่มีใครที่ผิดต่างจากความคิด และเด็กสายอาชีพก็เช่นกัน ที่จะอยากเรียนต่อในระดับมหาลัย โพสต์นี้อาจจะช่วยได้ไม่มากแต่จะเป็นแนวทางให้นะครับ

ผมจะไม่บอกว่ามีคณะไหนบ้างที่อยากเข้า เพราะทุกคนคงมีคณะ สาขา ที่อยู่ในหัวอยู่แล้ว จะขอข้ามขั้นตอนมาเลยละกัน และทำความเข้าใจกัน

1.เมื่อรู้มหาวิทยาลัย คณะ หรือสาขาที่ตัวเองอยากเข้า ก็ต้องศึกษาคณะหรือสาขานั้น ๆ ว่าแต่ละรอบของระบบ TCAS มันคืออะไร https://youtu.be/9mUyCTLL9wc [สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจดูได้คลิปนี้] โอเคต่อ เมื่อเข้าใจระบบของ TCAS แล้วต่อไปคือดูเกณฑ์ของคณะนั้น ๆ สาขา มหาลัยที่ได้รับสายอาชีพ ดูได้ยังไง [ https://www.mytcas.com สามารถดูได้ที่นี้ ตรงหลักสูตรของมหาวิทยาลัย พิมพ์ชื่อ คณะ สาขา มหาวิทยาลัย ] จะมีคำว่า คุณสมบัติของแต่ละรอบว่า ผู้สำเร็จการศึกษา หลักสูตร อาชีวะ หรือเทียบเท่า เป็นต้น หรือ ดูเกณฑ์เอกสารของมหาวิทยาลัย มีรับปวช ไหม ถ้าอยากรู้แบบจริงจัง เราแนะนำว่า ให้โทรไปถามคณะ เลยครับ เพื่ออนาคตของตัวเอง

*เกรดฝึกงานเป็นเกรด 5 หรือ 6 เทอมของเราได้ไหม เป็นได้ครับ
เกรด 4 เทอม เรียน แต่เทอมที่ 5 ออกไปฝึกงาน ก็จะนับในใบปพ. เหมือนเดิม

2.ทีนี้การเข้าของแต่ละรอบก็ไม่เหมือนกันอย่างที่ทุกคนได้ทราบแล้ว บางคนมีผลงานที่ตรงกับสาขา หรือบางคนไม่มีผลงานแต่ต้องใช้คะแนนสอบ เช่น o-net gat pat เป็นต้น ทีนี้ในส่วนของข้อ 2 แนะนำว่า เกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัยไม่เหมือนกัน เช่นบางมหาวิทยาลัย ต้องใช้คะแนนเฉพาะ รอบ 1 บางมหาวิทยาลัยต้องใช้เรียงความ เช่น ให้เรียงคามเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เป็นต้นจะมีแล้วแต่เกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัย ต้องศึกษาและค้นคว้าเองครับ

3.เด็กสายอาชีพสมัคร o-net Gat pat ได้ไหม สมัครได้ เหมือนเด็กสายสามัญ แต่ Onet บางสาขาก็เอา บางคณะก็ไม่เอาต้องดูเกณฑ์ เราต้องสมัครเอง ที่เว็บของ สทศ. ช่วงตุลาคม พ.ย ต้องดูตารางในเว็บเพราะมันจะมีบอก (ไม่เข้าใจทักมาถามได้)

4.ไม่จำเป็นต้องสมัครทุกวิชาสอบ สอบแค่ที่ต้องใช้พอ

5.การอ่านหนังสือ ข้อนี้คงเป็นเครื่องที่หนักหนาน่าดู เพราะเด็กสายอาชีพอย่างเรา ๆ ก็ไม่ได้เรียนพวกสามัญ แบบเด็กม.ปลาย แต่ไม่ต้องกังวลใจไป คณะกรรมการหรืออาจารย์มหาวิทยาลัย เขาไม่ได้ดูว่าคุณจะจบอะไรมา เรียน กศน อาชีวะ สามัญ แต่เขาดูในความพยายามของคุณ ความฉลาด ความเป็นตัวของตัวเองและความอยากเรียนรู้ มันเริ่มจากตรงนี้ละครับ การอ่านหนังสือแนะนำว่า อ่านสรุปมา จากหนังสือ ที่ขายในห้างมีเยอะแยะครับ แต่ต้องแบ่งเวลา เพราะสายอาชีพก็เรียนหนักใช่ได้ คณิตศาสตร์แนะนำว่า ติวได้ก็ติวครับ แนะนำจริงๆเพราะยากมาก ส่วนการติวติวได้ที่ไหนดี ก็ลองหาในกลุ่มการศึกษาทั่วไปละ หรือ ออนไลน์เลยมีปูพื้นฐาน

6.สำหรับเด็กกิจกรรมหรืออยากติดรอบ 1 อันนี้ต้องเคลียร์การบ้านให้หมดเลย โดยเฉพาะโครงการต้องขยันหน่อยๆนะ ;_; เด็กสายอาชีพก็มีสิทธิ์ติดรอบ 1 ได้ และติดได้ในมหาวิทยาลัยดังได้ หรือ ๆ มหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเข้าจริงๆ อันดับแรกก็คงรู้อยู่แล้วว่าคณะหรือสาขาอะไรที่อยากเข้า ค่ายก็เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น แบบว่า เข้าค่ายที่ตัวเองอยากเข้า เช่น ค่ายรัฐศาสตร์ บริหาร คอม การพัฒนาตัวเอง อะไรแบบนี้มีเยอะแยะ หาค่ายจากเว็บไหนดี https://www.camphub.in.th แนะนำครับ และต่อมา คือ

ผลงาน เด็กสายอาชีพอย่างเราจะทำยังไง แข่งก็ไม่ได้แข่ง หรือ โครงการวิทยาศาสตร์อะไรบลา ๆ แนะนำว่า ในส่วนตรงนี้เราต้องค้นหาและค้นคว้าด้วยตัวเอง อ่ะตัวอย่าง อย่างค่ายบริหารธุรกิจ เด็กสายอาชีพทำอะไรดีผลงาน เปิดขายของออนไลน์ เปิดธุรกิจไปขายตลาด เวลาใส่พอร์ต ก็อธิบายไปว่า เราเข้าใจกลไกลตลาด การทำบัญชี การหากลุ่มตัวอย่างลูกค้า อะไรแบบนี้ รู้สึกว่ามันน่าสนใจนะ หรือสาขาอื่น ๆ ที่อยากเข้าก็ลองหาวิธีแปลก ได้ครับ ที่มันตรงกับสาขานะงับ ไม่รู้สิอินดี้

7.อะไรได้บ้างที่จะสามารถเป็นผลงานวิชาการได้บ้าง ย้อนไปข้อ 6 ค่ายบางค่ายก็สามารถเป็นผลงานวิชาการได้ไปในตัว แนะนำว่าลองหาการแข่งขัน หรือการออกไปทำไรนอกจากสถานที่ มุมมองส่วนตัวของเรา ทุกอย่างสามารถเป็นวิชาการได้ไม่มีข้อจำกัด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากวิชาการและการวิจัยทั้งนั้น ไม่มีอะไรไร้สาระ

เจ้าของโพสต์ ติด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ รอบ 1 64 ส่วนสายอาชีพก็เรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาการตลาด

สุดท้ายนี้ ก็หวังว่าจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราครับ จะสายไหนก็มีคุณค่าเท่ากัน จะเรียนอะไรมาก็มีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ถ้าเกิดข้อมูลมีข้อผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ทักมาให้แก้ไขได้นะครับ เพราะพูดจากประสบการณ์ส่วนตัวเอง ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น